ถ้าพูดถึงจังหวัดซากะ เพื่อน ๆ คงพอจะนึกออกใช่ไหมล่ะ ก็ทั้งหนังไทยเรื่อง Timeline หรือแม้กระทั่งซีรีส์เรื่อ STAY ซากะ..ฉันจะคิดถึงเธอ หรือแม้แต่กลกิโมโนของพี่เบิร์ดกับพี่ชมพู่สุดสวย ทั้งสามเรื่องที่พูดมาก็เลือกใช้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดซากะในการถ่ายทำทั้งนั้น ทำให้คนไทยได้รู้จักกับจังหวัดน่ารัก ๆ แห่งนี้ และอยากที่จะเก็บกระเป๋าออกเดินทางไปซะเดี๋ยวนี้เลย ฉะนั้น! conomi ก็ไม่น้อยหน้า เราจะมาพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวจังหวัดที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันค่ะ
จังหวัดซากะเป็นจังหวัดที่พรั่งพร้อมไปด้วยธรรมชาติ จึงเต็มไปตัวการเกษตรและการประมง อาหารก็อร้อยอร่อยแถมยังสดอีกต่างหาก โดยเฉพาะปลาหมึกโยบุโกะ ปลาหมึกใสชื่อดังแห่งจังหวัดซากะ นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ออนเซน เทศกาลประจำปีก็ยังมีให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเดินทางอีกมากมาย เราขอแนะนำ 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวใน “ซากะ” ที่ไม่ไปไม่ได้ ให้ทุกคนได้รู้จักนะคะ
1. ปราสาทซากะ
ปราสาทซากะ (佐賀城) เป็นปราสาทชั้นเดียวแห่งเดียวในญี่ปุ่น ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่โตอลังการเท่ากับปราสาทอื่น ๆ แต่ก็เป็นปราสาทเพียงหลังเดียวที่มีการบูรณะด้วยไม้ทั้งหลังที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ภายในมีการจัดแสดงโดยแบ่งเป็นห้องต่าง ๆ เช่น ห้องพัก ห้องอาวุธโบราณ ห้องข้าวของเครื่องใช้ ประวัติความเป็นมาของปราสาท และห้องโถงขนาดใหญ่ที่ปูด้วยเสื่อทาทามิ เป็นสถานที่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวช่วงปลายสมัยเอโดะที่แคว้นซากะมีความเจริญรุ่งเรืองที่สุด
รายละเอียดปราสาทซากะ (佐賀城)
ที่อยู่ | 2 Chome-18-1 Jonai, Saga, 840-0041, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 09.30 – 18.00 น. |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | Sagajou |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ JR Saga เดินอีกประมาณ 15 นาที หรือจากสถานีรถบัส JR Saga โดยรถบัสหมายเลข 6 มาลงที่ป้าย Sagajoato |
2. ปราสาทคาราสึ
ปราสาทคาราสึ (唐津城) เป็นปราสาท 5 ชั้นที่โดดเด่นสวยงามตั้งตะหง่านอยู่กลางเมืองคาราสึแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองคาราสึ สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1966 ปัจจุบันภายในปราสาทจัดแสดงของมีค่า ชุดเกราะ วัสดุที่ใช้ทำเครื่องปั้นดินเผาของคาราสึ วัตถุโบราณคดีและอื่น ๆ อีกมากมาย แต่จุดเด่นของปราสาทก็คือ หอคอยชมวิวของปราสาทที่จะมองเห็นทะเลเกนไกอิ มาสุอุรากาตะ อ่าวคาราสึ และตัวเมืองคาราสึได้โดยรอบ ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะเป็นสถานที่ชมดอกซากุระและดอกฟูจิชื่อดังแห่งหนึ่งเลยหละ
รายละเอียดปราสาทคาราสึ (唐津城)
ที่อยู่ | 8-1 Higashijonai, Karatsu, Saga 847-0016, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 09.00 – 17.00 น. *หยุดวันที่ 29 – 31 ธันวาคม |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 410 เยน – เด็ก 200 เยน |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | Karatsujou |
การเดินทาง | จากสถานีรถฟไฟ JR Karatsu เดินอีกประมาณ 25 นาที |
3. พิพิธภัณฑ์ฮิคิยามะ
เมื่อมาเมืองคาราสึแล้ว หากไม่ได้ดูเทศกาลคาราสึ คุนจิ (Karatsu Kunchi) ล่ะก็ ก็สามารถจะมาดูความยิ่งใหญ่ตระการตาของรถลากหรือฮิคิยามะ ที่ใช้เดินขบวนแห่ทั้ง 14 คันในเทศกาลคาราสึ คุนจิ ซึ่งเป็นเทศกาลใหญ่ประจำปีของเมืองคาราสึได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภายในจัดแสดงรถลากในรูปแบบต่าง ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยความเอาใจใส่ของชาวเมือง รถลากส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งเป็นรูปร่างของสัตว์ในตำนานหรือหมวกเหล็กของวีรบุรุษชื่อดัง ความอลังการของรถลากเป็นจุดไฮไลต์ของเทศกาลนี้
รายละเอียดพิพิธภัณฑ์ฮิคิยามะ (曳山展示場)
