เจลเก็บความเย็น

คนส่วนใหญ่มักเก็บเจลเก็บความเย็นที่ใส่มากับกล่องขนมเค้ก ไอศกรีม และเครื่องดื่มเย็นต่าง ๆ ไว้ในช่องแช่แข็งเพราะคิดว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการเก็บความเย็นและช่วยยืดอายุของอาหารได้ แต่บางครั้งก็มีเจลเก็บความเย็นสะสมจนเต็มพื้นที่ของช่องแช่แข็งในตู้เย็นจนต้องแยกทิ้ง แทนการทิ้งไปอย่างไร้ค่ามารู้วิธีการนำเจลเก็บความเย็นเหลือใช้มาใช้ประโยชน์แบบคนญี่ปุ่นกันค่ะ

วิธีการนำเจลเก็บความเย็นมาใช้ประโยชน์

1. ใช้ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

เจลเก็บความเย็น

เจลเก็บความเย็นมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งมีวิธีการทำง่าย ๆ คือนำเจลเก็บความเย็นมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องจนเจลภายในมีเนื้อสัมผัสนิ่ม ใช้กรรไกรตัดบรรจุภัณฑ์เจลเก็บความเย็น แล้วใช้ช้อนพลาสติกตักเจลใส่ขวดหรือภาชนะขนาดเล็ก ปิดไว้ด้วยผ้าโปร่ง แล้วนำไปวางไว้ตามที่ต่าง ๆ ที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ทางเข้าบ้าน ตู้เก็บรองเท้า และตู้เย็น เป็นต้น  นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เจลเป็นตัวปรับอากาศในบ้านได้เพียงแค่หยดน้ำมันหอมระเหยที่ชื่นชอบลงไป

2. ใช้ไล่ยุงและแมลงสาบ

เจลเก็บความเย็น

นอกจากใช้เพื่อดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้วยังสามารถนำเจลเก็บความเย็นมาใช้ไล่ยุงและแมลงสาบได้ โดยมีวิธีการคล้ายกับการเตรียมเจลเก็บความเย็นเพื่อขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพียงแค่เติมน้ำมันหอมระเหยที่ยุงและแมลงสาบไม่ชอบ ได้แก่ น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ น้ำมันหอมระเหยเลมอน ยูคาลิปตัส และน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ เป็นต้น ลงไปในเจล ซึ่งนอกจากจะช่วยไล่ยุงและแมลงสาบแล้วก็ยังทำให้บ้านหอมสดชื่นด้วย

3. ใส่ในแจกันหรือกระถางต้นน้ำเพื่อเป็นวัสดุกักเก็บน้ำ

เจลเก็บความเย็น

ด้วยคุณสมบัติกักเก็บน้ำได้จึงสามารถนำเจลเก็บความเย็นใส่ไว้ในแจกันก้นกว้างและใช้เป็นโอเอซิสในการจัดแจกันดอกไม้เพื่อยืดอายุดอกไม้โดยที่สร้างความเก๋ไก๋ให้กับแจกันดอกไม้ได้ดี นอกจากนี้ ในกรณีที่อากาศร้อนจัดและไม่อยู่บ้านเป็นเวลา 2-3 วัน สามารถโรยเจลไว้บนดินในกระถางต้นไม้เพื่อคงความชุ่มชื้นให้แก่ดิน เนื่องจากน้ำที่กักเก็บไว้ในโพลิเมอร์ของเจลจะค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมาสู่ดิน ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้ต้นไม้แห้งตาย ทั้งนี้ก่อนนำเจลมาใช้ควรตรวจสอบว่ามีสารเคมีอื่นที่อาจส่งผลเสียต่อต้นไม้นอกเหนือจากโพลิเมอร์ดูดซับยิ่งยวด (Superabsorbent polymers) หรือไม่

4. บรรเทาความเหนื่อยล้าของดวงตา

เจลเก็บความเย็น

เจลอุ่น ๆ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีและบรรเทาความเหนื่อยล้าของดวงตาได้ วิธีการทำได้โดยนำเจลเก็บความเย็นมาแช่น้ำอุ่นที่ 42 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2-3 นาที แล้วนำมาห่อด้วยผ้าบาง ประคบที่บริเวณตาเพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของดวงตา แต่มีข้อควรระวังว่า ไม่ควรให้ความร้อนเจลด้วยการเข้าไมโครเวฟ เพราะจะทำให้ถุงเจลระเบิดได้

4 ข้อ ควรระวังในการใช้ประโยชน์จากเจลเก็บความเย็น

เจลเก็บความเย็น

  1. ไม่ควรใช้เจลเก็บความเย็นที่เก่าเกินไปจนแช่ช่องแข็งแล้วไม่แข็ง เพราะโพลิเมอร์ดูดซับยิ่งยวดอาจปล่อยสารพิษออกมาตามเวลาที่เก็บไว้นาน
  2. หากวางเจลไว้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงอาจมีเชื้อราขึ้นเจลได้ ดังนั้นหลังจากนำเจลมาวางไว้เป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ ก็ให้นำเจลทิ้งและเปลี่ยนนำเจลใหม่มาใช้ประโยชน์
  3. ควรวางให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยงในบ้าน
  4. ไม่ควรเทเจลที่ไม่ใช้แล้วลงท่อน้ำ เพราะโพลิเมอร์ดูดซับยิ่งยวดจะดูดซับน้ำและพองตัวขึ้นจนไปอุดตันท่อน้ำได้

นอกจากนำมาใช้ประโยชน์ดังกล่าวแล้วยังสามารถนำเจลเก็บความเย็นมาห่อผ้าบางแล้วใช้ประคบเย็น ใช้พันไว้รอบคอเพื่อคลายร้อน และใส่ในกระเป๋าใส่ข้าวกล่องเพื่อป้องกันอาหารเน่าเสีย เป็นต้น

ทุกกระบวนการในการผลิตสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ล้วนใช้พลังงานและปล่อยแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุของโลกร้อนออกมา แทนการใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไปอย่างไรค่า ก็ลองนำมาใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่ากันค่ะ

สรุปเนื้อหาจาก : 8760.news-postseven , kajidaikou-hikaku

ซากุระ เมืองร้อน

แม่บ้านญี่ปุ่นลูกสองผู้รักการทำอาหาร หลงใหลในความงดงามของดอกไม้และธรรมชาติ และชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเพื่อให้แข็งแรงและสวยไปนานๆ ขอฝากเนื้อฝากตัวเพื่อแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ในมุมมองที่หลากหลายให้กับเพื่อนผู้อ่านทุกท่านค่ะ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า