ว่ากันว่าครอบครัว คือโรงเรียนแห่งแรกสำหรับเด็ก แต่ถ้าหากสมาชิกในครอบครัว มีข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น ข้อจำกัดด้านเวลา หรือมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ ฯลฯ การฝากเจ้าตัวเล็กของเราไว้กับญาติ หรือ เนอสเซอรี่ (สถานรับเลี้ยงเด็ก เรียกกันอีกชื่อว่าเตรียมอนุบาล) ก็คือตัวเลือกของคนที่มีข้อจำกัดเหล่านั้นนั่นเอง สำหรับบางครอบครัว เนอสเซอรี่ จึงเป็นโรงเรียนแห่งที่สอง ของเจ้าตัวเล็กไปโดยปริยาย ในวันนี้เราจะขอหยิบยก ข้อมูลเกี่ยวกับเนอสเซอรี่ในญี่ปุ่น มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ว่าจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกับเนอสเซอรี่ในประเทศไทยมากน้อยเพียงใดค่ะ

ประเภทของเนอสเซอรี่

เนอสเซอรี่ในประเทศญี่ปุ่น แบ่งได้ 2 ประเภท คือ

1. เนอสเซอรี่ที่ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ

เนอสเซอรี่

เนอสเซอรี่ที่ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ (Ninka-Hoikuen 認可保育園) เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กที่ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้กฏหมายสวัสดิการเด็กและผู้เยาว์ (จากนี้จะขอเรียกว่า “นินคะโฮ”) เปรียบเสมือนเนอสเซอรี่ของรัฐบาลและกึ่งรัฐบาล ผู้ปกครองที่สนใจส่งบุตรเข้าเรียนที่นินคะโฮ จะต้องไปติดต่อ และยื่นใบสมัครผ่านเขตที่อาศัยอยู่ โดยผู้ปกครองที่สามารถยื่นสมัครเข้าเนอสเซอรี่ให้กับบุตรได้นั้น จะต้องมีเงื่อนไขตรงตามที่แต่ละเขตเป็นผู้กำหนดค่ะ

2. เนอสเซอรี่ที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขฯ

เนอสเซอรี่

เนอสเซอรี่ที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขฯ (Ninkagai-Hoikuen 認可外保育園) เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กที่ดำเนินการขึ้นโดยเอกชน (จากนี้จะขอเรียกว่า “นินคะไกโฮ”) ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงสาธารณสุขฯ แต่การจัดตั้งนินคะไกโฮนั้น จะต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดของกฏหมายคุ้มครองสวัสดิการเด็กและผู้เยาว์ค่ะ เนื่องจากนินคะไกโฮ เปรียบได้เป็นเนอสเซอรี่เอกชนเต็มตัว ผู้ปกครองที่สนใจส่งบุตรเข้าเรียนที่นินคะไกโฮ สามารถติดต่อและยื่นใบสมัครโดยตรงได้ที่เนอสเซอรี่ค่ะ โดยที่นินคะไกโฮ จะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการรับเข้าดูแลค่ะ

ข้อแตกต่างระหว่าง “นินคะโฮ” และ “นินคะไกโฮ”

นินคะโฮ และนินคะไกโฮ มีจุดแตกต่างกัน 4 ข้อ ดังนี้

1. เกณฑ์การจัดตั้ง

นินคะโฮ : จัดสรรจำนวนคุณครูผู้ดูแล ให้เหมาะสมตามวัยของเด็ก และยังมีการกำหนดพื้นที่ ที่เหมาะสมสำหรับเด็ก 1 คน เช่น เด็กอายุ 2 ขวบ ต้องมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมประมาณ 2 ตารางเมตร ถ้าพื้นที่ของห้องทั้งหมดกว้าง 20 ตารางเมตร ห้องนั้นจะสามารถรับเด็ก 2 ขวบ เข้าไปดูแลได้ไม่เกิน 10 คน
นินคะไกโฮ : จะไม่มีการกำหนดจำนวนคุณครูผู้ดูแล และพื้นที่ใช้สอย แต่จำนวนคุณครูผู้ดูแล รวมไปถึงพื้นที่ใช้สอย จะถูกกำหนดไว้ตายตัวภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายการก่อตั้งนินคะไกโฮค่ะ

