นารา

มาเรียนรู้จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ที่ จังหวัดนารา เมืองหลวงเก่า ประเทศญี่ปุ่นกันเถอะ! จังหวัดนารา มีชื่อเดิมว่า ยามาโตะ ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของเกาะฮอนชู ทั้งขนาดของวัดวาอาราม และศาลเจ้า ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็แสดงให้เห็นเลยว่าจังหวัดนาราเคยรุ่งเรืองทางด้านศาสนามากๆ แม้จะเป็นเพียงจังหวัดเล็ก ๆ แต่ก็เคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเหมือนกันนะ นั่นก็คือช่วงปี พ.ศ.1253-1327 ก่อนที่ญี่ปุ่นจะมีเมืองหลวงเป็นเมืองเกียวโตซะอีก ใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์เมืองเก่าละก็ ตามมาทางนี้เลยค่ะ !

1. วัดโทไดจิ

วัดโทไดจิ

วัดโทไดจิ  เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนาราและมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก พอก้าวขาเข้ามามาปุ๊บ เพื่อน ๆ จะเจอกับประตูนันไดมง ที่ด้านข้างมีการแกะสลักไม้เป็นรูปยักษ์ 2 ตน ซึ่งกำลังทำหน้าที่เฝ้าประตูทางเข้าวัดอยู่ มาถึงที่นี่แล้วก็ต้องเข้าไปสักการะหลวงพ่อโตหรือ ไดบุตสึเดน ภายในวิหารหลวงที่มีความสูงถึง 15 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ !! นอกจากนี้ยังมีเสาไม้ยักษ์  ที่ด้านล่างของเสาจะเป็นช่องขนาดเล็ก จึงมีความเชื่อว่าหากใครสามารถลอดผ่านช่องนี้ไปได้ ก็จะสามารถตรัสรู้ได้ในชาติหน้าอีกด้วย

วัดโทไดจิ (東大寺)

ที่อยู่406-1 Zoshicho, Nara, 630-8587, Japan
เวลาทำการเมษายน – ตุลาคม
– หอพระใหญ่ 7.30 – 17.30 น.
– พิพิธภัณฑ์ 9.30 – 17.30 น. (รอบสุดท้ายถึง 17.00น. )
– Todai-ji Hokkedo 8.30 – 16.00 น.

พฤศจิกายน – มีนาคม
– หอพระใหญ่ 8.00 – 17.00 น.
– พิพิธภัณฑ์ 9.30 – 17.00 น. (รอบสุดท้ายถึง 16.30น. )
– Todai-ji Hokkedo 8.30 – 16.00 น.
ค่าเข้าชม– ผู้ใหญ่ 800 เยน
(กลุ่ม 30 คนขึ้นไป 700 เยน)

– นักเรียนมัธยมปลาย 800 เยน
(กลุ่ม 30 คนขึ้นไป 500 เยน)

– นักเรียนมัธยมต้น 800 เยน
(กลุ่ม 30 คนขึ้นไป 400 เยน)

– นักเรียนประถม 400 เยน
(กลุ่ม 30 คนขึ้นไป 200 เยน)
เว็บไซต์เพิ่มเติมtodaiji
วิธีเดินทางจาก Todaiji Daibutsuden Bus Stop ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที แต่ถ้าเดินจาก JR Nara Station หรือ Kintetsu Nara Station จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที

2. สวนสาธารณะนารา

สวนสาธารณะนารา

สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีวัดล้อมรอบเกือบ 20 แห่ง และหากมาถึงที่นี่เป็นต้องอึ้ง! เพราะเพื่อน ๆ จะเจอเจ้ากวางเดินป้วนเปี้ยนไปทั่วเลยล่ะค่ะ ซึ่งที่นี่ก็มีกวางถึง 1,200 ตัวแหนะ! แม่เจ้าเยอะอะไรปานนั้น! หลายคนอาจสงสัยทำไมที่นี่กวางเยอะจัง นั่นเป็นเพราะความเชื่อในสมัยก่อนว่า เทพเจ้าขี่กวางมาสร้างเมือง นับตั้งแต่นั้นชาวเมืองจึงเชื่อว่าควรให้กวางมีอิสระอย่างเต็มที่ในเมืองนี้นั่นเอง ดังนั้นเพื่อน ๆ จึงสามารถใกล้ชิดเจ้ากวางได้โดยการซื้อขนมเซมเบ้เป็นอาหาร หรือถ่ายรูปเซลฟี่กับเจ้ากวางก็ได้ด้วยนะ

สวนสาธารณะนารา (奈良公園)

ที่อยู่Nara, Japan
เวลาทำการเปิดให้บริการทุกวัน/ 24 ชั่วโมง
เว็บไซต์เพิ่มเติมnara-park
วิธีเดินทางเดินทางมาที่สวนสาธารณะนาราได้โดยการเดินจากสถานี Kintetsu Nara Station หรือสถานี JR Nara Station  ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาทีค่ะ

3. ศาลเจ้าคาสุกะ

ศาลเจ้าคาสุกะ

ศาลเจ้าคาสุกะ ศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยที่นารายังเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น อาคารหลักของศาลเจ้าเองก็มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอย่างหลังคาที่มีความลาดชัด และยื่นออกไปนอกตัวอาคาร ถ้าเพื่อน ๆ มาเยือนที่ศาลเจ้าแห่งนี้ล่ะก็ ต้องสังเกตเห็นตะเกียงนับพันอันเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณศาลเจ้าเลยล่ะค่ะ ซึ่งตะเกียงเหล่านี้มาจากการบริจาคของผู้ที่มีจิตศรัทธา มีทั้งแบบแขวนและแบบตั้งพื้น ยิ่งถ้ามาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนสิงหาคม จะมีเทศกาลจุดไฟในตะเกียง สร้างบรรยากาศยามพลบค่ำที่สวยงามได้ดีเลยละ !!

ศาลเจ้าคาสุกะ (春日大社)

ที่อยู่160 Kasuganocho, Nara, 630-8212, Japan
เวลาทำการเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม– รอบศาลเจ้าเข้าชมได้ฟรี
– ภายในศาลเจ้าเสียค่าเข้าชม คนละ 500 เยน
เว็บไซต์เพิ่มเติมkasugataisha
วิธีเดินทางสามารถใช้บริการของรถไฟ Kintetsu โดยมาลงที่สถานี Kintetsu Nara Station หรือ JR Nara Station แล้วเดินต่ออีก 30-45 นาที

4. วัดโคฟุคิจิ

วัดโคฟุคิจิ

เพื่อน ๆ ทราบไหมคะว่า ในสมัยก่อนวัดโคฟุคิจินั้นยิ่งใหญ่มาก มีอาคารสิ่งก่อสร้างมากถึง 150 หลังเชียวนะ ! แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียง 15 หลังก็ตาม แต่ที่นี่ก็ยังคงเป็นสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งที่เมื่อมาถึงถิ่นแล้วก็ต้องเข้ามาสักการะพระพุทธรูปประจำวัดที่วิหารโทคอนโดะ และศาลาทรงแปดเหลี่ยม รวมถึงเจดีย์ไม้ห้าชั้น ที่ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์แทนเมืองไปแล้ว! แถมยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติชาติญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับตัววิหาร โดยภายในจะจัดแสดงศิลปะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาสมัยที่นารายังรุ่งเรืองอีกด้วย

วัดโคฟุคิจิ (興福寺)

