ชิงะ

จังหวัดชิงะ ที่ conomi จะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันวันนี้ หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูนัก จังหวัดนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของภูมิภาคคันไซ ใกล้กับเกียวโต เป็นที่ตั้งของ ทะเลสาบบิวะ ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น! แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งเมืองปราสาทด้วย นอกจากนี้พื้นที่กว่าหนึ่งในหกของจังหวัดชิงะยังถูกขนานนามว่าเป็น โอมิฮัคเค หรือ แปดทิศอันงดงามแห่งโอมิ ถ้าอยากรู้ว่าจังหวัดนี้จะมีทิวทัศน์สวยขนาดไหนล่ะก็ ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ !

1. ทะเลสาบบิวะ

ทะเลสาบบิวะ

ทะเลสาบบิวะ เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยโทริอิกลางทะเลของศาลเจ้าชิราฮิเกะ ถึงจะไม่ใหญ่เหมือนโทริอิที่เกาะมิยาจิม่า แต่โทริอิแห่งนี้ ก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ในการเข้าชมทะเลสาบ อีกทั้งยังสร้างความงดงามให้กับทิวทัศน์บริเวณนี้อีกด้วย ที่สำคัญเพื่อน ๆ ยังสามารถทำกิจกรรมทางน้ำอย่างพายเรือคายัค ตกปลา ตั้งแคมป์ ว่ายน้ำ หรือล่องเรือ Michigan เรืออเมริกันโบราณขนาดใหญ่ ที่มีชั้นดาดฟ้าสามารถชมวิวแบบ 360 องศาได้ด้วย

บริเวณทะเลสาบบิวะยังมีสวนสาธารณะนากิซะตั้งเลียบไปกับทะเลสาบ ที่นี่จึงกลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินยอดนิยม เพราะเมื่อยามแสงอาทิตย์กระทบกับผิวน้ำแล้ว เป็นอะไรที่สวยงาม ควรค่าแก่การดูชมมาก ๆ ค่ะ นอกจากนี้บริเวณสวนแห่งนี้ยังเป็นจุดชมน้ำพุเต้นระบำซึ่งจะเปิดอยู่กลางทะเลสาบบิวะ ถือเป็น น้ำพุที่ยาวที่สุดในโลก แถมยังมีการเปิดไฟประดับที่น้ำพุตอนกลางคืนอีกด้วย

ใครเป็นสายถ่ายรูป ชอบไปคาเฟ่เก๋ ๆ รอบทะเลสาบบิวะก็มีร้านให้เลือกเยอะเลยค่ะ ไปตามเก็บข้อมูลกันต่อได้ที่บทความ 10 คาเฟ่ แนะนำริมทะเลสาบบิวะ กันได้เลย!

ทะเลสาบบิวะ (琵琶湖)

ที่อยู่Shiga, Japan
เวลาเปิด-ปิด*ทะเลสาบเปิดตลอดเวลา

สวนสาธารณะ
10.00 – 18.30 น.

น้ำพุ
12.00-13.00 น. และ 18.00-20.00 น.
(ยกเว้นวันพุธที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน )
ค่าบริการล่องเรือชมทะเลสาบบิวะFull Course 80 นาที
– ผู้ใหญ่ 2,780 เยน
– เด็ก 1,390 เยน

ด่วน 60 นาที
– ผู้ใหญ่ 2,260 เยน
– เด็ก 1,130 เยน
เว็บไซต์biwako
การเดินทางจากสถานีรถไฟ Hamaotsu เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที หรือเดินจากสถานีรถไฟ JR Otsu ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

2. หออุคิมิโดะ วัดมังเกทสึจิ

หออุคิมิโดะ วัดมังเกทสึจิ

หออุคิมิโดะ เป็นส่วนหนึ่งของ วัดมังเกทสึจิ ที่ตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบบิวะ ในสมัยก่อนมีการวางพระพุทธรูปอมิตา 1,000 องค์ เพื่อใช้สำหรับการสวดมนต์ให้ทุกคนที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบปลอดภัย อีกทั้งที่นี่ยังมีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์อันสวยงามของ โอมิ โนะ คุนิ หรือ หออุคิมิโดะ ที่สร้างยื่นออกไปยังทะเลสาบบิวะ เสมือนกำลังลอยตัวอยู่เหนือทะเลสาบ ที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาชมความงามของทะเลสาบบิวะรวมถึงพระจันทร์เต็มดวง และด้วยทัศนียภาพอันงดงามของหออุคิมิโดะ ที่นี่จึงถูกนำไปวาดในภาพคะตะตะ โนะ ราบุกัน หรือ ห่านป่าคืนสู่เหย้า ที่เป็นส่วนหนึ่งของแปดภาพวาดทัศนียภาพเขตโอมิ รวมถึงยังไปปรากฏอยู่ในบทประพันธ์ของ มัทซึโอะ บะโช กวีอันเลื่องชื่อชาวญี่ปุ่นในสมัยเอโดะอีกด้วย

