โคชิเอ็ง เป็นชื่อสนามเบสบอลใน จังหวัดเฮียวโกะ สร้างขึ้นเพื่อรับรองการแข่งขันเบสบอลระดับมัธยมปลายในเดือนสิงหาคมและมีนาคม จากชื่อสนามก็กลายเป็นชื่อการแข่งขันซึ่งเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของเด็กม.ปลายชายชมรมเบสบอล เป็นธรรมดาที่ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะเมื่อการแข่งขันจบลง ภาพที่เกิดขึ้นประจำหลังจบการแข่งขันก็คือทีมที่แพ้ก้มเก็บดินจากสนามกลับบ้าน พวกเขาเก็บดินไปทำไม? ในบทความนี้มีคำตอบค่ะ
ของฝากจากโคชิเอ็ง!
เหตุผลแรกเลยก็คือเก็บดินไปเป็นของที่ระลึกนั่นเอง การเข้าไปแข่งโคชิเอ็งไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีการจำกัดจำนวนโรงเรียน โดยปกติแล้วการแข่งขันในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีจำนวนโรงเรียนที่ได้ลงแข่งเพียง 32 ทีม ซึ่งจะได้รับการเลือกจาก High School Baseball Federation ในแต่ละจังหวัดโดยดูจากผลการแข่งขันระดับภูมิภาคในฤดูใบไม้ร่วงและความสมดุลของแต่ละภูมิภาค ส่วนการแข่งขันในช่วงฤดูร้อนนั้นจะมีแค่โรงเรียนตัวแทนประจำจังหวัดที่ชนะเลิศการแข่งขันระดับภูมิภาคเท่านั้น โดยโตเกียวจะแบ่งย่อยออกเป็นตะวันตกและตะวันออก ส่วนฮอกไกโดจะแบ่งเป็นเหนือและใต้ ดังนั้นตัวแทนของสองจังหวัดนี้จะมี 2 ทีม ส่วนจังหวัดที่เหลือจะมีเพียง 1 ทีมเท่านั้น ปกติแล้วจะมีโรงเรียนเพียงแค่ 49 ทีมเท่านั้นที่จะได้ลงแข่งโคชิเอ็ง ด้วยความโหดหินของการคัดเลือกทำให้โคชิเอ็งเป็นเหมือนเวทีแห่งความฝันของเด็กชมรมเบสบอล
ฝากเพื่อนที่ไม่ได้มาแข่งด้วย!
นอกจากจะกำจัดจำนวนทีมที่ลงแข่งขันแล้ว ยังจำนวนทีมในสนามและนอกสนามอีกด้วย ดังนั้นจึงมีเด็ก ๆ บางคนที่เก็บดินจากโคชิเอ็งมาฝากเพื่อน ๆ ที่ร่วมซ้อมอาบเหงื่อต่างนํ้าฝ่าฝันมาด้วย แต่ไม่มีโอกาสได้ยืนบนสนาม
เพื่อกลับไปอีกครั้ง!
ทีมที่ได้ลงแข่งโคชิเอ็งช่วงฤดูใบไม้ผลิเก็บดินกลับไปด้วยความรู้สึกแรงกล้าที่จะกลับมายืนที่โคชิเอ็งอีกครั้งในการแข่งขันครั้งนี้ในช่วงฤดูร้อน ส่วนทีมที่ได้ทีมลงแข่งโคชิเอ็งช่วงฤดูร้อนก็จะเก็บดินกลับไปด้วยแรงปรารถนาที่จะมาอีกในปีหน้า นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่ม.6 บางคนที่นำดินกลับไปโปรยลงสนามซ้อมที่โรงเรียน เพื่อฝากความฝันที่รุ่นตัวเองทำไม่สำเร็จให้รุ่นน้องได้สานต่อนั่นเอง (เหตุผลหล่อไปอีก!)
ธรรมเนียมนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าธรรมเนียมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่ากันว่าโรงเรียนมัธยมชูริที่ได้เป็นตัวแทนจากโอกินาวะลงแข่งโคชิเอ็งฤดูร้อนในปี ค.ศ.1958 ได้พยายามนำดินจากโคชิเอ็งกลับไปหลังจากพ่ายแพ้ ในตอนนั้นโอกินาวะยังอยู่ภายใต้การปกครองของอเมริกา ทำให้ผิดกฏหมายกักกันพืช ดินจากโคชิเอ็งจึงถูกทิ้งลงทะเลไปในที่สุด มีหนังสือฉบับหนึ่งลงข่าวเรื่องนี้ทำให้เป็นที่พูดถึงในสังคม และว่ากันว่าเป็นที่มาของธรรมเนียมนำดินจากโคชิเอ็งกลับบ้านนั่นเอง
ส่วนตัวไม่ได้ดูเบสบอลนะคะ แต่เวลามีโคชิเอ็งทีไรจะแอบเข้าไปส่อง ๆ ดูนิดนึงเสมอ แววตาของเด็ก ๆ ในสนามเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เสียงโห่ร้องดีใจและเสียงสะอื้นจากความเจ็บใจ รอยยิ้มและคราบนํ้าตา เหมือนโชเน็นมังงะเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ใครสนใจลองหาชมได้นะคะ
สรุปเนื้อหาจาก jpnculture