สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น JR Times by JR East ก็เป็นเว็บหนึ่งที่เหมาะกับการทำการบ้านเพื่อเตรียมทริปลุยญี่ปุ่นค่ะ โดย JR Times by JR East เป็นเว็บไซต์ที่รวมทุกบทความเกี่ยวกับรถไฟที่นักท่องเที่ยวต้องรู้ ซึ่งรวมถึงบทความรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ ห้ามพลาดที่สามารถเดินทางไปได้โดย รถไฟ JR East อีกมากมาย!
และสำหรับคนที่หลงใหลในเรื่องราวของซามูไร บทความนี้มีเพื่อคุณโดยเฉพาะ โดยคุณ Carissa จะมานำเที่ยวเมืองอุเอดะ เมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโนะและเป็นฉากหลังให้กับเรื่องราวของ ซานาดะ ยูคิมุระ ซามูไรขวัญใจคนญี่ปุ่นผู้ถูกขนานนามว่า “ขุนศึกอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น” และเป็นเมืองที่มีครบทั้งออนเซ็น วิวปราสาทสี่ฤดูสวยงาม และแน่นอน ของกิน!
ขอต้อนรับสู่อุเอดะ เมืองปราสาทที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ซามูไร
ถ้าพูดถึง “เมืองซามูไร” แล้วคุณนึกถึงที่ไหนในญี่ปุ่นเอ่ย? ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน ประเทศญี่ปุ่นจึงเต็มไปด้วยสถานที่มากมายที่รักษาบรรยากาศเมืองปราสาทในอดีตไว้อยู่ และในบทความนี้เราจะมาแนะนำ เมืองอุเอดะ (上田 Ueda) เมืองซามูไรที่มีชื่อเสียงในฐานะบ้านเกิดของหนึ่งในตระกูลซามูไรที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด นั่นคือ ตระกูลซานาดะ (真田家 Sanada-ke) ถ้าคุณเป็นคอประวัติศาสตร์ล่ะก็ เมืองอุเอดะคือสถานที่ที่คุณควรไปเยี่ยมให้ได้ ที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักของจังหวัดนากาโนะ โดยเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเก่าแก่ วัดวาอารามที่น่าค้นหา ออนเซ็นชวนผ่อนคลาย และทุกสิ่งที่คุณค้นหา!
1. สวนปราสาทอุเอดะ
แน่นอนว่าดาวเด่นและสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดแห่งเมืองอุเอดะก็คือ สวนปราสาทอุเอดะ (上田城跡公園 Ueda Jо̄seki Kо̄en) ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทอุเอดะ (上田城 Ueda-jо̄) หนึ่งใน 100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น (Japan’s 100 Famous Castles) ปราสาทอุเอดะแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 16 โดยซานาดะ มาซายูกิผู้เป็นพ่อของซานาดะ ยูคิมุระ และว่ากันว่าเป็นปราสาทที่ไม่มีวันตีแตก โดยสามารถทนการบุกรุกของกองทัพโทคุกาวะได้มากถึงสองครั้งทีเดียว
ปราสาทอุเอดะจะสวยเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ผลิซึ่งเป็นช่วงที่คุณสามารถชมวิวปราสาทที่ตัดกับดอกซากุระ (桜 sakura) สีชมพูสวยงามในฉากหลังได้ ในตอนเย็นจะมีการเปิดไฟประดับต้นซากุระทำให้ได้บรรยากาศที่มีมนต์เสน่ห์ ด้วยต้นซากุระหลากสายพันธุ์ราว 1,000 ต้น ซากปราสาทที่สวยงามเป็นฉากหลัง และประวัติศาตร์ที่เก่าแก่นี้ ทำให้สวนปราสาทอุเอดะเป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตะวันออกของจังหวัดนากาโนะ
สวนปราสาทอุเอดะเป็นสถานที่ที่คุณสามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี โดยมีดอกซากุระสีชมพูในฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้เขียวขจีในฤดูร้อน แมกไม้สีร้อนแรงในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะขาวเป็นประกายในฤดูหนาว ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน การเดินไปรอบ ๆ พื้นที่สวนปราสาทกว้างขวางพลางนึกถึงเหตุการณ์น่าตื่นเต้นในประวัติศาสตร์ที่เคยเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้เป็นอะไรที่ชวนผ่อนคลายทีเดียว!
