ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือเกาะฮอนชู (Honshu) พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีมรดกโลกทั้งทางธรรมชาติและวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ ด้วยมนต์เสน่ห์เหล่านี้ “โทโฮคุ” จึงกลายเป็นจุดเช็คอินสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว วันนี้เรามีโพย 5 จุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยแถมเป็นโลเคชั่นมงคลจาก JR EAST มาแจกกัน แถมพิเศษตรงที่เดินทางไปได้ง่ายสบายงบเพียงใช้ JR EAST PASS ใครอยากเสริมสิริมงคลและเปิดดวงรับทรัพย์ให้ปังตลอดปีต้องมาเลย!
1. วัดชูซนจิ (Chusonji Temple)
วัดชูซนจิ ตั้งอยู่ในจังหวัดอิวาเตะ ได้รับการยอมรับว่าเป็นวัดนิกายเทนไดที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคและขึ้นเป็นมรดกโลกในปี 2011 ภายในวัดจะพบกับหอปราสาททองคำ “คนจิคิโด” สีทองสวยอร่ามสมกับเป็นมรดกโลก ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงสีทองของคนจิคิโดจะเข้ากันกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี แดง เหลือง ทำให้ที่นี่กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวจังหวัดอิวาเตะที่ใครก็ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้ง
จุดเด่น: อธิษฐานขอพรเรื่องความสำเร็จ ความสมหวังในชีวิต
นั่งรถไฟ JR EAST ไปได้ง่ายๆ : จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ราว 2 ชั่วโมงไปยังสถานี Ichinoseki แล้วต่อรถไฟ JR สาย Tohoku Main Line นั่งต่ออีก 8 นาทีไปลงที่สถานี Hiraizumi จากนั้นนั่งรถบัสรอบเมือง Hiraizumi Loop Bus Run Run ประมาณ 10 นาที
2. วัดยามาเดระ (Yamadera Temple)
วัดยามาเดระ แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “วัดบนภูเขา” แต่นี่เป็นชื่อที่เรียกคุ้นปากเท่านั้น โดยชื่ออย่างเป็นทางการของวัดนี้ก็คือ “วัดริชชะคุจิ โฮชุซัน” นั่นเอง วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากาตะ ถือเป็นวัดนิกายเทนไดที่มีอายุมากกว่าพันปี ไฮไลท์ของที่นี่คือบันไดหิน 1,015 ขั้นที่เหล่าผู้ศรัทธาเชื่อว่าหากเดินขึ้นไปจนสุดจะพบแต่ความสำเร็จในชีวิต สุขภาพจะแข็งแรง แต่ไม่เพียงแค่นั้น เพราะรางวัลแด่ผู้พิชิตคือทิวทัศน์ด้านบนที่สวยเกินบรรยาย หุบเขากว้างไกลสุดลูกหูลูกตามองแล้วทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เป็นทิวทัศน์ที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
จุดเด่น : อธิษฐานขอพรให้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย
นั่งรถไฟ JR EAST ไปได้ง่ายๆ : จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีไปยังสถานี Sendai จากนั้นเปลี่ยนสายไปขึ้นรถไฟ JR สาย Senzan โดยนั่งรถไฟประมาณ 1 ชั่วโมงมาลงที่สถานี Yamadera
3. วัดโจกิเนียวไร ไซโฮจิ (Jogi Nyorai Saihoji Temple)
วัดโจกิเนียวไร ไซโฮจิตั้งอยู่ในเซนได จังหวัดมิยางิ มีจุดเด่นคือเจดีย์ 5 ชั้นที่รับกับสีแดง-ส้มของใบไม้เปลี่ยนสีอย่างงดงาม ผู้คนมักมาสักการะพระพุทธรูปเนียวไรเพื่อให้สมความปรารถนาในชีวิต แต่นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เรียกว่าต้นเรนริโนะเคะยากิ (Renri no Keyaki) มีความหมายว่า “ต้นเคะยากิแห่งรักนิรันดร์” ชื่อนี่มีที่มาจากลักษณะที่เป็นต้นเคะยากิ 2 ต้นประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าผู้คนเชื่อกันว่าจะให้โชคในเรื่องเนื้อคู่
จุดเด่น: ขอพรเรื่องความรัก ขอลูกหรือขอให้คลอดลูกง่าย
นั่งรถไฟ JR EAST ไปได้ง่ายๆ : จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Tohoku Shinkansen ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีไปยังสถานี Sendai จากนั้นต่อรถบัสที่รถบัสที่ Sendai Station West Exit Bus Terminal หมายเลข 10 ขึ้นรถสาย Sendai City Bus ที่เขียนว่าไปโจกิ (Jogi) นั่งจนสุดสาย ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
4. วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple)