2. เงินสนับสนุน

นินคะโฮ : จะได้รับเงินสนับสนุนจาคภาครัฐและท้องถิ่น ทำให้มีความมั่นคงสูง ทั้งในเรื่องการบริหารการจัดการเนอสเซอรี่, ค่าซ่อมบำรุงและจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงเงินเดือนของคุณครูและเจ้าหน้าที่ในเนอสเซอรี่
นินคะไกโฮ : โดยส่วนมากนินคะไกโฮจะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐและท้องถิ่น จะมีเพียงบางแห่งเท่านั้นที่มีข้อยกเว้น ได้รับเงินสนับสนุนส่วนหนึ่งจากท้องถิ่นค่ะ

3. ค่าใช้บริการเนอสเซอรี่

นินคะโฮ : แต่ละเขตที่ตั้งของนินคะโฮ จะเป็นผู้กำหนดค่าบริการ ตามความเหมาะสม โดยจะไม่เกินเพดานค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐกำหนดไว้ ทำให้นินคะโฮไม่สามารถกำหนดค่าใช้บริการเองได้
นินคะไกโฮ : นิคะไกโฮจะเป็นผู้กำหนดค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากนินคะไกโฮ จำเป็นต้องนำค่าใช้บริการของผู้ปกครอง มาใช้ในการดำเนินกิจการค่ะ

4. การยกเว้นค่าใช้บริการ (เริ่มทั่วประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคม 2019)

นินคะโฮ : เด็กอายุ 3- 5 ขวบ จะได้รับการยกเว้นค่าใช้บริการเนอสเซอรี่ทั้งหมด และในกรณีเด็กอายุ 0-2 ขวบ หากผู้ปกครองได้รับการยกเว้นในการจ่ายภาษีเมือง ก็จะได้รับการยกเว้นค่าใช้บริการเนอสเซอรี่ทั้งหมดเช่นเดียวกันค่ะ
นินคะไกโฮ : จะได้รับการยกเว้นค่าใช้บริการเพียงบางส่วน คือ เด็กอายุ 3-5 ขวบ จะได้รับการยกเว้นค่าใช้บริการไม่เกิน 37,000 เยนต่อเดือน และในกรณีเด็กอายุ 0-2 ขวบ หากผู้ปกครองได้รับการยกเว้นการจ่ายภาษีเมือง ก็จะได้รับการยกเว้นค่าใช้บริการไม่เกิน 42,000 เยนต่อเดือน ค่ะ

ข้อดีและข้อเสียของ “นินคะโฮ” และ “นินคะไกโฮ”

นินคะโฮ

ข้อดี
1. มีความน่าเชื่อถือ และมีมาตรฐานสูง เนื่องจากได้รับการรับรองโดยตรงจากกระทรวงสาธารณะสุขฯ
2. ค่าใช้จ่ายสมเหตุสมผล เนื่องจากนินคะโฮ ได้รับเงินสนับสนุนจากทางภาครัฐและท้องถิ่น ค่าใช้บริการนินคะโฮจะถูกคำนวณจากรายรับและค่าภาษีเมืองของผู้ปกครอง ทำให้ค่าใช้บริการจะมากน้อยลดหลั่นกันไปตามรายได้ของแต่ละครอบครัว เช่น ครอบครัวที่มีรายได้น้อยจะเสียค่าใช้บริการน้อยว่าครอบครัวที่มีรายได้มากกว่า
3. จำนวนคุณครูผู้ดูแล เหมาะสมกับจำนวน และอายุของเด็ก
4. หากมีเรื่องที่ไม่พอใจ หรือเรื่องไม่สบายใจเกี่ยวกับนินคะโฮ สามารถติดต่อโดยตรงได้กับทางเขตที่อยู่อาศัย