ที่อยู่ | 2881-1 Shinkomachi, Karatsu, Saga 847-0043, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 09.00 – 15.00 น. *เทศกาล Karatsu Kunchi จะมีช่วง วันที่ 2 – 4 เดือนพฤศจิกายนของทุกปี |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 300 เยน – เด็ก 150 เยน |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ JR Karatsu เดินอีกประมาณ 15 นาที |
4. ตลาดเช้าโยบุโกะ
この投稿をInstagramで見る
ตลาดเช้าโยบุโกะ (呼子の朝市) เป็น 1 ใน 3 ตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เรียงรายไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสด ๆ อาหารแปรรูป ผักผลไม้ทั้งแบบสดและแบบตากแห้ง รวมถึงดอกไม้ให้เลือกซื้อกันได้อย่างเพลิดเพลินตลอดทางยาว 200 เมตร ในวันธรรมดาร้านจะมาตั้งประมาณ 40 ร้าน แต่ในวันอาทิตย์ร้านจะเปิดถึง 60 ร้านกันเลยทีเดียว ทีนี้เราก็ไปเลือกซื้อวัตถุดิบสด ๆ มาทำอาหารกันได้สบายใจ อ๊ะ! อย่าลืมไปลองปลาหมึกใสชื่อดังของที่นี่กันด้วยนะคะ
รายละเอียดตลาดเช้าโยบุโกะ (呼子の朝市)
ที่อยู่ | 4177 Yobukocho Yobuko, Karatsu, Saga 847-0303, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 07.30 – 12.00 น. |
ค่าเข้าชม | ราคาสินค้าสดแล้วแต่ร้าน |
การเดินทาง | จากสถานีรถบัส Oteguchi โดยนั่งรถบัส Showa มาลงที่ป้าย Yobuko และเดินต่ออีกประมาณ 2 นาที |
5. อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิ
อุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิ (吉野ヶ里歴史公園) เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่แสดงวัฒนธรรมของยุคยาโยอิ (ประมาณ 700 ปีก่อน) ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดวัฒนธรรมญี่ปุ่นเลยนะ อุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้ได้มีการบูรณะรั้วอาคารต่าง ๆ ให้เหมือนกับศตวรรษที่ 3 ในสมัยนั้นเปี๊ยบ เพื่อให้คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวที่สนใจได้เข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในสมัยก่อน ทั้งการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนแบบสมัยก่อน ป้อมสังเกตการณ์ รั้ว หรือแม้กระทั่งเนินเผาศพ และการก่อไฟที่ทุกคนจะได้ลองก่อไฟแบบยุคนั้นด้วยตัวเอง และลองทำอาหารที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นล้วน ๆ ถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่ามากสำหรับประเทศญี่ปุ่น
รายละเอียดอุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนะการิ (吉野ヶ里歴史公園)
ที่อยู่ | 4177 Yobukocho Yobuko, Karatsu, Saga 847-0303, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 09.00 – 17.00 น. (วันที่ 1 เดือนมิถุนายน – 31 เดือนสิงหาคมจะเปิด – ปิด 09.00 – 18.00 น.) *หยุดวันที่ 31 เดือนธันวาคม และวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนมกราคม |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 420 เยน – ผู้สูงอายุ 200 เยน – เด็ก 80 เยน |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Yoshinogari Park เดินอีกประมาณ 15 นาที |
6. หมู่บ้านโอคาวะจิยามะ
この投稿をInstagramで見る
วัฒนธรรมเอกลักษณ์ของเมืองอิมาริ จังหวัดซากะ จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากศิลปะเซรามิกที่มีชื่อเสียงโด่งดังและโดดเด่นมาก ๆ โดยจะมีศิลปะเซรามิก “Imari Yaki” เป็นของขึ้นชื่อที่คนญี่ปุ่นนิยมซื้อให้เป็นของที่ระลึกให้แก่กันในวันสำคัญ เมืองแห่งนี้ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและหินผาสวยงามราวกับภาพวาด และบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยอิฐ ปล่องไฟเก่า ๆ กว่า 30 เตาที่เพื่อน ๆ สามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของวัฒนธรรมอันเก่าแก่กว่า 350 ปีที่ยังเหมือนมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน จนได้รับเลือกให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น” นอกจากนี้ยังได้รับสองดาวจากมิชลินกรีนไกด์ว่าเป็นที่ “ที่ ๆ ควรค่าแก่การไปเยือน”
รายละเอียดหมู่บ้านโอคาวะจิยามะ (大川内山)
ที่อยู่ | Otsu-1848 Okawachicho, Imari, Saga 848-0025, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 09.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้าชม | Painting Workshop 800 เยนขึ้นไป |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | Ookawachiyama |
