![ไอจิ](https://conomi.co/wp-content/uploads/2024/06/28979159_m-1-1.jpg)
เมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อน ๆ นึกถึงอะไรกันบ้างเอ่ย ?? หนึ่งในนั้นต้องมีเรื่องราวของซามูไรแน่ ๆ เพราะฉะนั้นวันนี้ conomi เลยจะพาเพื่อน ๆ มาเที่ยว จังหวัดไอจิ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูบุ เรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งซามูไร หรือสถานที่ถือกำเนิดของเหล่าวีรบุรุษ ผู้รวบรวมแผ่นดินทั้งสามอย่าง โอดะ โนบุนากะ,โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และ โชกุน โทคุกาวะ อิเอยาสึ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นเรื่องราวของนักรบแดนอาทิตย์อุทัยนั่นเอง!
1. ปราสาทโอคาซากิ
![ปราสาทโอคาซากิ](http://db.conomi.co/wp-content/uploads/2017/02/bd093b35465dd059361d0ed4790f0a68_m-800x533.jpg)
ปราสาทโอคาซากิ เป็นหนึ่งในปราสาทที่ถูกจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น และเกี่ยวข้องกับ ตระกูลโทคุกาวะ โดยภายในปราสาทจะมีอนุเสาวรีย์ของ ท่านอิเอยาสึ และ ท่านฮอนดะ ทาดาคัตสึ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ชุดเกราะ อาวุธ และเครื่องใช้ประจำวันของซามูไร และยังมีโรงละครโนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นด้วย ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะเป็นที่นิยมมาก เพราะเป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ชมดอกซากุระและดอกวิสทีเรียนั่นเอง นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถชมดอกไม้ไฟ 30,000 นัด ได้จากงานเทศกาลดอกไม้ไฟประจำปีอีกด้วย ใครชื่นชอบประวัติศาสตร์สมัยเอโดะละก็ ต้องมาเยือนที่นี่ให้ได้เลยนะ !
ปราสาทโอคาซากิ (岡崎城)
ที่อยู่ | Japan, 〒444-0052 Aichi, Okazaki, Koseicho, 561−1 |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 17.00 น. *ปิดทำการช่วงสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 200 เยน – เด็ก 100 เยน |
เว็บไซต์ | okazaki-kanko |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสายหลัก Meitetsu Nagoya ที่สถานี Nagoya และลงที่สถานี Okazakien-mae แล้วเดินต่ออีกประมาณอีก 10 นาที |
2. ปราสาทอินุยามะ
หนึ่งในห้าปราสาทที่ได้รับเลือกเป็นสมบัติแห่งชาติ เนื่องจากความสวยงามของสถาปัตยกรรม ซึ่งที่นี่เป็น ปราสาทไม้ที่เก่าแก่และเล็กที่สุด! โดยถือเป็นปราสาทแรกที่ ท่านโอดะ โนบุนากะ เข้ามายึดครองด้วยนะ
ตัวปราสาทของที่นี่จะตั้งอยู่บนเนินเขา เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้บริเวณบันไดสูง 4 ชั้น หรือจะเดินชมหออาวุธและชุดเกราะที่ใช้ในสมัยสงครามก็ได้ค่ะ นอกจากนี้บริเวณแม่น้ำคิโซยังมี การตกปลาแบบยูไค ซึ่งเป็นวิธีตกปลาแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น โดยจะตกกันช่วงเดือนมิถุนายน-กลางตุลาคมของทุกปี
และบริเวณใจกลางเมืองยังมี พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมจิมุระ ซึ่งที่นั่นอาคารบ้านเรือนจะเป็นสถาปัตยกรรมในสมัยเมจิทั้งหมด ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสไปเดินเล่นในเมืองล่ะก็จะต้องเห็นสัญลักษณ์รูปสุนัขประดับอยู่ทั่วเมืองแน่นอน ! เพราะคำว่า อินุยามะ ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ภูเขาสุนัขนั่นเอง แม้ที่นี่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เข้ามา แต่ก็ไม่ได้ลดคุณค่าความโบราณลงไปเลยแม้แต่นิดเดียวเลย
ปราสาทอินุยามะ (犬山城)
ที่อยู่ | Kitakoken-65-2 Inuyama, Aichi 484-0082, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 17.00 น. *ปิดทำการช่วงสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | – บุคคลทั่วไป 550 เยน – นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น 110 เยน *มีส่วนลดสำหรับนักท่องที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ปตั้งแต่ 30 คนขึ้นไป |
เว็บไซต์ | inuyama |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสายหลัก Meitetsu Nagoya ไปลงที่สถานี Inuyama หรือสถานี Inuyama-Yuen แล้วเดินต่อไปอีก 15-20 นาที |
3. ปราสาทนาโกย่า
ที่นี่คือ สัญลักษณ์แห่งเมืองซามูไร นั่นเอง เพราะในสมัยเอโดะ นาโกย่าเป็นเมืองแห่งปราสาทที่สำคัญที่สุดเมืองหนึ่ง ส่วน ปราสาทนาโกย่า ก็คือ ตำหนักของ ตระกูลโอวาริโทคุกาวะ และยังเป็นแนวหน้าในการป้องกันเมืองสมัยทำสงครามกับโอซาก้าด้วย
ซึ่งหากเพื่อน ๆ ลองแหงนหน้าขึ้นไปมองบนหลังคา ก็จะเห็นรูปหล่อปลาโลมาทองคำ และยังมีหอกลางที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ที่ถูกสร้างขึ้นโดยศัตรูที่พ่ายแพ้ให้กับสงคราม เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจงรักภักดี พวกเขาหลายคน จึงได้ทำการแกะสลักตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลลงบนก้อนหินที่หามาอีกด้วยค่ะ
ตรงส่วนบริเวณกำแพงหินปราสาท จึงกลายเป็นอีกจุดที่ห้ามพลาดสังเกตเลย! เพราะเราจะเห็นได้ว่ามีสัญลักษณ์ต่าง ๆ ปรากฏอยู่มากมาย ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านั้น ก็ทำให้เกิดเป็นกิจกรรมอย่าง การตามล่าหาสัญลักษณ์ อีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันตราสัญลักษณ์เหล่านี้ ก็ได้กลายเป็นตัวเชื่อมโยงผู้คนที่มีต้นตระกูลเดียวกันให้มาพบกัน!
ปราสาทนาโกย่า (名古屋城)
ที่อยู่ | 1-1 Honmaru, Naka Ward, Nagoya, Aichi 460-0031, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00-16.30 น. *ปิดทำการช่วงวันปีใหม่ |
ค่าเข้าชม | เสียค่าเข้าชมคนละ 500 เยน |
เว็บไซต์ | nagoyajo.city |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสาย Higashiyama ที่สถานี Nagoya และลงที่สถานี Sakae แล้วขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Meijo และลงที่สถานี Shiyakusho แล้วเดินจากทางออก 7 ใช้เวลาประมาณ 5 นาที |
4. ปราสาทคิโยสึ
ปราสาทคิโยสึ เป็นปราสาทแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคสงครามญี่ปุ่น เพราะอยู่ภายใต้อำนาจของ โอดะ โนบุนากะ บุคคลที่ถ้าใครชอบประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นไม่มีทางไม่รู้จักแน่นอน!
ทั้งนี้ ปราสาทที่เพื่อน ๆ เห็นอยู่นี้ เป็นปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นะคะ ส่วนปราสาทจริงนั้น จะตั้งอยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำ เพื่อน ๆ สามารถเดินชมส่วนปราสาทสร้างใหม่นี้เพลิน ๆ ก่อนได้ แล้วค่อยข้ามสะพานแดงด้านหน้าเพื่อชมพื้นที่ปราสาทต่อ
ใครชอบถ่ายรูป เขาก็มีบริการให้ลองใส่ชุดเกราะซามูไรด้วยนะคะ! หรือใครเป็นสายความรู้ ก็สามารถไปเดินชมวัตถุโบราณที่เกี่ยวข้องกับประวัติของปราสาทนี้ได้เช่นกันค่ะ!
ปราสาทคิโยสึ (清洲城)
ที่อยู่ | Shiroyashiki-1-1 Asahi, Kiyosu, Aichi 452-0932, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00-16.30 น. *ปิดบริการทุกวันจันทร์และช่วงวันปีใหม่ |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 300 เยน (กลุ่ม 30 คนขึ้นไป 250 เยน) – นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น 150 เยน (กลุ่ม 30 คนขึ้นไป 100 เยน) |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟสายหลัก Meitetsu Nagoya ที่สถานี Nagoya และลงที่สถานี Shin-kiyosu แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาทีค่ะ |
5. ศาลเจ้าโมโมทาโร่
มีใครเคยได้ยิน ตำนานโมโมทาโร่ บ้างไหมเอ่ย ? โมโมทาโร่ เป็นนิทานพื้นบ้านของเด็กชายที่เกิดจากลูกท้อ มีบริวารเป็นหมา ลิง และไก่ฟ้า ซึ่งพวกเขาเดินทางไปปราบยักษ์ที่ เมืองโอกายามะ นั่นเอง
นิทานเรื่องนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่น ยิ่งเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นแล้วก็คงจะยิ่งคุ้นหูเลยใช่ไหม่ล่ะ ที่ศาลเจ้าโมโมทาโร่แห่งนี้ ก็มีความเกี่ยวข้องกับตำนานโมโมทาโร่ของเมืองอินุยามะด้วย โดยถ้าเข้ามาภายในศาลเจ้าก็จะสังเกตเห็นเสาโทริอิที่มีรูปทรงเหมือนลูกพีชหรือลูกท้อ แถมยังมีหินที่ใช้ซักผ้าซึ่งถูกใช้โดยหญิงชราตามที่ตำนานว่าไว้ รวมทั้งมีรูปปั้นคอนกรีตของตัวละครที่จำลองมาจากตำนานอีกด้วย
ศาลเจ้าโมโมทาโร่ (桃太郎神社)
ที่อยู่ | Ohira-853 Kurisu, Inuyama, Aichi 484-0002, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 10.00-16.00 น. *ปิดบริการทุกวันจันทร์และช่วงวันปีใหม่ |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 200 เยน – เด็ก 100 เยน *ส่วนอื่นฟรี |
เว็บไซต์ | momotaro |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟได้ที่สถานี Nagoya โดยขึ้นสาย Meitetsu Inuyama แล้วลงที่ สถานี Inuyama-yuen หรือจะขึ้นแท็กซี่ก็ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที |
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะ
この投稿をInstagramで見る
ต่อให้เป็นคนไม่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ แต่ที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวอยากเข้ามาเยี่ยมชม เนื่องจากเป็นที่เก็บรวบรวมผลงานศิลปะมากกว่า 12,000 ชิ้น โดยทั้งหมดล้วนเป็นมรดกสืบทอดของตระกูลโทคุกาวะ ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อยปีก็ยังคงถูกเก็บรักษาให้อยู่ในสภาพเดิม
ที่นี่ยังมีของสะสมอย่างดาบและอาวุธต่าง ๆ ชุดเกราะซามูไร เครื่องปั้นดินเผาในพิธีชงชา หน้ากากละครโน รวมถึง เก็นจิ โมโนกาตาริ ที่ปัจจุบันกลายเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นไปแล้ว ถัดไปข้าง ๆ เป็น สวนโทคุกาวะ เพื่อน ๆ สามารถนั่งเล่น รับประทานอาหาร พร้อมกับชมน้ำตกริวมงโนะทาคิ และโอโซเนะโนะทาคิได้ หรือถ้าใครอยากลองชงชา ที่นี่ก็มีให้บริการสอนพิธีชงชาด้วยนะคะ!
พิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะ (徳川美術館)
ที่อยู่ | 1017 Tokugawacho, Higashi Ward, Nagoya, Aichi 461-0023, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 10.00 – 17.00 น. *ปิดให้บริการทุกวันจันทร์และช่วงวันวันหยุดปีใหม่ |
ค่าเข้าชม | Tokugawa Art Museum and Library – ผู้ใหญ่ 1,600 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 1,400 เยน) – นักศึกษาและนักเรียนมัธยมปลาย 800 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 700 เยน) – เด็กอายุ 7 -14 ปี 500 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 400 เยน) รวมค่าเข้า Tokugawa Garden – ผู้ใหญ่ 1,750 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 1,550 เยน) – นักศึกษาและนักเรียนมัธยมปลาย 950 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 850 เยน) – เด็กอายุ 7 -14 ปี 500 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 400 เยน) |
เว็บไซต์ | tokugawa-art-museum |
วิธีเดินทาง | เดินทางมาที่นี่ได้ด้วยรถไฟ JR สาย Chuo ที่สถานี Nagoya และลงที่สถานี Ozone แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที |
7. พิพิธภัณฑ์ผ้ามัดย้อมอะริมัตสึ นารุมิ
この投稿をInstagramで見る
มาย้อนเวลาเดินชม อาริมัตสึ นารุมิ เมืองแห่งผ้ามัดย้อมโบราณ อาริมัตสึ นารุมิ ชิโบริ เป็นเทคนิคการมัดย้อมโบราณของญี่ปุ่น ซึ่งนิยมมากในกลุ่มซามูไร นักเดินทาง และชาวเมือง
ปัจจุบันที่นี่ก็ยังคงสภาพแวดล้อมเหมือนสมัยยุคซามูไรจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนหรือร้านค้าต่าง ๆ เพื่อน ๆ สามารถเดินเล่นถ่ายรูปชมร้านค้าเก่าแก่ที่ถนนแห่งนี้ได้ ยิ่งถ้าใครมาช่วงเดือนมิถุนายน จะตรงกับช่วง เทศกาลอาริมัตสึ ชิโบริ ที่นี่จะมีการออกร้าน มีคอร์สฝึกสอนการทำผ้ามัดย้อม และเปิดแผงร้านค้าทั่วไป รวมถึงการจำหน่ายผ้ามัดย้อมอะริมัตสึ นารุมิที่ทำด้วยมืออีกด้วย บอกเลยว่าผ้ามัดย้อมที่เราเห็นทั่วไปหนะของเลียนแบบนะ ของแท้ต้องที่นี่เท่านั้นค่ะ !
พิพิธภัณฑ์ผ้ามัดย้อมอะริมัตสึ นารุมิ (有松・鳴海絞会館)
ที่อยู่ | Japan, 〒458-0924 Aichi, Nagoya, Midori Ward, Arimatsu, 3008 絞会館 |
เวลาเปิด-ปิด | 9.30-17.00 น. *ปิดช่วงเทศกาลชิโบริ **ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงสิ้นเดือนมีนาคม ปิดทุกวันพุธ |
ค่าเข้าชม | คนละ 300 เยน |
เว็บไซต์ | shibori-kaikan |
วิธีเดินทาง | สามารถขึ้นรถไฟสายหลัก Meitetsu Nagoya ที่สถานี Nagoya แล้วลงที่สถานี Arimatsu เดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีค่ะ |
8. พิพิธภัณฑ์ยานยนต์โตโยต้า
นี่เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ของโตโยต้าที่ตั้งอยู่ใน นากาคุเท เมืองนาโกย่า สำหรับที่นี่เพื่อน ๆ สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติยานยนต์และสามารถเดินชมรถยนต์กว่า 120 คันจากทุกยุคของประวัติศาสตร์ได้ และไม่ใช่แค่รถของโตโยต้าเท่านั้นนะคะที่นำมาจัดแสดง ยังมีแบรนด์ดัง ๆ จากยุโรปและอเมริการวบรวมมาจัดแสดงไว้ที่นี่ด้วย
ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ไฮไลต์อย่าง รถฟอร์ด ธันเดอร์เบิร์ด รถสีแดงคล้ายรถดับเพลิง ปี 1955 พร้อมแพคการ์ดทเวลฟ์ ล้อรถยนต์สิบสองกระบอกสูบ ขอบอกเลยว่ารถทุกคันของที่นี่ยังอยู่ในสภาพไร้ที่ติ เหมือนใหม่เลยละค่ะ หรือถ้าใครเดินเล่นจนเหนื่อยก็มาพักทานอาหาร ที่สามารถมองเห็นสมรภูมิโบราณนากาคุเท หรือซื้อของฝากเป็นรถยนต์ย่อส่วนกว่า 500 รุ่นก็ยังได้ !
