คนที่มาเยือนปารีสเป็นครั้งแรก บางคนอาจจะประหลาดใจว่า “ปารีสเป็นเมืองแบบนี้หรือนี่!?” เพราะความเป็นจริงที่ได้เจอไม่เหมือนที่เคยจินตนาการไว้ ยิ่งกับคนญี่ปุ่นซึ่งเป็นชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นระเบียบแล้ว อะไรทำให้พวกเขาเกิด “ปารีสซินโดรม”เราจะมาเล่าให้ฟังในบทความนี้ค่ะ
“ปารีสซินโดรม” คืออะไร? เมื่ออุดมคติสวนทางกับความเป็นจริง
คำว่า “Paris Syndrome” (ภาษาฝรั่งเศส: Syndrome de Paris) เป็นคำที่นิตยสารของอังกฤษให้คำนิยามไว้ว่าเป็นโรคซึมเศร้าประเภทหนึ่งที่เกิดจากอาการช็อคจากความแตกต่างทางวัฒนธรรม (Culture shock) และว่ากันว่ามีผลกระทบต่อผู้หญิงญี่ปุ่นในช่วงอายุ 20 และ 30 ปี โดยเฉพาะสาว ๆ ที่เห็นเมืองปารีสเป็นความฝัน ชื่นชอบบ้านเมืองในยุโรปและภาพลักษณ์ของชาวฝรั่งเศสที่ดูโมเดิร์น หลงใหลสินค้าเบ็ดเตล็ดและขนมหวานแสนน่ารัก สาว ๆ เหล่านี้ที่ได้ไปศึกษาต่อที่นั่นพร้อมกับภาพลักษณ์อันงดงามของปารีส แต่กลับพบว่าความเป็นจริงนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง จึงกลายมาเป็นที่มาของอาการ “ปารีสซินโดรม” เพราะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตในฝรั่งเศสได้หลังจากไปใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ
จากเมืองในฝัน เหตุใดจึงกลายเป็นฝันร้าย?
ในความเป็นจริงนั้นจากการได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในปารีส มักจะได้รับความเห็นว่า “รู้สึกผิดหวังเพราะเมืองสกปรกกว่าที่คิดไว้” ปารีสเป็นเมืองที่มีผู้อพยพมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเดินไปรอบ ๆ เมือง เราจะเห็นชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นผู้อพยพมาจากประเทศในแอฟริกาที่เคยเป็นอาณานิคมมาก่อน และในเขตชานเมืองของปารีสก็มีชาวมุสลิมและชาวยิวมากมายสวดมนต์อยู่ตามท้องถนน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศหรือเมืองอื่น ๆ ที่มีผู้อพยพจำนวนมากเช่นกันอย่างแคนาดาหรือนิวยอร์ก เห็นได้ชัดว่าปารีสเป็นเมืองที่ผู้อพยพมีความเชื่อทางศาสนาที่เข้มข้น และมักจะสร้างชุมชนที่มีอัตลักษณ์เฉพาะกลุ่มของตนขึ้นมา
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการ ปารีสซินโดรมก็คือ เมืองนี้ไม่สะอาดอย่างที่คิด ตามถนนหนทางเราจะได้พบเจอขยะ ก้นบุหรี่ มูลสุนัข หรืออะไรทำนองนี้บนท้องถนนจนอดคิดไม่ได้ว่ารถเก็บขยะที่ออกวิ่งทุกเช้าจะทำความสะอาดสิ่งเหล่านี้ได้หมดหรือไม่ นอกจากนี้ ในปารีสยังมีการจอดรถแปะข้างทางมากมายจนเป็นเรื่องยากมากที่จะถ่ายรูปปารีสโดยไม่ติดรถยนต์ในเฟรม ภายในรถไฟใต้ดินก็ไม่ค่อยสะอาดเหมือนที่ญี่ปุ่น มีทั้งกราฟฟิตี้ (Graffiti) และขยะกระจัดกระจายไปทั่ว อีกทั้งยังมีหนูและสัตว์อื่น ๆ กับไฟสลัว ๆ เมื่อเทียบกับประเทศที่สะอาดและเป็นระเบียบอย่างญี่ปุ่นแล้วจึงไม่แปลกใจเลยหากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นจะผิดหวังกับความจริงตรงหน้า
อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งถอดใจกับปารีส!
ยังมีชาวต่างชาติจำนวนมากที่รู้สึกตื่นเต้นกับความยอดเยี่ยมของปารีส แม้จะเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมแต่ปารีสยังคงรักษาประวัติศาสตร์และผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายเข้าด้วยกันไว้ได้ดี ที่นี่เราสามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวด้วยการสัมผัสทั้งวัฒนธรรมฝรั่งเศส และเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมอาหรับ อินเดีย ตุรกี และแอฟริกาได้ในเวลาเดียวกัน หลายคนประทับใจกับปารีสไม่ใช่เพราะเป็น “เมืองที่ทันสมัยและสง่างามในยุโรปยุคกลาง” แต่เป็น “เมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ซึ่งวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอยู่ร่วมกัน”
ภาพลักษณ์ของปารีสในสายตาคนญี่ปุ่นนั้นอาจจะสวยงามเหมือนฝันมากเกินไป ยิ่งถ้าเราไปเรียนต่อที่ปารีสด้วยภาพจำนั้นก็อาจรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากได้เห็นปารีสในความเป็นจริงด้วยตาของเราเองแล้ว แสดงว่าเรารู้จักปารีสและกำลังใช้ชีวิตอยู่ในปารีสอย่างแท้จริง เมื่อไรก็ตามที่ได้สัมผัสวิถีชีวิตในปารีสในแบบที่ไม่มีใครรู้แล้ว “ปารีสจะติดตามคุณไปตลอดชีวิต” เหมือนคำพูดอันโด่งดังของ Ernest Hemingway ที่กล่าวไว้ว่า “If you are lucky enough to have lived in Paris as a young man, then wherever you go for the rest of your life, it stays with you, for Paris is a moveable feast.”
ที่มา: fra-ryugaku shohgaisha
เรียบเรียงโดย Puk