เป็นที่ทราบกันดีว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประสบ ภัยธรรมชาติ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้ง ก็มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนอีกนับไม่ถ้วน แต่นั่นก็ทำให้ชาวญี่ปุ่นเรียนรู้และปรับตัวที่จะอยู่กับภัยธรรมชาติ โดยเราสามารถเห็นตัวอย่างได้ชัดเจนจากตึกอาคารในญี่ปุ่นต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ทนกับความสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว และที่สำคัญคือ ชาวญี่ปุ่นค่อนข้างใช้ชีวิตโดยตระหนักถึงภัยธรรมชาติอยู่เสมอ มีการปลูกฝังวิธีเอาตัวรอดจากภัยพิบัติในโรงเรียนตั้งแต่เด็ก ๆ บทความนี้จะว่าบอกเหตุผลที่ทำให้ญี่ปุ่นประสบภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้ง จะเป็นเพราะอะไรมาดูกัน!
ภัยธรรมชาติที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นเสมอมา
ญี่ปุ่นเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ค่อนข้างบ่อย เรียกได้ว่ามีภัยพิบัติเกิดแทบทุกปี ไม่ว่าจะเป็น
- ปี 2016 : แผ่นดินไหวจังหวัดคุมาโมโตะ (ผู้เสียชีวิต 273 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 40,000 หลัง)
- ปี 2017 : พายุไต้ฝุ่นตาลิม (ผู้เสียชีวิตกว่าสูญหาย 79 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 1,400 หลัง)
- ปี 2019 : พายุไต้ฝุ่นฮากีบิส (ผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 86 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 6,000 หลัง)
สำหรับสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็มีอยู่หลากหลายปัจจัย โดยญี่ปุ่นมีเงื่อนไขหลายข้อที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติสูง ขอยกตัวอย่างภัยธรรมชาติที่เกิดที่ญี่ปุ่นบ่อย 3 อย่างพร้อมอธิบายเหตุในแต่ข้อนะคะ
1. แผ่นดินไหว/ภูเขาไฟ
พื้นผิวโลกเรานั้น ประกอบไปด้วยหินมากกว่าสิบแผ่นที่เรียกว่า แผ่นเปลือกโลก ซึ่ง หมู่เกาะญี่ปุ่น นั้น ก็ดันตั้งอยู่ตรงบริเวณที่แผ่นเปลือกโลก 4 แผ่น ชนกันพอดี!? จึงไม่ที่ไหนในโลกอีกแล้ว ที่จะเกิดการชนกันของแผ่นเปลือกโลกมากเท่าญี่ปุ่น! ซึ่งผลที่ตามมา ก็ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่ได้รับความรุนแรงจาก แผ่นดินไหวและภูเขาไฟ สูงกว่าประเทศอื่น ๆ นั่นเองค่ะ
2. ไต้ฝุ่น/ฝนตกหนัก
ญี่ปุ่น อยู่ในจุดที่เป็นทางผ่านของไต้ฝุ่นพอดี โดยพายุหมุนเขตร้อนซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของไต้ฝุ่นนั้น มีแนวโน้มที่จะก่อตัวในบริเวณทะเลทางตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อพายุหมุนเขตร้อนกลายเป็นไต้ฝุ่น มันก็จะได้รับอิทธิพลจากการไหลของลมในชั้นบรรยากาศด้านบน และเกิดการกระจายความกดอากาศในช่วงฤดูร้อน จนในที่สุด ก็จะพัดเข้ามายังญี่ปุ่นทีละลูกทีละลูก ซึ่งไต้ฝุ่นเหล่านี้ ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง โดยถ้ายิ่งมีกำลังแรงมากขึ้น ก็จะเกิดเป็นฝนตกหนักตามมา
3. ภัยพิบัติน้ำท่วมและดินถล่ม
เนื่องจากพื้นที่ 70% ของญี่ปุ่นเป็นภูเขา แม่น้ำจึงมีลักษณะลาดชันและไหลเร็ว ส่งผลให้ประเทศมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมได้ง่าย นอกจากนี้ การเคลื่อนที่อย่างรุนแรงของเปลือกโลก ก็ทำให้เกิดภูมิประเทศและธรณีวิทยาที่ซับซ้อนและไม่แน่นอน หากเกิดฝนตกหนัก ก็อาจจะทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดดินถล่มได้อีกด้วย
รู้ความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติจากชื่อสถานที่!?
ญี่ปุ่นนิยมตั้งชื่อสถานที่ตามธรรมชาติที่พบได้ในพื้นที่นั้น ๆ สิ่งนี้เป็นตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถคาดเดาความเสี่ยงจากภัยพิบัติได้! ตัวอย่างเช่น ชื่อสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับหุบเขา อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องดินสไลด์ หินถล่ม หรือชื่อสถานที่ที่เกี่ยวกับนํ้าแร่ธรรมชาติ บ่อนํ้า หรือพื้นที่ชุ่มนํ้า อาจจะต้องระวังเรื่องนํ้าท่วมหรือสึนามิ การคาดเดาความเสี่ยงจากชื่อสถานที่อาจจะเป็นมรดกตกทอดจากบรรบุรุษชาวญี่ปุ่นที่ทิ้งไว้เตือนสติคนรุ่นหลังก็ได้นะคะ
ส่วนตัวแล้วมีความสุขในการใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นมาก เพราะเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูง ทั้งในด้านอาชญากรรมและอาหาร เดินทางก็สะดวก แต่สิ่งเดียวที่ทำให้กังวลมากที่สุดคือ เรื่องภัยธรรมชาติเนี่ยแหละค่ะ เจอแผ่นดินไหวค่อนข้างบ่อย แต่ทำใจให้ชินไม่ได้จริงๆ ห้องสั่นทีไรใจหายทุกที แต่มันก็ทำให้เราต้องระมัดระวังและใส่ใจกับสิ่งรอบข้างอยู่เสมอ เมืองไทยเจอภัยธรรมชาติน้อยกว่าญี่ปุ่นมาก แต่ถ้าเกิดภัยขึ้นมาจริงๆก็น่ากลัวตรงที่ผู้คนไม่ทันได้ตระหนัก ทำให้อาจจะเกิดความเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น
สรุปเนื้อหาจาก: oyo