หออุคิมิโดะ วัดมังเกทสึจิ (満月寺浮御堂)

ที่อยู่1 Chome-16-18 Honkatata, Otsu, Shiga 520-0242, Japan
เวลาเปิด-ปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม300 เยน
เว็บไซต์biwako
การเดินทางนั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ JR Katata และเดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที จากป้ายรถประจำทาง Katata Demachi

3. ปราสาทฮิโกเนะ

ปราสาทฮิโกเนะ

ปราสาทฮิโกเนะ เป็นปราสาทแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ยังคงเหลือเอาไว้ซึ่งตัวปราสาทหลัก คูเมือง กำแพง และประตู บริเวณรอบ ๆ ยังมีการสร้างอาคารเพิ่มเติมที่สามารถเดินชมงานนิทรรศการเกี่ยวกับปราสาทและระบบศักดินาของญี่ปุ่นในสมัยก่อนได้

ภายในปราสาทจะมีทั้งหมด 3 ชั้น ทั้งห้องนิทรรศการแสดงสมบัติของครอบครัวตระกูลต่าง ๆ อาวุธ เกราะ ชุดกิโมโนะ เครื่องดนตรีต่าง ๆ ลักษณะของตัวปราสาทโดดเด่นด้วยการผสมผสานกับสถาปัตยกรรมหลากหลายรูปแบบ ชั้นบนสุดของปราสาท เพื่อน ๆ ยังสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพโดยรอบปราสาทได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์และสวนหย่อม ซึ่งเป็นสถานที่ชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และข้าง ๆ ยังมีถนนชอปปิงริมปราสาท ที่ให้บรรยากาศในสมัยอดีต เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งเลียนแบบสถาปัตยกรรมจากสมัยเอโดะ เสมือนได้ย้อนเวลากลับไปอยู่ในยุคนั้นเลยค่ะ

ปราสาทฮิโกเนะ (彦根城)

ที่อยู่1-1 Konkicho, Hikone, Shiga 522-0061, Japan
เวลาเปิด-ปิด8.30-17.30 น.

*ปิดทำการทุกช่วงวันหยุดปีใหม่
ค่าเข้าชมค่าเข้าชม 1,000 เยน

(ชมพิพิธภัณฑ์อย่างเดียว 500 เยน, ทั้งปราสาทและสวนหย่อม 600 เยน)
เว็บไซต์hikonecastle.com
การเดินทางจากสถานี Hikone เดินไปทางถนนเส้นหลักประมาณ 15 นาทีค่ะ

4. ปราสาทนากาฮาม่า

ปราสาทนากาฮาม่า

ปราสาทนากาฮาม่า ตั้งอยู่ที่เมืองนากาฮาม่า บริเวณริมทะเลสาบบิวะ หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดชิงะ ซึ่งปัจจุบันบริเวณโดยรอบปราสาทกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองนากาฮาม่า ที่ภายในสามารถชมเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทในสมัยก่อนได้ด้วย

ปราสาทแห่งนี้ยังถูกล้อมรอบด้วย สวนสาธารณะโทโย ที่มีต้นซากุระมากกว่า 800 ต้น ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองนากาฮาม่า รวมถึงเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมในการมาชมดอกซากุระบานด้วย ดอกซากุระที่นี่จะบานเต็มที่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ถึงกลางเดือนเมษายน แถมในช่วงนั้นยังมีการเปิดร้านค้า การแสดง รวมถึงการเปิดโคมไฟส่องบริเวณสวนสาธารณะในช่วงค่ำคืนอีกด้วย

ปราสาทนากาฮาม่า (長浜城)

ที่อยู่10 Koencho, Nagahama, Shiga 526-0065, Japan
เวลาเปิด-ปิด*เปิด 24 ชั่วโมง
(ช่วงเวลาในการชมไฟประดับดอกซากุระจะมีตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกจนถึงประมาณ 21.00 น.)
ค่าเข้าชม*เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
เว็บไซต์nagahama
การเดินทางจากสถานีรถไฟนากาฮาม่า สาย JR แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

