สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะทุกคน หากพูดถึงวันวาเลนไทน์ นอกจากจะเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองของฝั่งยุโรปแล้ว ประเทศฝั่งเอเชียอย่างญี่ปุ่นเขาก็ไม่น้อยหน้านะคะ แถมยังมีวัฒนธรรมเฉพาะตัวอย่างการที่ผู้หญิงต้องให้ช็อกโกแลตผู้ชาย ว่าแต่ มันเกิดขึ้นมาได้ยังไงนะ ? ก่อนอื่นเราจะพาไปดูอิมเมจที่แท้จริงของวันวาเลนไทน์กันก่อนนะคะ ว่าแรกเริ่มเลยเนี่ย มันเป็นวันแบบไหน
วาเลนไทน์ที่แท้จริง
เราลองมาดูประวัติศาสตร์และอิมเมจที่แท้จริงของวันวาเลนไทน์กันค่ะ บางคนอาจจะเคยทราบมาบ้างแล้ว งั้นจะขอเล่าพอเป็นสังเขปนะคะ
วันวาเลนไทน์มีต้นกำเนิดจากอิตาลี ในยุคจักรวรรดิโรมันโบราณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ถูกกำหนดให้เป็นวันหยุดเพื่อเฉลิมฉลองแก่เทพีจูโน่ เทพีองค์สูงสุดของชาวโรมัน ซึ่งเป็นเทพีแห่งการแต่งงานและการคลอดบุตร และจะมีการจัดงานเทศกาล Lupercalia ในวันถัดมา ในเทศกาลนี้มีประเพณีที่เหล่าสาวน้อยจะเขียนชื่อตนเองใส่ลงไปในเหยือกในวันก่อนหน้า (14 กุมภาพันธ์) พอถึงวันเทศกาล เหล่าผู้ชายจะดึงชื่อออกมา และทั้งสองก็จะจับคู่กันเฉลิมฉลอง จนนำไปสู่การตกหลุมรักและแต่งงานกันในที่สุด
อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 แห่งกรุงโรม มีความกังวลว่าเหล่าทหารจะไม่มีกะจิตกะใจไปร่วมรบเพราะมัวแต่คิดถึงลูกเมีย จึงได้ห้ามปรามการแต่งงาน แต่ในขณะนั้น นักบวชวาเลนติโน่รู้สึกสงสารหนุ่มสาวเหล่านี้ จึงเริ่มแอบทำพิธีแต่งงานให้เหล่าทหารและคนรักอย่างลับ ๆ จักรพรรดิโกรธมากและเร่งเร้าให้วาเลนติโน่ละทิ้งศาสนาคริสต์ แต่เนื่องจากวาเลนติโน่ไม่ยอมทำตาม จักรพรรดิจึงลงโทษและประหารชีวิตนักบวชวาเลนติโน่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 269 (บางแห่งว่าปี 270) เทศกาล Lupercaria ได้ถูกยกเลิกในปี 496 และยกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันครบรอบของนักบวชผู้พลีชีพเพื่อความรัก โดยตั้งชื่อวันนี้ว่าวาเลนไทน์ตามชื่อของนักบวช
ด้วยเหตุนี้ วันวาเลนไทน์สำหรับผู้คนทั่วโลกจึงหมายถึงวันแห่งความรักระหว่างหนุ่มสาวที่มีให้แก่กัน และนิยมมอบของขวัญหรือช็อกโกแลตให้กันและกัน
ทำไมวาเลนไทน์ในญี่ปุ่น ผู้หญิงต้องให้ช็อกโกแลตผู้ชาย ?
ในเมื่อวันวาเลนไทน์เป็นวันที่คู่รักควรมอบของขวัญให้แก่กัน แต่ทำไมในญี่ปุ่น ผู้หญิงถึงต้องให้ช็อกโกแลตผู้ชาย เราลองไปดูประวัติของวันวาเลนไทน์ในญี่ปุ่นแบบคร่าว ๆ กันค่ะ
ปี 1936
ร้านขมม Kobe Morozoff โฆษณาสินค้าเป็นช็อกโกแลตวาเลนไทน์โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือทั้งผู้ชายและผู้หญิง ต่อมาห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ก็ได้โฆษณาอีกว่า วันวาเลนไทน์เป็นวันที่ควรให้ของขวัญแก่คนที่เรารัก แต่ก็ยังไม่ได้เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นสักเท่าไหร่
ปี 1958
Mary Chocolate จัดแคมเปญวันวาเลนไทน์เซลล์ขึ้นที่ห้างอิเซตันในชินจุกุ และได้มีการเสนอให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้ให้ช็อกโกแลตแก่ฝ่ายชาย เนื่องจากว่ากลุ่มลูกค้าหลักที่จะอุดหนุนช็อกโกแลตนั้นเป็นฝ่ายหญิงมากกว่า รวมทั้งในยุคนั้นญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลเรื่อง Women’s Liberation จากอเมริกา ในแนวคิดที่ว่าให้ผู้หญิงเป็นผู้นำในเรื่องของความรัก ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากในยุคสมัยนั้น
ปี 1970
Chocolate and Cocoa Association Japan กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันแห่งช็อกโกแลต ทำให้การแข่งขันทางการค้าขายช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง จนในที่สุด วันวาเลนไทน์ก็ได้หยั่งรากลงสู่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ในยุค 70 พร้อม ๆ กับความนิยมเรื่องช็อกโกแลต แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงบ้างไปตามกาลเวลาแต่ก็ยังมีมาจนถึงปัจจุบัน
