แมว ถือว่าเป็น 1 ในสัตว์เลี้ยงคู่ใจของมนุษย์ มีความน่ารักไม่ต่างกับน้องหมา แต่ทว่าก็คงมีเจ้าของที่อยากให้น้องแมวที่รักของตนมีความเฉลียวฉลาดไม่ต่างจากน้องหมากันใช่ไหมคะ เพื่อที่จะทำให้น้องแมวของเราฉลาดและเก่งขึ้นได้นั้น เจ้าของควรทำอย่างไรนั้นวันนี้เราจะไปดูวิธีปฏิบัติกันค่ะ
น้องแมวเฉลียวฉลาดไม่ต่างจากน้องหมาจริงหรือ?
น้องแมวถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาด เรียกได้ว่าไม่ต่างไปจากน้องหมาเลยค่ะ โดยพูดได้เลยว่าน้องแมวมีความฉลาดและรับรู้ได้เทียบเท่ากับเด็กอายุ 2 ปี เลยทีเดียว แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกับน้องหมาที่มีภาพลักษณ์เป็นสัตว์ที่สามารถจดจำศิลปะการแสดง การสอนและการปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าของได้แล้วล่ะก็ น้องแมวดูจะติดนิสัยขี้แกล้ง และไม่สามารถจดจำเทคนิคการสอนหรือศิลปะการแสดงได้เลย ทั้งที่เป็นสัตว์เฉลียวฉลาดไม่ต่างจากน้องหมา แต่ทำไมถึงได้จัดว่าสอนยากและไม่สามารถทำตามคำสั่งของเจ้าของได้นะ?
สาเหตุหลักของเรื่องนี้คือ แรงจูงใจ เพราะในความเป็นจริงแล้วนั้น น้องแมวและน้องหมาต่างมีแรงจูงใจในการเรียนรู้ที่ต่างกัน โดยน้องหมาจะมีความรู้สึกที่ว่า “อยากได้รับคำชมจากเจ้าของ” “อยากทำให้เจ้าของดีใจ” เวลาฝึกก็เลยมีความตั้งใจทุ่มเทที่จะฝึกเป็นอย่างมาก แต่สำหรับน้องแมวนั้นกลับจะให้ความสำคัญตรงที่ “ตัวเองสนใจในเรื่องนั้นหรือไม่” “ทำไปแล้วได้ประโยชน์อะไรไหม” มากกว่า จึงเป็นเหตุที่ต่อให้เจ้าของจะพยายามสอนน้องแมวให้จดจำศิลปะการแสดงหรือการสอนต่างๆ แต่น้องแมวก็จะจำอะไรใหม่ๆ ไม่ค่อยได้ เนื่องจากไม่มีความรู้สึกที่ว่า “ต้องพยายามจำ” กล่าวคือถ้าเราต้องพยายามดึงให้น้องแมวเกิดความสนใจให้ได้ น้องแมวถึงจะสามารถแสดงศักยภาพความสามารถได้เท่ากับน้องหมา แล้วก็จะฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างแน่นอน
3 เคล็ดลับวิธีเลี้ยงให้น้องแมวของเราฉลาดขึ้น
1.ให้รางวัลและพูดชมบ่อยๆ
ถ้าน้องแมวรู้ว่าจะมีสิ่งดีเกิดขึ้นกับตัวเอง น้องแมวก็จะสามารถจำอะไรที่สอนให้ใหม่ๆ ได้ทันที ดังนั้นเมื่อน้องแมวสามารถทำในเรื่องที่เจ้าของสอนได้ ก็ควรให้ขนมเป็นของรางวัล เพื่อให้น้องแมวที่รักของเราเกิดความรู้สึกที่อยากจะฝึกต่อไปค่ะ อีกทั้งการพูดชมจากเจ้าของก็เป็นหนึ่งในวิธีสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้น โดยสำหรับการเลี้ยงแมวให้เกิดความเฉลียวฉลาดนั้น การสอนด้วยการพูดชมสำคัญกว่าการสอนแบบดุด่าตักเตือน ดังนั้นเวลาที่น้องแมวที่รักของคุณทำอะไรดีๆ หรือสามารถจดจำในเรื่องที่สอนไปใหม่ๆ ได้ ควรพูดชมน้องให้เยอะๆ เลยค่ะ
2.นำการเล่นบางอย่างมาเป็นการฝึก
แมว ถือว่าเป็นสัตว์ที่ชอบการละเล่นเป็นอย่างมาก ดังนั้น ตอนที่อยากฝึกให้น้องจำท่าทางต่างๆ เช่น ”การขอมือ” “การแตะมือ” ควรนำเอาการละเล่นบางอย่างมาใช้เป็นการฝึก เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ถ้าชอบหรือสนใจอะไรก็จะจดจำในสิ่งนั้นได้ดี กลับกันถ้าไม่สนใจในสิ่งนั้นก็ไม่มีความคิดที่จะจำเลย ดังนั้นแล้วถ้าน้องแมวของคุณไม่มีความรู้สึกสนใจ ต่อให้พยายามที่จะฝึกน้องไปก็ไม่มีความหมาย การค่อยๆ ฝึกน้องเมื่อน้องรู้สึกมีความสนใจที่จะเรียน ก็จะทำให้การฝึกมีความสนุกและได้ผลดี ทั้งนี้ มีเคล็ดลับคือ น้องแมวเป็นสัตว์ที่ขี้เบื่อง่าย เพื่อให้น้องมีแรงจูงใจที่จะฝึกต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต การฝึกน้องในแต่ละครั้งควรฝึกแบบเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ก็พอนะคะ
3.ให้น้องเล่นกับของเล่นที่ช่วยฝึกการเรียนรู้
สิ่งสำคัญในการเลี้ยงให้น้องแมวเกิดความเฉลียวฉลาดมากขึ้น คือ การสร้างโอกาสให้น้องได้ใช้สมองในการคิดเยอะๆ โดยแนะนำให้ใช้ของเล่นที่ช่วยในการเรียนรู้ เช่น ของเล่นแบบที่มีการใส่ขนมหรืออาหารไว้ข้างใน ซึ่งเป็นของเล่นที่ต้องใช้เวลาในการเล่นนาน ทำให้แม้ตอนที่เจ้าของไม่สามารถอยู่เป็นคู่เล่นให้ได้ในตอนที่ไม่ว่างหรือไม่อยู่บ้าน น้องแมวก็จะยังมีอะไรเล่นที่ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ ยิ่งไปกว่านั้นของเล่นที่ช่วยฝึกการเรียนรู้ยังมีผลช่วยป้องกันความสามารถในการเรียนรู้ที่ลดลงสำหรับแมวที่มีอายุเยอะเพื่อคงไว้ซึ่งความเฉลียวฉลาดอีกด้วย
แมวถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ทว่าการที่จะดึงความฉลาดของน้องแมวออกมาได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงและการฝึกน้องเป็นสิ่งสำคัญค่ะ โดยต้องไม่คิดว่า “ น้องเหมียวของฉันไม่ฉลาดหรอกสอนไปก็เท่านั้น…” ทางเราก็แนะนำว่านำการเล่นแบบที่ต้องใช้สมองใช้ความคิดเข้ามาช่วย เช่น ให้น้องลองหาขนมที่เอาไปซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้านเหมือนเป็นเกมส์หาสมบัติบ้าง เล่นซ่อนแอบบ้าง นอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ยังเป็นการเพิ่มและสร้างความเฉลียวฉลาดให้แก่น้องเเมวที่รักของเราด้วยค่ะ
เรียบเรียงโดย XROSSX
ที่มา nekochan.jp