วัดเอนสึอิน ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ สร้างขึ้นในปี 1647 เป็นสุสานของดาเตะ มิตสึมุเนะ หลานชายของแม่ทัพในตำนานดาเตะ มาซามุเนะนั่นเอง ภายในวัดมีห้องโถงหลักที่ล้อมด้วยต้นไม้โทนสีแดง ทอง และสีส้มรอบ ๆ เรียกได้ว่าเป็น “สวรรค์แห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” ก็ว่าได้ ที่พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกคือที่นี่จะมีการเปิดไฟไลท์อัพประดับในยามค่ำคืนด้วย ซึ่งเป็นซีนที่ทำให้ทุกคนประทับใจและอยากพาคนสำคัญมาชมด้วยกันแน่นอน
จุดเด่น: ขอพรเรื่องความรักที่ดี คู่ครองที่ถูกใจจากพระโพธิสัตว์กวนอิม
นั่งรถไฟ JR EAST ไปได้ง่ายๆ : จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Tohoku-Hokkaido Shinkansen ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีไปยังสถานี Sendai ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย Tohoku จากสถานี Sendai มาลงที่สถานี Matsushima แล้วเดินต่ออีก 19 นาที
5. ศาลเจ้าโมริโอกะ ฮาจิมังกุ (Morioka Hachiman Shrine)
ศาลเจ้าโมริโอกะ ฮาจิมังกุแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองโมริโอกะ จังหวัดอิวาเตะ เป็นอีกศาลเจ้าที่ต้องไปเยือนเมื่อมาถึงจังหวัดนี้ จุดสังเกตคือเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ ณ ปากทางเข้า เมื่อผ่านเข้ามาจะพบกับอาคารศาลเจ้าสีแดงหลังใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยใบไม้สีเขียวและแดงสลับส้ม เป็นภาพที่ทำให้คุณต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายแน่นอน ก่อนกลับอย่าลืมทำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยการอธิษฐานแล้วเป่าลมเข้าไปในน้ำเต้า 3 ครั้ง จากนั้นนำไปแขวนทิ้งไว้ เชื่อว่าสิ่งไม่ดีจะถูกปิดผนึกไว้ในน้ำเต้านั้น
จุดเด่น : สะเดาะเคราะห์ไล่สิ่งไม่ดี
นั่งรถไฟ JR EAST ไปได้ง่ายๆ : จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ JR Tohoku-Hokkaido Shinkansen ประมาณ 2 ชั่วโมง 14 นาทีไปยังสถานี Morioka ต่อรถบัสสาย Nagano หมายเลข 251 จากสถานี Morioka ลงป้าย Hachimangu mae ใช้เวลาประมาณ 13 นาทีถึงที่หมาย
เที่ยวโทโฮคุสุดคุ้มกับ “JR EAST PASS (Tohoku area)”
ท่องเที่ยวภูมิภาคโทโฮคุสุดคุ้มด้วย JR EAST PASS (โทโฮคุ) ตั๋วรถไฟแบบเหมาสำหรับผู้ใหญ่ 20,000 เยน และเด็ก 10,000 เยน โดยสามารถใช้บริการจองที่นั่งทั้งชินคันเซ็นและรถไฟด่วนพิเศษอย่างไม่จำกัดรอบตลอดระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน
คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด: https://www.jreast.co.jp
*ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป JR EAST PASS (Tohoku area) จะปรับราคาขึ้นเป็นผู้ใหญ่ 30,000 เยน เด็ก 15,000 เยน
สะดวกยิ่งขึ้นด้วยระบบการจองใหม่ “JR-EAST Train Reservation”
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021 ระบบจองตั๋วออนไลน์ JR EAST ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ทำให้การซื้อตั๋วง่ายยิ่งขึ้น ระบบ JR-EAST Train Reservation นี้อำนวยความสะดวกในส่วนของการซื้อตั๋วและจองที่นั่งบนรถไฟของ JR EAST ก่อนเดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น โดยคุณสามารถซื้อตั๋วออนไลน์เตรียมตั้งแต่ตอนอยู่ประเทศไทย จากนั้นค่อยนำข้อมูลการจองตั๋วมาใช้ออกตั๋วทั้ง JR EAST PASS และตั๋วชินกันเซ็นต่างๆ ที่ตู้จำหน่าย/เคาน์เตอร์ JR EAST ที่ญี่ปุ่น เมื่อเรียบร้อยก็ขึ้นรถไฟเที่ยวสบายๆ ได้เลย สามารถลงทะเบียนได้ฟรีและเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ลงทะเบียน
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับบริการจองนั้น โปรดศึกษาจากคู่มือผู้ใช้ของ JR EAST
อัพเดทค่าบัตรโดยสารประเภทพาสของ JR EAST
JR EAST จะปรับค่าบัตรโดยสาร (บัตรบางประเภทรวมถึง JR Hokkaido) หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป โปรดตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ด้านล่าง
(ภาษาอังกฤษ) https://www.jreast.co.jp