ช็อกโกแลตวาเลนไทน์ของญี่ปุ่น
อย่างที่ทราบกันดีว่าวันวาเลนไทน์ของญี่ปุ่น ผู้หญิงจะให้ช็อกโกแลตผู้ชาย ในปัจจุบันก็มีช็อกโกแลตสำหรับวันวาเลนไทน์หลากหลายประเภทมากขึ้น เพื่อสื่อถึงความรักหลากหลายรูปแบบ ถือเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของตนเองที่แตกต่างจากชาติอื่น ๆ เช่น
- 本命チョコ (Honmei Choco) ช็อกโกแลตสำหรับคนรัก แฟน หรือคนที่แอบชอบ ในปัจจุบันเด็กนักเรียนก็ยังมีการให้ช็อกโกแลตนี้เพื่อส่งต่อความรู้สึกให้กับคนที่แอบชอบอยู่
- 義理チョコ (Giri Choco) / 世話チョコ (Sewa Choco) / 社交チョコ (Shako Choco) ช็อกโกแลตตามธรรมเนียมที่มอบให้เพื่อน คนรู้จัก เพื่อนที่ทำงาน ไปจนถึงลูกค้าเพื่อแสดงความรู้สึกขอบคุณและความมีน้ำใจที่ดีต่อกัน
- ファミチョコ (Fami Choco) ช็อกโกแลตสำหรับคนในครอบครัว เพื่อบ่งบอกความรักที่มีต่อครอบครัว โดยปกติจะเป็นช็อกโกแลตที่ทำกันเอง
- 友チョコ (Tomo Choco) ช็อกโกแลตสำหรับเพื่อนสาว สำหรับเพื่อนผู้หญิงเพื่อบ่งบอกถึงมิตรภาพที่ดีต่อกัน มักจะให้เป็นช็อกโกแลตมียี่ห้อหรือไม่ก็เป็นของทำเอง ช็อกโกแลตประเภทนี้ถูกเพิ่มเข้ามาหลังจากที่มีช็อกโกแลตคนรักกับช็อกโกแลตตามธรรมเนียมแล้ว
- ご褒美チョコ (Gohobi Choco) / 自分チョコ (Jibun Choco) / マイチョコ (Mai Choco) ช็อกโกแลตที่เรามอบให้กับตัวเอง เปรียบเสมือนการให้รางวัลตัวเองกับความพยายาม ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นของแพงและของที่เราอยากกิน
- 俺チョコ (Ore Choco) / 逆チョコ (Gyaku Choco) ช็อกโกแลตที่ผู้ชายเป็นคนซื้อ ตั้งแต่อดีต คนที่ซื้อช็อกโกแลตมักจะเป็นฝ่ายหญิงมาตลอด แต่ในปัจจุบันผู้ชายก็เริ่มซื้อช็อกโกแลตกันเองมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าตนเองชอบกินหรือสินค้าดูสวยงาม อีกทั้ง ในหมู่เพื่อนผู้ชายด้วยกันก็ไม่นิยมให้ช็อกโกแลตกับเพื่อน หรือถ้าบางคนที่ไม่มีใครมาแอบชอบก็จะไม่ได้เลย จะทำเองก็ลำบาก เพราะฉะนั้น ซื้อเองก็ได้ง่ายที่สุด
จะเห็นได้จากการแบ่งประเภทช็อกโกแลตที่หลากหลายนะคะว่าคนญี่ปุ่นปัจจุบันมองว่าวันวาเลนไทน์ไม่จำเป็นต้องมีอิมเมจเป็นคนรักเสมอไป สามารถให้กับใครก็ได้ และยังทำให้ตลาดช็อกโกแลตในญี่ปุ่นขยายตัวเป็นอย่างมากอีกด้วยค่ะ
วันแห่งการบอก “รัก” กับคนที่เรา “รัก”
ในญี่ปุ่น ผู้หญิงจะให้ช็อคโกแลตเพื่อส่งต่อความรู้สึกให้กับผู้ชายที่ตนชื่นชอบ ส่วนในประเทศทางตะวันตก วันวาเลนไทน์จะถูกมองว่าเป็น “วันแห่งความรัก” จึงเป็นเรื่องปกติที่คนรักจะให้ของขวัญกันและกัน อาจจะเป็นดอกไม้ การ์ด หรือเครื่องประดับ และนอกจากคนรักแล้วยังมอบให้กับครอบครัวและเพื่อนสนิทด้วย
ในอินเดียและเวียดนาม ผู้ชายจะให้ดอกไม้แก่ผู้หญิง ในหลาย ๆ ประเทศ ก็ดูเหมือนว่าผู้ชายจะเป็นคนให้ของขวัญกับผู้หญิงมากกว่า นอกจากนี้ ในอิตาลียังเชื่อกันว่า การแต่งงานในวันวาเลนไทน์จะทำให้โชคดี จึงมีคู่รักหลายคู่ที่สารภาพรักหรือแต่งงานกันในวันนี้ ส่วนในฟินแลนด์ยังหมายถึง “วันเพื่อน” และมีการแลกของขวัญกันระหว่างเพื่อน ๆ อีกด้วย
แม้จะเป็นวันวาเลนไทน์เดียวกัน แต่ก็มีอิมเมจที่ต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ วาเลนไทน์ในญี่ปุ่นก็ได้นำเอาวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามาดัดแปลงให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น และถ่ายทอดออกมาให้เป็นวัฒนธรรมของตนเอง
วันวาเลนไทน์เป็นวันที่เราควรจะบอก “รัก” กับคนที่เรา “รัก” แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนรักเท่านั้นนะคะ การจะสื่อออกไปด้วยวิธีใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับเรา เพียงแค่ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ เขาจะต้องดีใจมาก ๆ แน่นอนค่ะ ^^
สรุปเนื้อหาจาก allabout, jpnculture