ที่อยู่48 Noboriojicho, Nara, 630-8213, Japan
เวลาทำการ9.00 – 17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.45 น.)
ค่าเข้าชม– บริเวณวัดเข้าชมได้ฟรี
– พิพิธภัณฑ์สมบัติชาติ เสียค่าเข้าชมคนละ 600 เยน
– บริเวณห้องโถง เสียค่าเข้าชมคนละ  300 เยน
เว็บไซต์เพิ่มเติมkohfukuji
วิธีเดินทางเดินจาก Kintetsu Nara Station หรือ JR Nara Station ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาทีค่ะ

5. พระราชวังเฮโจ

พระราชวังเฮโจ

พระราชวังเฮโจ เป็นสถานที่ประทับของจักรพรรดินารา และอาคารสำหรับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ นั่นเองค่ะ เนื่องจากที่นี่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกที่หนึ่งของจังหวัดนารา ซึ่งภายในมีห้องโถงที่ใช้ประกอบพิธีการสำคัญ มีการตกแต่งด้วยรูปภาพของ 12 นักษัตร รวมถึงประตูใหญ่ซูซากุที่พึ่งได้รับการบูรณะ  ถือเป็นประตูที่มีสีสันสดใสมาตั้งแต่สมัยก่อน ตัวอาคารก็ใช้เมืองฉางอาน ในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นต้นแบบด้วย หากเพื่อน ๆ เดินเลยประตูใหญ่ซูซากุไปอีกนิด ก็จะเจอพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เฮโจเคียว ที่สร้างขึ้นมาเนื่องจากฉลองครบรอบ 1,300 ปี โดยภายในมีการจำลองเรือที่ใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศจีนและญี่ปุ่น และมีการจัดฉายภาพยนตร์เกี่ยวกับนาราในสมัยที่รุ่งเรืองให้ได้ชมกันอีกด้วย

พระราชวังเฮโจ (平城宮跡)

ที่อยู่3 Chome-5-番1号 Nijoojiminami, Nara, 630-8012, Japan
เวลาทำการ9.00 – 17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.45 น.)
ค่าเข้าชม– บริเวณพระราชวังเดินชมได้ฟรี
– พิพิธภัณฑ์ เสียค่าเข้าชม 500 เยน

*ปิดทำการทุกวันจันทร์และช่วงวันหยุดปีใหม่
เว็บไซต์เพิ่มเติมheijo-kyo
วิธีเดินทางเดินทางจาก Kintetsu Nara Station แล้วลงที่ Yamato-Saidaiji Station หลังจากนั้นก็เดินต่ออีกประมาณ 15 นาที

6. พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา

พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา

เพื่อน ๆ สามารถชมศิลปะในศาสนาพุทธที่ขึ้นแท่นระดับสมบัติของชาติได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เลยค่ะ!! ซึ่งที่นี่ประกอบไปด้วย 4 ส่วนด้วยกัน คือ ห้องโถงจัดแสดงงานประติมากรรมทางพุทธศาสนา ส่วนจัดแสดงเครื่องสัมฤทธิ์ในพิธีกรรมต่าง ๆ ปีกด้านตะวันออก และปีกด้านตะวันตก โดยที่นี่จะเก็บรวบรวมศิลปะของศาสนาพุทธ มีการจัดแสดงทรัพย์สินทางวัฒนธรรม ประติมากรรมชิ้นเอกของแต่ละแขนง รูปปั้นพระพุทธรูป ภาพวาด และวัตถุโบราณของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่นเชียวนะ นอกจากนี้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงยังมีการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษอย่าง “โชโซอินเทน” ที่เปิดให้ชมสมบัติล้ำค่าในสมัยศตวรรษที่ 8 โดยการเดินทางผ่านเส้นทางสายไหมมาถึงประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

พิพิธภัณฑ์แห่งชาตินารา (奈良国立博物館)

ที่อยู่50 Noboriojicho, Nara, 630-8212, Japan
เวลาทำการ9.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม– คนละ 520 เยน, เด็ก 260 เยน
*ปิดทำการทุกวันจันทร์และวันที่ 1 มกราคม
เว็บไซต์เพิ่มเติมnarahaku
วิธีเดินทางเดินจาก Kintetsu Nara Station หรือ JR Nara Station ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที

7. ศาลเจ้าฮิมุโระ แหล่งบูชาเทพเจ้าน้ำแข็ง!

