ตอนที่ลูกเรียนอยู่ในระดับประถมศึกษาพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นในโตเกียวจำนวนมากมักจะตั้งคำถามว่าจะให้ลูกเรียนกวดวิชาเพื่อเข้าเรียนระดับมัธยมต้นในโรงเรียนเอกชนดีหรือไม่ และเมื่อรู้ว่าเพื่อนรอบตัวของลูกส่วนใหญ่เรียนกวดวิชาเพื่อสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนเอกชน พ่อแม่จำนวนมากก็ให้ลูกสอบเข้าเรียนเหมือนเพื่อนด้วย มารู้ว่าทำไมพ่อแม่จำนวนมากในโตเกียวจึงอยากให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนตั้งแต่ระดับมัธยมต้น และค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้เมื่ออยากให้ลูกเข้าโรงเรียนเอกชนในญี่ปุ่นกันค่ะ
เหตุผลที่พ่อแม่ในโตเกียวจำนวนมากอยากให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาเอกชน
ในญี่ปุ่นมีระบบการศึกษาที่ให้เด็ก ๆ ที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมต้นของรัฐบาลใกล้บ้านได้ฟรีโดยไม่ต้องสอบเข้า แม้จะมีค่าใช้จ่ายด้านอื่นต่ำแต่เด็กต้องเรียนหนังสือค่อนข้างหนักเพื่อเก็บคะแนนทั้งจากระดับเกรดของวิชาที่เรียนในโรงเรียนทั้งหมด 9 วิชา การสอบวัดระดับทางวิชาการ ภาษาอังกฤษและคันจิ ตลอดจนคะแนนการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ถึงเกณฑ์ที่โรงเรียนระดับมัธยมปลายกำหนดไว้ โดยหากอยากสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายดี ๆ ก็จะมีการกำหนดคะแนนที่สูง ทำให้เด็กเครียดทั้งจากการเรียนและบางครั้งจากการวัดผลโดยครูประจำชั้น การให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนเอกชนตั้งแต่ระดับมัธยมต้นมีข้อดีคือ โรงเรียนมีระบบการสอนและดูแลนักเรียนเพื่อให้เด็กทำคะแนนเฉลี่ยสะสมที่สามารถต่อมัธยมปลายในโรงเรียนเดิมได้ง่ายกว่าการสอบแข่งขันทั่วไป อีกทั้งบางโรงเรียนเด็กสามารถเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในเครือเอกชนได้ นอกจากนี้ โรงเรียนเอกชนดังหลายแห่งในญี่ปุ่นเป็นแหล่งรวมของเด็กหัวกะทิที่สร้างสิ่งแวดล้อมในการแข่งขันกันเรียนเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ง่าย
ค่าใช้จ่ายเมื่อลูกเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาในโรงเรียนเอกชน
ค่าใช้จ่ายที่ต้องเริ่มจ่ายเพื่อให้ลูกสอบเข้าโรงเรียนเอกชนได้คือ ค่าเรียนกวดวิชาที่มีค่าใช้จ่ายประมาณปีละ 250,000-400,000 บาท ตามแต่ความมีชื่อเสียงของสถานกวดวิชา เมื่อลูกสอบเข้าได้โดยส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายต่อปีในโรงเรียนมัธยมเอกชนจะสูงกว่าโรงเรียนรัฐบาลประมาณ 2.7 เท่า ในระดับมัธยมต้น และประมาณ 2 เท่าในระดับมัธยมปลาย โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่อปีในโรงเรียนระดับมัธยมต้นของเอกชนและรัฐบาล
| รายการค่าใช้จ่าย | โรงเรียนระดับมัธยมต้นของรัฐบาล | โรงเรียนระดับมัธยมต้นของเอกชน |
|---|---|---|
| ค่าธรรมเนียมการศึกษาของโรงเรียน | 132,349 เยน (32,099 บาท) | 1,061,350 เยน (257,414 บาท) |
| ค่าอาหารกลางวัน: | 37,670 เยน (9,136 บาท) | 7,227 เยน (1,752 บาท) *เด็กต้องเอาข้าวกลางวันไปเอง |
| ค่าใช้จ่ายกิจกรรมนอกโรงเรียน | 368,780 เยน (89,442 บาท) | 367,776 เยน (89,198 บาท) |
| รวม | 538,799 เยน (130,677 บาท) | 1,436,353 เยน (348,366 บาท) |
2. เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่อปีในโรงเรียนระดับมัธยมปลายของเอกชนและรัฐบาล
| รายการค่าใช้จ่าย | โรงเรียนระดับมัธยมปลายของรัฐบาล | โรงเรียนระดับมัธยมปลายของเอกชน |
|---|---|---|
| ค่าธรรมเนียมการศึกษา | 309,261 เยน (75,007 บาท) | 750,362 เยน (181,989 บาท) |
| ค่าใช้จ่ายกิจกรรมนอกโรงเรียน | 203,710 เยน (49,407 บาท) | 304,082 เยน (73,750 บาท) |
| รวม | 512,971 เยน (124,413 บาท) | 1,054,444 เยน (255,739 บาท) |
โดยทั่วไปเมื่อลูกเข้าสู่วัยสอบเข้ามัธยมต้นคุณพ่อส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 40 ปี ต้น ๆ และมีเงินเดือนเฉลี่ยที่เดือนละ 370,700 เยน หรือ 89,574 บาท และหลังจากหักภาษีและค่าประกันสุขภาพแล้วก็เหลือประมาณ 290,000 หรือ 70,074 บาท ซึ่งนำมาใช้จ่ายต่าง ๆ จิปาถะทั้งค่าผ่อนหรือค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค และค่าโรงเรียนกวดวิชาของลูก เป็นต้น พ่อแม่จำนวนไม่น้อยบอกว่าแทบจะทานข้าวปั้นเป็นอาหารกลางวันเพื่อให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดี ๆ กัน ส่วนผู้เขียนเองที่มีลูกชายคนเล็กกำลังเตรียมตัวสอบเข้ามัธยมต้นก็ทานข้าวสวยกับโชยุค่ะ (ขำ ๆ ค่ะ)
อ้างอิงเนื้อหาจาก: news.yahoo.co.jp