พิพิธภัณฑ์ยานยนต์โตโยต้า (トヨタ博物館)
ที่อยู่ | 41-100 Yokomichi, Nagakute, Aichi 480-1118, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.30 – 17.00 น. *ปิดให้บริการทุกวันจันทร์และช่วงวันปีใหม่ |
ค่าเข้าชม | คนละ 1,000 เยน |
เว็บไซต์ | toyota |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Higashiyama ที่สถานี Nagoya และลงที่สถานี Fujigaoka แล้วขึ้นรถลินิโม ลงที่สถานี Geidaidori แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีค่ะ |
9. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโงย่า
หนึ่งในท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ! โดดเด่นด้วยตัวอาคารที่เป็นรูปโลกยักษ์สีเงิน เพื่อน ๆ สามารถเข้าชมปรากฏการณ์ด้านดาราศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามวงโคจรได้ โดยภายในพิพิธภัณฑ์มีทั้งหมด 7 ชั้นด้วยกัน ซึ่ง 5 ชั้นแรกจะเกี่ยวกับนิทรรศการการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ เช่น การทดลอง การโต้ตอบกับหุ่นยนต์ ห้องแล็บไฟฟ้า และห้องแล็บแช่แข็ง
ถึงแม้ที่นี่จะมีการใช้เสียงบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ถ้าคิดว่าเข้าไปแล้วจะฟังไม่รู้เรื่อง แล้วจะหมดสนุก เพราะถ้าหากลองแหงนหน้ามองดวงดาวที่ฉายบนจอภาพขนาดใหญ่แล้ว มันสวยจนเกินคุ้มค่าเลยละค่ะ!
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโงย่า (名古屋市科学館)
ที่อยู่ | Japan, 〒460-0008 Aichi, Nagoya, Naka Ward, Sakae, 2 Chome−17−1 芸術と科学の杜・白川公園内 |
เวลาเปิด-ปิด | 9.30 – 17.00 น. *ปิดทำการทุกวันจันทร์ และวันศุกร์สัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือน / ช่วงวันสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | คนละ 400 เยน |
เว็บไซต์ | ncsm.city |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Higashiyama แล้วลงที่สถานี Fushimi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5-10 นาทีค่ะ |
10. ย่านชอปปิงโอสุ
ก่อนกลับแวะมาเดินเล่นซื้อของฝากที่ ย่านชอปปิงโอสุ เมืองนาโงย่ากันเถอะ! ที่นี่เป็นถนนการค้าที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ วัดโอสุคันนอน สถานที่สักการะเจ้าแม่กวนอิมชื่อดัง ผนวกกับบรรยากาศแบบดั้งเดิม ที่มีร้านค้าเรียงรายตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหาร รองเท้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ สินค้าอนิเมะก็มีขายด้วยนะ เพราะที่นี่ให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมโอตาคุเป็นอย่างมาก จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมสินค้าคอสเพลย์และการ์ตูนอนิเมะ แถมที่นี่ยังมีการประชุมสุดยอดคอสเพลย์โลกด้วย! ถ้าเดินเล่นอยู่แล้วบังเอิญไปชนกับตัวการ์ตูนละก็ไม่ต้องแปลกใจเลยล่ะค่ะ
ย่านชอปปิงโอสุ (大須商店街)
ที่อยู่ | 3 Chome Osu, Naka Ward, Nagoya, Aichi 460-0011, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 11.00-20.00 น. *ปิดทำการทุกวันจันทร์ และวันศุกร์สัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือน / ช่วงวันสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | คนละ 400 เยน |
เว็บไซต์ | osu.nagoya |
วิธีเดินทาง | สามารถเดินทางโดยรถไฟใต้ดินสาย Tsurumai สถานี Osu Kannon ทางออก 2 |
ทริปหน้าไปเที่ยวจังหวัด “ไอจิ” กันเถอะ!
จังหวัดไอจิยังมีกลุ่มขุนพลแห่งนาโกย่า ที่คอยทำหน้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว เป็นเหมือนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดไอจินั่นเองค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนบังเอิญเจอล่ะก็ ถ่ายรูปกับพวกเขามาอวดด้วยนะ! นอกจากนี้ถ้าใครมาช่วงฤดูใบไม้ร่วงล่ะก็ ห้ามพลาด เทศกาลนาโกย่า ที่มีขบวนพาเหรดอลังการเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยก็ว่าได้!