วิธีการทำถั่วแดงกวนถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นผ่านประเทศจีนในช่วงสมัยราชวงศ์เหนือใต้ บวกกับน้ำตาลก็เริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ต้นสมัยมุโรมาจิจนถึงสมัยเอโดะ ถั่วแดงและน้ำตาลจึงถูกนำมาใช้ทำขนม จนเรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบคลาสสิคที่ต้องมาคู่กับขนมญี่ปุ่นอยู่เสมอ ถือเป็นของหวานที่ผู้คนชื่นชอบมาอย่างยาวนานและมีอยู่หลายรูปแบบหลายเมนู เรามาลองดูการจัดอันดับกันค่ะว่าถ้าหากพูดถึงอังโกะ (ถั่วแดงกวน) คนญี่ปุ่นจะนึกถึงขนมอะไรกันบ้าง ?
อันดับ 3 โอฮากิ / โบตะโมจิ
ขนมที่ทำโดยการผสมข้าวกับข้าวเหนียว นำไปนึ่งและบดหยาบ ปั้นเป็นก้อนกลมแล้วห่อด้วยถั่วแดงกวน บางครั้งก็ใช้ผงคินาโกะ งาบด และอื่น ๆ โอฮากิกับโบตะโมจิมีลักษณะคล้ายกันมากทั้งวัตถุดิบและวิธีการจนแทบไม่ต่างกัน แต่โอฮากิจะใช้ถั่วแดงบดหยาบ ส่วนโบตะโมจิจะใช้ถั่วแดงกวน เนื้อละเอียด ลักษณะเรียบลื่น ในอดีตโบตะโมจิจะทำในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนโอฮากิจะทำในฤดูใบไม้ร่วง
อันดับ 2 อิมากาวะยากิ / โอบังยากิ / ไคเตนยากิ
ขนมที่ทำโดยการผสมแป้ง น้ำ น้ำตาล ฯ แล้วเทลงในแม่พิมพ์กลมคล้ายกลองไทโกะทั้งสองฝั่ง ใส่ไส้ถั่วแดงกวน จากนั้นจึงประกบแป้งสองฝั่งเข้าด้วยกันและอบจนสุก ขนมชนิดนี้มีชื่อเรียกหลากหลายแตกต่างกันในแต่ละท้องที่ อย่างในภูมิภาคคันโตจะเรียกว่า อิมากาวะยากิ เนื่องจากขนมชนิดนี้เคยขายใกล้กับสะพานอิมากาวะในสมัยเอโดะ ส่วนในภูมิภาคคันไซและคิวชูจะเรียกว่า ไคเตนยากิ นอกจากนี้ยังมีชื่อที่คนไทยคุ้นหูกันมากที่สุดคือ โอบังยากิ
อันดับ 1 ไทยากิ
อันดับที่ 1 เป็นของขนมหวานคลาสสิคที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกคือ ไทยากิ วิธีทำคล้ายกับโอบังยากิ ทำโดยการผสมแป้ง น้ำ น้ำตาล ฯ แล้วเทลงในแม่พิมพ์รูปปลาไททั้งสองฝั่ง ใส่ไส้ถั่วแดงกวน จากนั้นจึงประกบแป้งสองฝั่งเข้าด้วยกันและอบจนสุก ที่มาของขนมไทยากิมีหลายทฤษฎี ว่ากันว่าเริ่มต้นครั้งแรกในสมัยเมจิเมื่อขนมอิมากาวะยากิขายไม่ค่อยดีนัก จึงมีการเปลี่ยนรูปร่างแม่พิมพ์มาเป็นปลาไทซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีแทน
อันดับที่ 4-10 มีดังนี้
อันดับ 4 : โดรายากิ
อันดับ 5 : ไดฟุกุ
อันดับ 6 : อันปัง (ขนมปังไส้ถั่วแดง)
อันดับ 7 : เซนไซ (ซุปถั่วแดงบดหยาบ ใส่โมจิ)
อันดับ 8 : โอชิรุโกะ (ซุปถั่วแดงกวน ใส่โมจิ)
อันดับ 9 : อันมัง (ซาลาเปาไส้ถั่วแดง)
อันดับ 10 : อันโดนัท (โดนัทไส้ถั่วแดง)
สรุปเนื้อหาจาก ranking.goo