ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

นอกจากวัดหรือสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้ว ปราสาทญี่ปุ่นเป็นสถานที่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศเข้ามาชื่นชมความสวยงามและศึกษาประวัติศาสตร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ เดิมที่ปราสาทถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการทางการทหาร แต่ในยุคเซ็งโงกุ (ค.ศ.1467–1615) ที่ผู้นำท้องถิ่นมีอำนาจมากกว่ารัฐบาลกลาง มีการเพิ่มฟังก์ชันปราสาทให้เป็นบ้านของไดเมืองหรือผู้นำท้องถิ่น เพื่อสร้างความประทับใจและข่มศัตรู ปราสาทแต่ละแห่งก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้จะมาแนะนำปราสาทที่ลอยอยู่กลางฟ้าท่ามกลางเมฆหมอก เป็นปราสาทญี่ปุ่นมีลูกเล่นทางธรรมชาติ ทำให้มีทัศนียภาพที่น่าประทับใจเหมือนหลุดมาจากในการ์ตูน!

ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

เอจิเซ็นโอโนะเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นบนภูเขาคาเมยามะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองโอโนะ จ.ฟุคุอิ มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 249 เมตร ปราสาทญี่ปุ่นจะถูกแบ่งประเภทตามลักษณะที่ตั้ง ซึ่งเอจิเซ็นโอโนะจัดอยู่ในประเภทปราสาทบนเนินตํ่าซึ่งพบได้ค่อนข้างน้อย

ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

ช่วงราวปี ค.ศ. 1575 หรือหนึ่งปีก่อนสร้างปราสาทอาซูจิในจังหวัดชิงะ “โอดะ โนบุนางะ” (織田信長, Oda Nobunaga) ผู้นำทางการทหารและหนึ่งในบุคคลที่สำคัญในยุคเซ็งโงกุ (ค.ศ.1467–1615) ได้มอบที่ดินให้เป็นรางวัลกับ “คานาโมริ นากาจิกะ” (金森長近, Kanamori Nagachika) เพื่อสร้างปราสาทหลังจากช่วยปราบกบฏ ใช้เวลาห้าปีจึงเสร็จสมบูรณ์ จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมอยู่ที่ฐานของปราสาท เป็นการเรียงหินธรรมชาติซ้อนกันทีละก้อนดูคล้ายกับกำแพงหิน โดยวิธีดังกล่าวถูกเรียกว่า “โนซูราซูมิ” (野面積み, Nozurazumi)

ปราสาทกลางทะเลหมอก

ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

เอจิเซ็นโอโนะตั้งอยู่บนภูเขาของพื้นที่แอ่งกระทะโอโนะที่ล้อมรอบด้วยภูเขา เมืองรอบปราสาทที่เป็นที่อยู่ของเหล่าชาวเมืองในอดีตโดยจะกระจายตัวอยู่รอบปราสาท เมื่อมีเมฆหมอกมาปกคลุม เมืองรอบปราสาทจะถูกซ่อนในม่านหมอก ทำให้ปราสาทแห่งนี้จะดูเหมือนลอยอยู่ในอากาศ เป็นที่มาของชื่อ “เอจิเซ็นโอโนะ ปราสาทท้องฟ้ากลางทะเลหมอก” เมื่อทะเลหมอกหายไปเมืองรอบปราสาทก็จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต ปรากฏการณ์ที่น่าสวยงามแบบนี้จะเกิดขึ้นช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูใบไม้ผลิ (เดือนตุลาคมถึงสิ้นเดือนเมษายน) โดยโอกาสเห็นมากสุดคือช่วงเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่เช้ามืดถึงประมาณ 09.00 น. และเนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ จึงต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสภาพอากาศด้วยเช่นกัน มีสามข้อคือ 1. วันก่อนหน้าต้องมีความชื้นสูง (เช่น หนึ่งวันหลังจากวันที่ฝนตก) 2. อุณหภูมิตอนกลางวันของวันก่อนหน้ากับตอนเช้าของวันที่ชมต้องต่างกันอย่างมาก 3. ไม่มีลมหรือถ้ามีก็ต้องเป็นลมพัดเบา ๆ

แนะนำสถานที่ชมปราสาท

ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

จุดที่สามารถสามารถชมปราสาทท้องฟ้ากลางทะเลหมอกได้สวยที่สุดก็คือ บริเวณซากปราสาทอินุยามะ (戌山城跡) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเอจิเซ็นโอโนะ เนื่องจากบริเวณซากปราสาทอินุยามะมีความสูง 324 เมตร ต้องปีนเขาขึ้นไปตามเส้นทางที่กำหนดด้วยความระมัดระวัง โดยเส้นทางไปจุดชมวิวจะถูกเรียกว่า คุวาคาเกะ (鍬掛ルート) หรือ เส้นทางสู่สวรรค์ (天空への小径) ใช้เวลาในการปีนขึ้นเขาประมาณ 15-20 นาที และ 10-15 นาที ในการลงเขา หรือถ้าใครไม่สะดวกปีนก็มีช่องทางให้รับชมผ่านไลฟ์สตรีมด้วยเช่นกัน

ข้อมูลปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ

เห็นภาพปราสาทลอยฟ้าแล้วนึกถึงอนิเมะเรื่องลาพิวต้า (Laputa : Castle in the Sky) จากค่ายจิบลิเลยค่ะ เวลาไปเที่ยวเพื่อดูปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ต้องพึ่งแต้มบุญสูงมาก ๆ เลยนะคะ เพราะไม่ใช่แล้วว่าไปแล้วจะได้เห็นเสมอไป แต่ก็เพราะสิ่งนี้แหละค่ะที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม และกระตุ้นความอยากเห็นเข้าไปอีก จริงไหมคะ?

สรุปเนื้อหาจาก : Onocastle HP , Fuku-e

beniko59

อดีตสาวโตเกียว ชอบดื่มกาแฟ ชอบท่องเที่ยว ชอบกินขนม และชอบยามะพี

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า