ข้อเสีย
1. มีเงื่อนไขในการสมัครค่อนข้างมาก เช่น ผู้ปกครองต้องทำงานทั้งคู่, มารดาต้องกำลังตั้งครรภ์หรือป่วย ทำให้ดูแลบุตรได้ยาก, และต้องเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นต้น
2. ไม่สามารถยื่นสมัครเข้าเนอสเซอรี่ข้ามเขตที่อยู่อาศัยได้
3. เนื่องจากการรับเด็กเข้าดูแลมีจำนวนจำกัด อาจจะทำให้ไม่สามารถส่งบุตรเข้าเนอสเซอรี่ที่ต้องการได้
4. มีเนอสเซอรี่ทางเลือกน้อยกว่านินคะไกโฮ

นินคะไกโฮ

ข้อดี
1. ไม่ว่าใครก็สามารถส่งบุตรเข้าเนอสเซอรี่ได้ โดยไม่มีเงื่อนไขละเอียดเท่านินคะโฮ
2. สามารถยื่นสมัครเนอสเซอรี่ที่ต้องการ แม้จะอยู่คนละเขตกับที่อาศัยได้
3. เนอสเซอรี่บางแห่งสามารถกำหนดวัน และเวลารับฝากได้เอง
4. เนอสเซอรี่บางแห่งมีการเรียนการสอนที่เป็นทางเลือกมากขึ้น เช่น เป็นเนอสเซอรี่นานาชาติ หรือ มีการเรียนการสอนแบบ*มอนเตสซอรี่

*มอสเตสซอรี่ คือ หลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่เน้นท่องจำแต่วิชาการ แต่จะมุ่งสอนให้เด็กได้ทำตามความสนใจของตนเองอย่างเป็นอิสระ เสริมความคิดสร้างสรรค์ และความมีระเบียบในตนเอง

ข้อเสีย
1. เนื่องจากเนอสเซอรี่ไม่ได้ถูกรับรองโดยตรงตามกระทรวงสาธารณะสุขฯ อาจจะทำให้มีความน่าเชื่อถือไม่เท่ากับนินคะโฮ
2. ค่าใช้บริการแพง เนื่องจากทางเนอสเซอรี่เป็นผู้กำหนดเอง
3. จำนวนคุณครูผู้ดูแล อาจจะไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็ก
4. เนอสเซอรี่บางแห่งอาจจะมีขนาดเล็กกว่าจำนวนเด็ก เช่น ห้องเรียนมีขนาดเล็กเกินไป เมื่อเทียบกับจำนวนเด็กในชั้น เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับเนอสเซอรี่ที่เราได้นำเสนอไปในบทความนี้ เป็นข้อมูลเบื้องต้น สำหรับการหาพื้นที่ปลอดภัยแห่งที่สองให้กับเจ้าตัวเล็กของเรา แต่แน่นอนว่ารายละเอียดปลีกย่อย และตัวเลือกทั้งหมดของทั้งนินคะโฮ และนินคะไกโฮ ก็จะมีจำนวนมากน้อยแตกต่างกันไปตามเขตหรือจังหวัดที่อาศัยเช่นกันค่ะ โดยส่วนตัว เราส่งลูกชายเข้าเรียนนินคะโฮค่ะ เนื่องจากในเขตที่อยู่ จำนวนนิคะไกโฮมีตัวเลือกน้อยมาก ๆ และกิจกรรมต่าง ๆ ก็ไม่ยังน่าสนใจเท่านินคะโฮค่ะ ซึ่งขั้นตอนการเริ่มต้นติดต่อเขต ไปเยี่ยมชมถานที่จริง จนไปถึงขั้นตอนยื่นใบสมัคร ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควรเลยค่ะ แต่ในความยุ่งยากนั้น เราก็มองเห็นความมีระเบียบ และความเป็นระบบที่ดีไม่น้อยเลยค่ะ

เรียบเรียงโดย Akime
อ้างอิง Ensagaso Hoikushi Bank Ichitasu Tomoe Life

conomin

conomin คือกลุ่มนักเขียนใหม่ของ conomi ที่คอยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่น เพื่อคนรักญี่ปุ่น จากปลายปากกาคนรักญี่ปุ่นด้วยกัน

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า