การเดินทาง | จากสถานี Imari ให้นั่งรถบัสสาย Saihi จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที |
7. ศาลเจ้ายูโทะคุอินาริ
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเพื่อถวายให้กับเทพอินาริ เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการค้าขาย ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมมาอธิษฐานขอพรให้ประสบความสำเร็จทางธุรกิจการค้าและความปลอดภัยจากอุบัติเหตุ นอกจากนี้ด้านบนของตัวศาลเจ้ายังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงใบไม้ผลิที่ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มและแดง ช่างเป็นศาลเจ้าที่สวยงามขนาดที่ละครเรื่องกลมิโมโนไปถ่ายทำเลยนะคะ
รายละเอียดศาลเจ้ายูโทะคุอินาริ (祐徳稲荷神社)
ที่อยู่ | Furueda, Kashima, Saga 849-1321, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้าชม | ฟรี |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | Yutokusan |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Hizenhama เดินอีกประมาณ 35 นาที |
8. สวนมิฟุเนะยามะระคุเอ็น
สวนมิฟุเนะยามะระคุเอ็น (御船山楽園) เคยเป็นที่ตั้งคฤหาสน์ส่วนตัวของชิเงโยชิ นาเบชิมะ ขุนนางคนที่ 28 ของเขตทาเกโอะ ด้วยความที่เป็นสถานที่กว้างขวางและมีดอกไม้สวย ๆ เยอะ จึงได้มีการจัดเทศกาลดอกไม้ขึ้นที่นี่หลากหลายพันธุ์ เช่น โซะเมะโยชิโน ดอกซากุระโอชิมะ ซากุระยาเกะ และดอกซากุระพันธ์ุอื่น ๆ อีกกว่า 2,000 ต้น รวมแล้วกว่า 5,000 ต้น กับดอกอาซาเลียกว่า 50,000 ดอก นอกจากนี้ยังมีต้นฟูจิขนาดใหญ่มีอายุกว่า 170 ปี และต้นไม้ดอกไม้อื่น ๆ อีกมากมายที่ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามกัน
รายละเอียดสวนมิฟุเนะยามะระคุเอ็น (御船山楽園)
ที่อยู่ | 4100 Takeocho Oaza Takeo, Takeo, Saga 843-0022, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | 08.00 – 17.00 น. *อาจะมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล |
ค่าเข้าชม | – ผู้ใหญ่ 400 เยน – เด็ก 200 เยน |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | Mifuneyamarakuen |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ JR Takeo Onsen โดยรถไฟสาย Sasebo นั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที |
9. อุเรชิโนะออนเซน
อุเรชิโนะออนเซน (嬉野温泉) ถือเป็นเมืองออนเซนแห่งนี้มีออนเซนที่มีประวัติยาวนานมากว่า 1,300 ปี และยังได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ของออนเซนเพื่อผิวพรรณที่งดงามในญี่ปุ่น ด้วยน้ำร้อนที่ใสไร้สีและมีความเข้มข้นที่จะช่วยให้ผิวพรรณของผู้ที่มาแช่กลับมาผ่องใส นุ่มนิ่ม และเด้งดึ๋ง จึงเป็นที่โด่งดังและชื่นชอบของผู้ที่หลงรักการแช่ออนเซนโดยเฉพาะคุณผู้หญิง
รายละเอียดอุเรชิโนะออนเซน (嬉野温泉)
ที่อยู่ | Ureshino, Saga, Japan |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ JR Takeo Onsen โดยนั่งรถบัส JR Bus ประมาณ 30 นาที |
10. เทศกาลบอลลูนนานาชาติซากะ
บอลลูนลูกใหญ่หลากหลายรูปทรงจากนานาประเทศกว่า 100 ลูกมารวมตัวกันอยู่ที่ “เทศกาลบอลลูนนานาชาติ” แห่งนี้ นอกจากจะมีการประกวดแล้วยังมีการจัดแสดงโชว์บอลลูนน่ารัก ๆ ในงาน “บอลลูนแฟนตาซี” ด้วย แถมตอนกลางคืนก็ยังมีงานที่ชื่อว่า “La Montgolfier Nocturne” ซึ่งภายในงานก็จะมีบอลลูนที่ถูกไฟสาดส่องและลอยไปตามเสียงบรรเลงของดนตรีทั่วบริเวณริมแม่น้ำ
รายละเอียดเทศกาลบอลลูนนานาชาติซากะ (佐賀ターナショナルバルーンフェスタ)
ที่อยู่ | 849-0937 Saga, Nabeshima, 3 Chome, Japan |
เวลาเปิด – ปิด | ตั้งแต่เช้ายันเย็น *จัดช่วงเดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายนของทุกปี |
ค่าเข้าชม | ฟรี (ค่าที่จอดรถ 1,000 เยน) |
การเดินทาง | จากสถานีรถไฟ Ballon Saga เดินอีกประมาณ 5 นาที |
ธรรมชาติและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นดึงดูดให้ผู้คนได้เข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง ทำให้อยากจะเก็บกระเป๋าแล้วบินตรงไปจังหวัดซากะเดี๋ยวนี้เลยล่ะค่ะ บอกเลยว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ คนรวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย ><