อีกากับแมว

ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดจากการก่อกวนของกากันใช่ไหมคะ เช่น “ขยะที่วางไว้ถูกรื้อ” “พืชผลทางการเกษตรถูกทำลาย” “กาทำร้ายคน” เป็นต้น แต่ทราบกันไหมคะว่า นอกเหนือไปจากเหตุการณ์ข้างต้นแล้ว ความเสียหายจากการที่กาเข้าโจมตีทำร้ายแมวก็ถือว่ามีจำนวนไม่น้อยกันเลยทีเดียว ถ้าแค่กาบุกเข้าทำร้ายเเมว ปกติเราก็คงไม่นำมาคิดหรือถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอะไร แต่ทว่าบางครั้งกาก็อาจจะทำร้ายแมวได้ขนาดเกิดการกินแมวเข้าไป ทำไมกาถึงมีพฤติกรรมชอบโจมตีทำร้ายแมว และมีวิธีการป้องกันรับมือน้องแมวของเราให้ปลอดภัยจากกามีอะไรบ้างนั้น วันนี้เราจะมาเรียนรู้ทำความเข้าใจกันค่ะ

เหตุผลที่กาโจมตีแมว มีด้วยกัน 3 ข้อ ได้แก่

1. แย่งอาณาเขตกัน

crow food

ปกติแล้วแมวจรจัดกับกาจะถือว่าเป็นศัตรูคู่อริกันมาแต่ชาติปางก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแย่งกันหาอาหารจากที่เดียวกัน เวลาที่แมวจะหาอาหาร แมวมักจะไปคุ้ยหาอาหารจากกองขยะที่มนุษย์นำไปทิ้งไว้ ซึ่งกาก็จะเข้าไปทำการคุ้ยเขี่ยหาอาหารจากจุดเดียวกันกับที่แมวจรจัดได้ทำไปก่อนหน้า จึงเป็นเหตุให้เกิดการแบ่งแย่งอาณาเขตของตนเองขึ้น และเกิดการต่อสู้ระหว่างกากับแมวในที่สุด

2. บริเวณรังของกาที่มีลูกกาน้อยอยู่ดันมีน้องแมวเดินผ่านเข้ามา

cat tree

แม่กาที่กำลังเลี้ยงลูกกาอยู่ตามปกติแล้วก็มักจะมีพฤติกรรมระเเวดระวัง ตื่นตัวอยู่เป็นประจำ รวมถึงจะมีพฤติกรรมแบบไม่ยอมทำการละสายตา คอยเฝ้าจับตาดูว่าจะมีสัตว์หรือใครเข้ามาทำอันตรายต่อลูกและรังของตนหรือไม่ ซึ่งในบางครั้งรังของกาที่มีลูกกาอยู่ ดันมีแมวเดินผ่านเข้ามา แม่กาก็เลยคิดว่าแมวเป็นศัตรูที่จะเข้ามาทำร้ายตนและลูกจึงได้ทำการโจมตีต่อสู้กับแมว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แค่แมวเท่านั้น ตัวมนุษย์เองก็เช่นกัน ควรที่จะระมัดระวังเป็นพิเศษถ้าพบว่าบริเวณที่ตนอยู่นั้นมีรังกาอยู่

3. เมื่อการู้สึกหิวโหย

crow food2

แมวเป็นสัตว์ที่สำหรับกาแล้วถือว่ามีขนาดและพละกำลังมากกว่าตน ดังนั้นตามปกติแล้วตราบใดที่แมวไม่เข้าไปรังควานหรือแกล้งกาก่อน กาก็จะไม่บุกเข้าทำร้ายแมว แต่ทว่าถ้ากาตัวนั้นมีอาการหิวโหยล่ะก็ถือว่าเป็นคนละเรื่องกันเลยทีเดียว เพราะกานั้นถือเป็นสัตว์นักล่าที่สามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร แม้กระทั่งของเน่าเสีย กาก็สามารถกินได้แบบไม่รู้สึกอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อาหารหรือเหยื่อสำหรับกาก็จะหาได้ยากขึ้น เมื่อความหิวโหยมีมากกว่าสติ กาก็จะไม่รู้สึกเกรงกลัวที่จะเข้าบุกเข้าโจมตีทำร้ายแมว ซึ่งทำให้บางครั้งแมวก็กลายเป็นเหยื่ออาหารของกาไปได้

ถ้ากาบุกโจมตีแมวที่เราเลี้ยงไว้ จะมีวิธีรับมือจัดการอย่างไรดี?

crow friend

ถ้าแมวที่เราเลี้ยงไว้ถูกกาทำร้าย เจ้าของแมวก็ไม่ควรที่จะเข้าไปทำร้ายหรือตอบโต้กากลับทันที เพราะอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงข้ามได้ โดยกาเป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาด เเละมีพฤติกรรมเจ้าคิดเจ้าแค้นจำอะไรก็จะจำฝังใจไปตลอด กาจะจำหน้าคนที่เข้ามาทำร้ายตัวมันเองได้อย่างไม่มีทางลืม และกายังมีนิสัยเล่นพรรคเล่นพวก ชอบเรียกพรรคพวกมาช่วยกันโจมตีคนที่กาคิดว่าเป็นศัตรูของมันอีกด้วย ซึ่งในกรณีที่เลวร้าย เราอาจจะเจอกาบินตามมาเฝ้าถึงหน้าบ้านกันเลยทีเดียว ซึ่งวิธีที่เชื่อกันว่าสามารถทำการรับมือจัดการกับกาที่บุกเข้าโจมตีทำร้ายแมวที่เราเลี้ยงไว้ได้ผลดีที่สุดคือ “การใช้ร่ม” มาเป็นอุปกรณ์เสริม โดยเราจะต้องทำการกางร่มออกก่อน แล้วจึงค่อยนำร่มมาบังใบหน้าของตนเอาไว้ แล้วจึงค่อยๆ ขยับตัวพุ่งไปข้างหน้า ก็จะทำให้การู้สึกตกใจกลัวและก็จะบินหนีไปเองในที่สุด ซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้ยังสามารถนำมาปรับใช้กับคนเวลาที่โดนกาบุกเข้าโจมตีทำร้ายได้อีกด้วยค่ะ

2 วิธีการปกป้องเเมวจากเหล่าอีกา

แมวเป็นสัตว์ชอบอิสระ ซึ่งต่อให้เจ้าของจะคอยดูแลเอาใจใส่แมวแค่ไหน ถ้าเจ้าของเผลอละสายตาเพียงเสี้ยววินาที น้องเเมวแสนรักของเราก็อาจจะหายแว๊บไปเดินเล่นที่ไหนเสียแล้ว ซึ่งระหว่างนั้นน้องแมวแสนรักของเราก็อาจจะถูกกาทำร้ายได้ คราวนี้เราจะมาดูกันค่ะว่าจะมีวิธีการปกป้องแมวจากกาด้วยวิธีใดบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. พยายามเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน

cat house

การที่ปล่อยให้แมวออกไปข้างนอก ถือว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงก่อให้เกิดความอันตรายขึ้นได้ ซึ่งไม่ใช่แค่ความอันตรายที่จะเกิดจากการที่น้องแมวจะโดนกาทำร้ายแล้ว โอกาสที่แมวของเราจะไปสัมผัสกับแมวจรจัดอื่นแล้วเกิดติดโรคติดต่อกลับมา รวมถึงอันตรายจากการถูกรถหรืออุบัติเหตุเฉี่ยวชนก็มีความเป็นไปได้สูง เจ้าของจึงควรให้เจ้าเหมียวอยู่แต่ภายในบ้านหรือห้องให้มากเท่าที่จะทำได้ค่ะ

2. ระมัดระวังใส่ใจตอนที่ปล่อยแมวออกไปยังบริเวณสวนหรือระเบียงบ้าน

cat look

แม้ว่าจะเลี้ยงแมวไว้ในห้อง แต่ก็มีเจ้าของหลายคนที่มักจะชอบปล่อยให้น้องแมวได้ยืดเส้นยืดสาย พาออกไปอาบแดดตรงสวนหรือระเบียงบ้านกัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ อาจจะเป็นโอกาสที่ให้กาบุกเข้าโจมตีทำร้ายแมวของเราได้ ในทางกลับกันถ้าเเมวที่เลี้ยงไว้ของเรา ดันเป็นน้องแมวที่มีนิสัยซุกซน มีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมากแล้วล่ะก็ ตอนที่เจ้าของละสายตาไปเพียงชั่ววินาที ก็อาจจะเป็นโอกาสให้แมวแกล้งหรือทำการแหย่กาจนนำมาสู่การที่เจ้าเหมียวของเราโดนกาทำร้ายกลับมา ดังนั้นเวลาที่จะปล่อยให้น้องแมวออกไปยังบริเวณสวนหรือระเบียงบ้าน เจ้าของก็ไม่ควรที่จะละสายตาจากแมว และถ้าเจ้าของสังเกตเห็นว่ามีกาหรือได้ยินเสียงร้องของกา ก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้แมวออกไปข้างนอกค่ะ

การทำบ้านให้เป็นสถานที่ที่ไม่ดึงดูดให้กาแวะเข้ามา

crow look

เจ้าของควรที่จะ “กำจัดต้นตอที่ทำให้กาชอบเข้ามาหา” เมื่อกาไม่มีจุดมุ่งหมายแล้ว ก็จะไม่บินเข้ามาในบ้านของเรา ดังนั้นการสืบค้นหาสาเหตุที่ทำให้กาเลือกที่จะบินเข้ามาหาเรานั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด เช่น กาบินมาที่ระเบียง ก็ต้องคิดว่าเจ้ากามันบินมาเพื่อหาอาหารหรือมาเพื่อนำอาหารที่หามาได้มาซ่อนเอาไว้ เมื่อเรารู้เหตุผลแล้ว เราก็ไม่ควรที่จะวางอาหารเอาไว้บริเวณตรงระเบียงอีกต่อไป เพราะจะยิ่งกลายเป็นจุดสร้างความสนใจสำหรับกาได้ รวมถึงไม่ควรที่จะวางกระถางต้นไม้ไว้ตรงบริเวณระเบียงบ้านเช่นกัน เพราะกาจะสามารถนำกระถางต้นไม้ดังกล่าวนั้นไปใช้เป็นที่เก็บซ่อนอาหารที่หามาได้ ดังนั้นเจ้าของแมวจึงควรที่จะมั่นขยันทำความสะอาดบริเวณระเบียงอยู่เป็นประจำ กานั้นเมื่อถึงฤดูขยายพันธุ์ก็จะชอบเก็บเศษเหล็กจำพวกไม้แขวนเสื้อเอามาทำรัง การที่ไม่วางหรือทิ้งไม้แขวนเสื้อเอาไว้ตรงระเบียง ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีการรับมือป้องกันกาให้บินเข้ามาหาเราได้

กาจัดได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาด เเละยังเป็นสัตว์ที่มีอารมณ์แปรปรวนง่าย ถ้าทำให้การู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจแค่นิดเดียว ก็อาจจะโดนกาทำร้ายกลับได้ การที่จะป้องกันไม่ให้แมวของเราได้รับอันตรายจากกา เจ้าของควรที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่จะไม่ทำให้กาอยากที่จะเข้ามาหา ควรมั่นทิ้งขยะสด ทำความสะอาดและไม่ควรที่จะวางของที่จะสามารถเป็นอาหารมาล่อกาให้อยากที่จะเข้ามาได้

crow cover

ในการรับมือกำจัดกา ตัวเราเองก็สามารถทำบางอย่างได้เอง เช่น วาง CD หรือวัตถุที่สะท้อนแสงไว้บริเวณระเบียง หรือใช้หุ่นไล่กาเพื่อทำการไล่กาออกไป แต่ทว่าหากกาเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับวิธีการกำจัดดังกล่าวและรู้สึกว่า “สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีอันตรายอะไร” เราก็อาจจะไม่สามารถใช้วิธีรับมือแบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป ในกรณีที่ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร ก็ควรที่จะพึ่งขอความช่วยเหลือไปยังบริษัทที่ชำนาญรับจัดการในเรื่องนี้ไล่กากันดูค่ะ บางทีการไหว้วานผู้ชำนาญการก็เป็นการประหยัดเวลา ลดความปวดหัวไปได้ดีเลยค่ะ

สรุปเนื้อหาจาก : seikatsu110.jp

เรียบเรียงโดย : XROSSX

conomin

conomin คือกลุ่มนักเขียนใหม่ของ conomi ที่คอยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับญี่ปุ่น เพื่อคนรักญี่ปุ่น จากปลายปากกาคนรักญี่ปุ่นด้วยกัน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า