5. วัดเอนริอาคุจิ

วัดเอนริอาคุจิ

วัดเอนริอาคุจิ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของพุทธศาสนานิกายเท็นได ตั้งอยู่บนภูเขาฮิเอซัง ที่พาดระหว่างจังหวัดชิกะและเกียวโต ซึ่งภายในวัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือ “โทโด” ห้องโถงหลัก ซึ่งมีโบสถ์เอก หรือ เนะโมะโตะ ไดโคโด ตั้งอยู่ตรงกลาง มีพระสงฆ์คอยสวดมนต์เติมน้ำมันโคมไฟบูชาพระประธานอยู่ตลอด

ส่วนที่สอง “ไซโตะ” หรือ เจดีย์ และวิหาร เป็นที่ตั้งของห้องโถงเก่าแก่ และสุดท้ายส่วนที่สาม “โยคาวะ” ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ห่างออกไปจากส่วนที่หนึ่งและสองประมาณ 2-3 กิโลเมตร จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้าไปชมมากนัก วัดแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางทรัพย์สิน และวัฒนธรรมของเกียวโตที่รักษาประเพณี และทัศนียภาพมามากกว่า 1,200 ปี รวมถึงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อน ๆ ยังสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณวัดแห่งนี้ได้อีกด้วย

วัดเอนริอาคุจิ (延暦寺)

ที่อยู่4220 Sakamotohonmachi, Otsu, Shiga 520-0116, Japan
เวลาเปิด-ปิดเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม700 เยน
(บริเวณห้องสมบัติ 500 เยน )
เว็บไซต์hieizan
การเดินทางจากเมืองชิงะโดย Sakamoto Cablecar นั่งรถไฟ JR kosei Line จากสถานี แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถบัส 5 นาที ลงที่สถานีเคเบิ้ลคาร์ Sakamoto เดินต่ออีก 5-10 นาที ก็จะถึงบริเวณวิหารหลักแล้วค่ะ

6.วัดอิชิยามะ

วัดอิชิยามะ

หนึ่งในภาพวาดของจันทร์เพ็ญ ฤดูใบไม้ร่วงที่อิชิยามะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดภาพวาดทัศนียภาพของเมืองโอซึ วัดอิชิยามะสร้างขึ้นอยู่บนภูเขาหินขนาดใหญ่ เป็นสถาปัตยกรรมที่หาดูได้ยากในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งโดยพระเถระโรเบน โซโจว ในสมัยนารา ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นที่นิยมในการเดินทางมาแสวงบุญของผู้ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนาสมัยก่อนนั่นเอง

ภายในเพื่อน ๆ สามารถชมห้องโถงหลัก และเจดีย์สองชั้น ที่ถูกบันทึกเป็นสมบัติชาติ อีกทั้งยังมีสวนดอกไม้ตามฤดูกาล ให้เดินชมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ ดอกซึซึจิ และดอกโชบุ เนื่องจากวัดอิชิยามะแห่งนี้มักถูกกล่าวถึงในบทประพันธ์ และวรรณคดีญี่ปุ่นบ่อย ๆ บริเวณห้องเกนจิ ซึ่งเมื่อก่อนถูกใช้เป็นสถานที่ในการประพันธ์บทกลอนของนักประพันธ์หญิงอย่าง มุราซากิ ชิคิบุ ที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ รวมถึงหอคันนง จุดชมพระจันทร์คืน 15 ค่ำ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถมองเห็นพระจันทร์ดวงกลมโตได้อย่างเต็มตาเลยละค่ะ

วัดอิชิยามะ (石光山 石山寺)

ที่อยู่1 Chome-1-1 Ishiyamadera, Otsu, Shiga 520-0861, Japan
เวลาเปิด-ปิด8.00 – 16.30 น.
ค่าเข้าชม500 เยน
เว็บไซต์ishiyamadera
การเดินทางเดินจากสถานี Keihan-Ishiyama ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ

7. ศาลเจ้าฮิโยชิไทฉะ

ศาลเจ้าฮิโยชิไทฉะ

ฮิโยชิไทฉะ เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฮิเอในเมืองโอทสึ จังหวัดชิงะ เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นเส้นทางอับโชค ที่นี่จึงขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันโชคร้ายและหายนะทั้งปวง อีกทั้งที่นี่ยังเป็นศาลเจ้าหลักในการจัดงานเทศกาลซันโนะ ซึ่งภายในศาลเจ้าเพื่อน ๆ สามารถเดินชมห้องโถงกว่า 21 ห้องที่มีสถาปัตยกรรมก่อสร้างอันหาดูได้ยาก และมีการเก็บรักษาสมบัติทางวัฒนธรรมเอาไว้อย่างดี รวมถึงรูปลิงแกะสลักหินที่ตั้งอยู่บนแต่ละมุมของหลังคา