ศาลเจ้าฮิมุโระ

ที่นี่คือสถานที่ชมซากุระอันโด่งดังในช่วงต้นฤดูร้อนของจังหวัดนั่นเองค่ะ ! นอกจากนี้ภายในศาลเจ้ายังมีปลาแช่ในแท่นน้ำแข็งเอาไว้สำหรับบูชาเทพเจ้าอีกด้วย เพราะศาลเจ้าที่นี่มีไว้สำหรับ บูชาเทพเจ้าน้ำแข็ง !? หือ?? ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะที่นี่เขามีการ บูชาน้ำแข็ง กันมาตั้งแต่อดีตแล้ว ใครที่ทำงานเกี่ยวกับน้ำแข็งก็มักจะมากราบไหว้สักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้กัน ซึ่งทุก ๆ ปีจะมีการจัดเทศกาลไหว้เทพเจ้าน้ำแข็ง หรือที่เรียกว่า Himuro Shirayuki Festival  โดยช่วงหลัง ๆ มานี้แว่วมาว่าเริ่มเปิดให้ร้านน้ำแข็งไสทั่วญี่ปุ่นมาออกร้านกันด้วย ไสน้ำแข็งกันให้ดูกันจะ ๆ เลยละค่ะ แต่ทว่าใครที่อยากมางานนี้ต้องอาศัยดวงหน่อยนะ เพราะแต่ละปีจะจัดงานไม่ตรงกัน

ศาลเจ้าฮิมุโระ (氷室神社)

ที่อยู่1-4 Kasuganocho, Nara, 630-8212, Japan
เวลาทำการ6.30 – 18.00 น.
เว็บไซต์เพิ่มเติมhimurojinja
วิธีเดินทางเดินทางจากสถานี Kintetsu Nara และเดินต่ออีกประมาณ 16 นาทีค่ะ

8. วัดชินยาคุชิจิ

วัดชินยาคุชิจิ หลายคนอาจสับสนกับวัดยาคุชิจิแต่ที่นี่ไม่ใช่ที่เดียวกันนะคะ เพราะวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่สำหรับบูชาพระยาคุชิ ซึ่งเด่นในเรื่องยารักษาโรค โดยภายในห้องโถงหลักของวัดมีรูปปั้นไม้ยาคุชิ เนียวไร ที่มีขนาดใหญ่มาก ยิ่งไปกว่านั้นห้องโถงแห่งนี้ยังกลายเป็นสมบัติชาติไปแล้วด้วย ว่ากันว่าพระยาคุชิ คือพระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธของญี่ปุ่นที่สามารถช่วยปัดเป่าความทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ และเชื่อกันว่ายาที่ท่านถืออยู่ในมือนั้นเป็นยาวิเศษสามารถรักษาได้ทุกโรค รอบ ๆ องค์พระยาคุชิก็มีเทพเจ้าแห่งการเยียวยารักษา เป็นแม่ทัพทั้ง 12 องค์จากสวรรค์ ที่คอยทำหน้าที่อารักขาพระยาคุชิ ซึ่งรูปปั้นเทพทั้ง 12 องค์นั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติชาติอีกเช่นกัน ใครที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ก็ลองขอพรกับพระยาคุชิดูนะ โรคร้ายอาจจะพลันหายไปได้ในพริบตา!!

