ในฤดูร้อนที่คนหนุ่มสาวสนุกสนานกับกิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจกลางแจ้ง เช่น ไปทะเล ไปออกค่ายกิจกรรม หรือลงสระว่ายน้ำ เป็นต้น แต่หลังจากนั้นคนจำนวนไม่น้อยกลุ้มใจจากผมเสียกระด้างและไม่สวยเป็นเงางาม มารู้สาเหตุของการเกิดผมแห้งเสียในช่วงหน้าร้อนและการพักผ่อนกลางแจ้ง จากนั้นมารู้ถึงวิธีการดูแลและป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสียจากคำแนะนำของช่างทำผมชาวญี่ปุ่นกันค่ะ
3 สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมแห้งเสียจากการพักผ่อนหย่อนใจในหน้าร้อน
1. รังสียูวี
แสงแดดในหน้าร้อนดึงความชื้นและน้ำมันออกจากเส้นผมและสลายเม็ดสีของผม ส่งผลให้ผมแห้ง ผมสีจางลง ผมขาด และผมแตกปลาย เป็นต้น นอกจากนี้ รังสียูวียังทำให้ผิวหนังศีรษะไหม้แดด ส่งผลให้หนังศีรษะอักเสบและคัน
2. น้ำทะเลและน้ำในสระน้ำ
น้ำทะเลที่เค็มและคลอรีนในสระน้ำจะทำให้เกล็ดผม (Cuticle) ที่ชั้นนอกของผมโดนทำลายและหลุดออก โดยหากลงเล่นน้ำทะเลหรือสระน้ำแล้วปล่อยให้ผมแห้งโดยไม่ล้างออกก็จะส่งผลให้ผมแห้งเสียได้ง่าย
3. เครื่องปรับอากาศ
แม้ว่าเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งจำเป็นที่คนเราขาดไม่ได้ในช่วงหน้าร้อน แต่การนั่งอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้ทั้งวันก็ทำให้ผมและหนังศีรษะแห้งได้ เมื่อหนังศีรษะแห้งก็จะทำให้เกิดรังแคและมีอาการคันศีรษะขึ้น
วิธีการดูแลและป้องกันไม่ให้ผมแห้งเสียหลังการพักผ่อนหย่อนใจไปกับกิจกรรมหน้าร้อน
1. ไม่สระผมมากเกินไป
หลังจากกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจหน้าร้อนแน่นอนว่ามักมีฝุ่นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดอยู่ที่ผมและหนังศีรษะจนต้องสระผม แต่การสระสมที่มากเกินไปอาจชะล้างความชื้นและน้ำมันที่จำเป็นสำหรับเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ผมแห้งและหนังศีรษะเป็นรังแคได้ ดังนั้นเวลาจะสระผมให้ใช้แชมพูในปริมาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเหรียญห้าร้อยเยนและนวดเบา ๆ ที่หนังศีรษะด้วยปลายนิ้ว เมื่อฟองไหลจากหนังศีรษะไปยังปลายผมก็เพียงพอที่จะล้างออกและทำให้หนังศีรษะและเส้นผมสะอาดแล้ว
2. ใช้ไดร์เป่าผมให้ถูกวิธี
หลังจากสระผมเสร็จแล้วให้เช็ดผมให้หมาดด้วยผ้าขนหนู โดยใช้ผ้าขนหนูกดผมเบา ๆ อย่าขัดหรือบีบแรง ๆ เพราะจะทำให้ผมขาดได้ เมื่อต้องการทำให้ผมแห้งโดยใช้ไดร์เป่าผมก็ควรใช้ที่อุณหภูมิต่ำ เพราะความร้อนจากอุณหภูมิของไดร์เป่าผมที่สูงทำให้ผมแห้งเสียได้ง่าย อีกทั้งต้องระวังเกี่ยวกับระยะห่างของไดร์เป่าผมด้วย โดยให้ไดร์เป่าผมห่างจากศีรษะประมาณ 15 เซนติเมตร และเป่าจากโคนผมไปยังปลายผม นอกจากนี้ ควรชโลมเส้นผมด้วยน้ำมันหรือครีมใส่ผมก่อนการเป่าผมเพื่อป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อนรวมถึงรังสียูวีด้วย
3. ไม่หวีผมในขณะที่ผมเปียก
หลังทำกิจกรรมต่าง ๆ อาจเกิดเหตุทำให้เส้นผมพันกันได้ ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ๆ ไม่รีบหวีผมก็อาจส่งผลกระทบต่อเส้นผมต่อไปได้ จุดสำคัญคือตอนผมเปียก เพาะเป็นช่วงที่ผมอ่อนแอและมีโอกาสขาดได้ง่ายกว่าผมแห้ง ดังนั้นจึงไม่ควรหวีผมในตอนที่ผมยังเปียกชื้น อีกทั้งควรหวีผมเบาๆ จากรากผมไปยังปลายผม
4. ไม่ใช้เครื่องประดับศีรษะมากและนานเกินไป
ไม่ว่าจะผูกผมหรือติดเครื่องประดับผมเพื่อให้แมตช์กับชุดว่ายน้ำ หากใช้เครื่องประดับศีรษะในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้ผมขาดและแตกปลายได้ อีกทั้งเครื่องประดับที่ทำจากโลหะหรือพลาสติกเมื่อนำมาสัมผัสกับเส้นผมจะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตและการเสียดสีเกิดขึ้นและส่งผลให้ผมแห้งได้ง่าย
5. ระมัดระวังเรื่องการทำทรีตเมนต์ผม
การทำทรีตเมนต์ผมมีความสำคัญหลังจากการตากแดดเป็นเวลานาน หรือผมเปียกจากน้ำทะเลหรือน้ำในสระ แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ใช้ทรีตเมนต์ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะหากล้างออกไม่หมดอาจทำให้มีสารตกค้างสะสมที่เส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งหากต้องการหลีกเลี่ยงสารตกค้างที่อาจสะสมที่บริเวณหนังศีรษะก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ผมเฉพาะบริเวณปลายผมซึ่งเป็นส่วนที่มีแนวโน้มจะแห้งขาดได้ง่าย และล้างออกด้วยน้ำอุ่นจนมั่นใจว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ทรีตเม้นตกค้าง
เส้นผมเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก ผมที่แห้งเสีย ไม่เป็นเงางาม และชี้ฟู อาจสร้างไม่มั่นใจให้กับบางคนได้ ลองใช้วิธีการดังกล่าวข้างต้นในการดูแลสุขภาพผมหลังจากกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจกลางแจ้งหรือไปทะเลดูค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: news.livedoor