นอกจากศาลเจ้าฮิโยชิไทฉะ แม้แต่แม่น้ำโอมิยะที่ไหลผ่านข้าง ๆ และสะพานฮิโยชิซันเกียว ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติชาติที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นด้วย หากมีโอกาสมาที่นี่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็อย่าลืมแวะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ศาลเจ้าอิโยชิไทฉะ นะคะ เพราะที่นี่มีต้นเมเปิ้ลกว่า 3,000 ต้น แถมตอนกลางคืนยังมีการตกแต่งไฟประดับเพื่อเพิ่มสีสันให้กับฤดูใบไม้ร่วงด้วย

ศาลเจ้าฮิโยชิไทฉะ (日吉大社)

ที่อยู่5 Chome-1-1 Sakamoto, Otsu, Shiga 520-0113, Japan
เวลาเปิด-ปิด9.00-16.30 น.

(ชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ตั้งช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม)
ค่าเข้าชม300 เยน
เว็บไซต์hiyoshitaisha
การเดินทางเดินเท้า 20 นาที จากสถานี Sakamoto

8. ศาลเจ้าโอมิจินกู

ศาลเจ้าโอมิจินกู

ศาลเจ้าโอมิจินกู ถูกสร้างขึ้นบริเวณเชิงเขาทางตะวันตกของทะเลสาบบิวะ เพื่ออุทิศให้กับ จักรพรรดิเทนชิ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความโชคดี ความอุตสาหะ และนักวิชาการ อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบของศิลปะในยุคโชวะ อีกทั้งตัวศาลเจ้ายังโดดเด่นด้วยสีแดงสดใส และโทริอิที่มีความงดงามและสะดุดตาไม่แพ้ที่อื่นเลยละ สำหรับเพื่อน ๆ ที่เคยดูอนิเมะเรื่อง Chihayafuru อาจจะคุ้นเคยกับศาลเจ้าแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขันคารุตะ หรือการ์ดเฮียวคุนิน ซึ่งแน่นอนว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในฉากการแข่งขันที่สำคัญด้วย

อีกทั้งทุกวันที่ 3 พฤศจิกายน ยังตรงกับ เทศกาลยาคุซาเมะ ที่เพื่อน ๆ สามารถมาชมการขี่ม้ายิงธนูได้ รวมถึงยังสามารถชมนาฬิกาจับเวลาที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น เนื่องจากบริเวณศาลเจ้าเป็นพิพิธภัณฑ์นาฬิกาโอมิจินกู ที่สะสมนาฬิกาไว้กว่า 2,300 เรือน อย่างนาฬิกาโรอุโคคุ นาฬิกาน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น แถมยังมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับโอมิ จินกู ภาพวาด และเครื่องปั้นดินเผาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันอีกด้วย

ศาลเจ้าโอมิจินกู (近江神宮)

ที่อยู่1-1 Jingucho, Otsu, Shiga 520-0015, Japan
เวลาเปิด-ปิด9.30-16.30 น.

*ปิดทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม300 เยน
เว็บไซต์oumijingu
การเดินทางนั่งรถไฟฟ้าเคอิฮัน สาย Ishiyama-Sakamota  ไปลงที่สถานี Omi Jingu-mae จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 9 นาที

9. พิพิธภัณฑ์มิโฮ

พิพิธภัณฑ์มิโฮ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบโดย โคยามะ มิโฮโกะ สถาปนิกสาวชาวญี่ปุ่น และ ไอ. เอ็ม. เพ สถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ตั้งอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์บนภูเขาชิงารากิ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดดเด่นด้วยโครงสร้างของเหล็กและกระจกที่แปลกตา ทำให้กลายเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจ

และเนื่องจากตั้งอยู่ภายในภูเขาลึก ระหว่างทางที่เดินเข้ามาเพื่อน ๆ จะได้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ ค่อย ๆ เปลี่ยนไปตั้งแต่ปากอุโมงค์ทางเข้าที่มีแต่ความมืด เรื่อยมาจนเริ่มเห็นแสงสว่าง ภายในเพื่อน ๆ ยังสามารถชมผลงานที่จัดแสดงอยู่ชั้นใต้ดินโดยใช้แสงจากธรรมชาติส่องลงมา อีกทั้งยังมีผลงานเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณของชาวอียิปต์ โรมัน และวัฒนธรรมเอเชียอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผลงานที่เราเห็นกันจะเป็นของสะสมส่วนตัวของคุณโคยามะ นอกจากนี้การจัดแสดงผลงานก็ไม่จำเจ เพราะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงทุก ๆ ปี แถมยังมีนิทรรศการพิเศษอันน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์มิโฮ (ミホミュージアム)

ที่อยู่Japan, 〒529-1814 Shiga, Koka, Shigarakicho Tashiro, 桃谷300
เวลาเปิด-ปิด10.00 – 17.00 น.

*ปิดทำการทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม1,100 เยน
เว็บไซต์miho
การเดินทางจากสถานี Kyoto Station นั่งรถไฟ JR Tokaido Line ไปลงที่ Ishiyama Station แล้วนั่งรถบัส Teisan หมายเลข 150 ไปยังพิพิธภัณฑ์มิโฮ
จากนั้นสามารถนั่งรถบัสฟรีของพิพิธภัณฑ์เข้าไปภายในได้เลย

10. ลานสกีโอคุอิบุคิ

ลานสกีโอคุอิบุคิ เป็นสกีรีสอร์ทที่รู้จักกันดีที่สุดในแถบคันไซ ด้วยพื้นที่อันกว้างขวาง แถมยังเดินทางสะดวก สำหรับคนที่รักกีฬาฤดูหนาวละก็ที่นี่ถือเป็นลานสกีที่ยอดเยี่ยมสุด ๆ ไปเลยล่ะค่ะ เพราะเขามีการสร้างสโลปสำหรับเล่นสกีถึง 12 คอร์ส ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะเป็นเพียงมือสมัครเล่น หรือเป็นมือโปรที่ผ่านมาหมดแล้วทุกสนามแข่ง ก็สามารถสนุกสนานไปกับสกีรีสอร์ทที่นี่ได้ ด้วยลานสกีที่ชันที่สุดถึง 46 องศา เหมาะสำหรับมือโปร และลานสกีหิมะคุณภาพดีสำหรับคุณหนู ๆ มีการติดตั้งสายพานที่อุโมงค์ไว้ให้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีอาคารเซนเตอร์เฮ้าส์ ที่ภายในมีทั้งศูนย์อาหาร ร้านขายของที่ระลึก โรงเรียนสอนสกีและสโนว์บอร์ด ร้านให้เช่าอุปกรณ์ พื้นที่สำหรับเด็ก และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้สนุกสนานไปกับหน้าหนาวได้อย่างเต็มที่

ลานสกีโอคุอิบุคิ (奥伊吹スキー場)

ที่อยู่Japan, 〒521-0301 Shiga, Maibara, Kozuhara, 奥伊吹
เวลาเปิด-ปิด8.00 – 17.00 น.
ค่าเข้า,เช่าชุดค่าเข้า
– เต็มวันราคา 4,000-4,500 เยน
– ครึ่งวันราคา 3,000-3,500 เยน

ค่าเช่าอุปกรณ์ (ชุดกีฬา แผ่นสกี และรองเท้าบู๊ท)
– 7,000 เยน/วัน

*ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามจำนวน และระยะเวลาในการเช่า
เว็บไซต์okuibuki
การเดินทางขับรถจากโอซาก้า ขึ้นทางด่วน Hokuriku ลงทางออก Maibara IC ใช้เวลาประมาณ 1 ชั้วโมง 40 นาที

ทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า ไป “ชิงะ” กัน!

ชิงะ
hiyoshi taisha shrine seven willow torii gates

จังหวัดชิงะ นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่อง ภาพโอมิฮัคเค ความสวยงามทั้งแปดทิศแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถเพลิดเพลินกับ เครื่องปั้นดินเผาชิการาคิรูปแรคคูน ที่ถือเป็นของฝากยอดนิยมของที่นี่ได้ด้วยค่ะ ที่สำคัญเมื่อมาถึงจังหวัดนี้ ห้ามพลาดชิม ฟูนะซูชิ ซูชิ แบบดั้งเดิม ที่ใช้ปลาน้ำจืดหมักดอง รวมถึง เทศกาลฮิคิยามะมัตสึริ อันโด่งดัง ที่จัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิด้วย แล้วอย่าลืมแชะภาพมาอวดกันบ้างนะ !

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า