วัดชินยาคุชิจิ (新薬師寺)

ที่อยู่1352 Takabatakecho, Nara, 630-8301, Japan
เวลาทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชมคนละ 600 เยน
เว็บไซต์เพิ่มเติมshinyakushiji
วิธีเดินทางเดินจาก Nara Park หรือนั่งรถบัสจาก Warishicho bus stop ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

9. ย่านนารามาจิ

ย่านนารามาจิ

เดินเล่นในเมืองกันเบื่อแล้วเปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นในย่านเมืองเก่ากันบ้างดีกว่า! ดูจากสองข้างทางแล้วก็รู้ทันทีเลยใช่ไหมล่ะคะ ว่าที่นี่เป็น ย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองนารา นั่นเอง ด้วยอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิม คลังสินค้าเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ อย่าง Naramichi Museum , Naramichi Lattice House , Nara Craft Museum ที่ยังคงอนุรักษ์บรรยากาศเก่า ๆ เอาไว้ให้สัมผัส ซึ่งที่นี่ในสมัยเอโดะ เคยเป็นย่านการค้าแบบทาวน์เฮาส์ที่เรียงกันเป็นแถวยาว ชาวบ้านจึงใจดีเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เดินเล่น จับจ่ายสินค้ากันตามสบาย เพราะที่ย่านร้านค้าแห่งนี้มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้าต่าง ขนาบอยู่ทั้งสองข้างทาง ประกอบกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการสวมใส่ชุดกิโมโน การชงชา การชิมเหล้าท้องถิ่นได้อีกด้วย

ย่านนารามาจิ (奈良町)

ที่อยู่Nara, Japan
เว็บไซต์เพิ่มเติมgonoguide
วิธีเดินทางเดินทางจาก Kintetsu Nara Station ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที หรือจะขึ้นรถบัสสาย 5, 6 ลงที่ Naramachi ประมาณ 10 นาที

10. ถนนชอปปิงฮิกะชิมูกิ

ก่อนกลับมาแวะช้อปปิ้งที่ ถนนฮิกะชิมูกิ กันดีกว่า! ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่บริเวณทางออกของ Kintetsu Nara Station เดินขึ้นมาแล้วก็จะเจอเลยค่ะ เป็นถนนตรงยาวไม่ลึกมาก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้า ของที่ระลึก ของใช้ต่าง ๆ เมื่อเดินไปสุดทางจะเจอร้าน Nakatani-dou Mochi ขนมโมจิชื่อดังจากรายการทีวีแชมป์เปี้ยน และสำหรับเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้ก็คือ ขนมโมจิไส้ถั่วแดง ที่ใส่หญ้าโยะโมะงิสีเขียวกลิ่นหอมอ่อน ๆ แล้วใช้แป้งโมจิบาง ๆ หุ้มถั่วแดงกวนเอาไว้ ตบท้ายด้วยการโรยด้วยคินาโกะ (ผงถั่วเหลือง) รสชาติเลยออกมาอร่อยโดนใจสุด ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ การนวดและทุบแป้ง โชว์วิธีการทำให้ลูกค้าได้เห็นกันจะ ๆ ไปเลย  สำหรับเจ้าโมจิถั่วแดงราคาเริ่มต้นชิ้นละ 130 เยนค่ะ ใครเดินเที่ยววัดเสร็จแล้วก็สามารถมาเดินหาของกินอร่อย ๆ กันได้ที่นี่เลย !

ถนนชอปปิงฮิกะชิมูกิ (ひがしむき商店街)

ที่อยู่Japan, 〒630-8215 Nara, Higashimuki Nakamachi, 15
เวลาทำการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีเดินทางเดินจาก Kintetsu Nara Station ถึงเลย

ถึงแม้จังหวัดนาราจะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่เพื่อน ๆ ก็สามารถเที่ยวชมได้อย่างทั่วถึงภายในวันเดียว เพราะสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก ที่นี่จึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการปั่นจักรยานเที่ยวชมเมือง เนื่องจากมีร้านให้บริการเช่าจักรยานสำหรับนักท่องเที่ยว ทริปของเพื่อนๆอาจจะสนุกมากขึ้นก็ได้นะ !!

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า