2. สถานที่และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับตระกูลซานาดะ
นอกจากสวนปราสาทอุเอดะแล้ว ยังมีสถานที่สำคัญอีกมากมายในเมืองอุเอดะที่เกี่ยวข้องกับตระกูลซานาดะ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “Sanada Yukari-no-chi” (真田ゆかりの地) บางสถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทในระยะที่เดินไปถึงได้ ในขณะที่บางที่จะอยู่ที่หมู่บ้านซานาดะซึ่งอยู่ห่างออกไปจากใจกลางเมืองอุเอดะในรัศมี 7 กม. ลองไปทำความรู้จักกับสถานที่บางแห่งของ Yukari-no-chi กัน
2.1 รูปปั้นซานาดะ ยูคิมุระบนหลังม้า
ณ ใจกลางเมืองหน้าสถานี Ueda คุณจะพบกับรูปปั้นซานาดะ ยูคิมุระ ผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “ขุนศึกอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น” (日本一の兵 Hinomoto Ichi no Tsuwamono) แม้ว่าเขาจะถูกเนรเทศไปยังคุโดยามะหลังยุทธการที่เซกิงาฮาระ แต่ภายหลังเขาสามารถหลบหนีและกลับมาเข้าร่วมกับกองทัพฝั่งตะวันตกได้ ในระหว่างการปิดล้อมในฤดูร้อนที่ปราสาทโอซาก้า (大坂夏の陣 О̄saka Natsu no Jin) กองทัพของเขาเป็นกลุ่มเดียวของกองทัพฝั่งตะวันตกที่เข้าโจมตีฐานมั่นของโทคุกาวะ อิเอยาสุอย่างดุเดือด และว่ากันว่าซานาดะ ยูคิมุระคือแม่ทัพที่โทคุกาวะ อิเอยาสุหวั่นกลัวเป็นที่สุด
2.2 ศาลเจ้าซานาดะ
สำหรับนักเรียนที่อยากจะเอาชนะข้อสอบให้ได้ มาที่ศาลเจ้าซานาดะเลย ศาลเจ้าซานาดะ (眞田神社 Sanada Jinja) ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนปราสาทอุเอดะ และเป็นศาลเจ้าที่บูชาเจ้าของปราสาทอุเอดะในอดีต ได้แก่ตระกูลซานาดะ ตระกูลเซ็นโกคุ และตระกูลมัตสึไดระ
ศาลเจ้าซานาดะเป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เข้าสอบในโรงเรียน เพราะปราสาทอุเอดะขึ้นชื่อเรื่องการไม่ตกเป็นของศัตรูแม้ว่าจะถูกกองทัพของโทคุกาวะบุกถึงสองครั้งด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการปิดล้อมครั้งที่สองที่อุเอดะ (第二次上田合戦 Dainiji Ueda Gassen) นั้น แม้จะมีทหารเพียง 3,000 คน แต่กองทัพของซานาดะ ยูคิมุระสามารถต้านทานกองทัพของโทคุกาวะ ฮิเดทาดะที่มี 38,000 คนได้ ต่อมาโทคุกาวะ ฮิเดะทาดะ (ลูกชายของโทคุกาวะ อิเอยาสุ) ยอมแพ้แล้วเดินทางร่วมยุทธการที่เซกิงาฮาระแทน แต่เขาไปช้าเพราะติดพันการสู้รบกับกองทัพของซานาดะที่ปราสาทอุเอดะมา และพลาดเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ไปโดยปริยาย
ด้วยแรงบันดาลใจจากเรื่องเล่านี้ นักเรียนหลายคนจึงแวะมาสักการะที่ศาลเจ้าซานาดะกันเพื่อขอพรเรื่องโชคและผลการสอบที่ดี โดยหวังว่าตัวพวกเขาเองจะสามารถก้าวข้ามการสอบและมีชัยได้เช่นกัน ที่ศาลเจ้าซานาดะคุณจะเห็นหมวกสีแดงสดที่มีเขากวางอยู่ ซึ่งว่ากันว่าเป็นหมวกที่ซานาดะ ยูคิมุระเคยสวมนั่นเอง
3. เบชโชออนเซ็น
เพียงนั่งรถไฟสาย Uedadentetsu Bessho (上田電鉄別所線 Uedadentetsu Bessho-sen) จากเมืองอุเอดะไป 30 นาทีก็จะถึงเบชโชออนเซ็น สถานที่ที่มีประวัติความเป็นมากว่า 1,400 ปี และถือเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดนากาโนะ ในช่วงยุคคามาคุระ (ค.ศ. 1192-1333) ที่นี่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางอำนาจของรัฐบาลแห่งชินชูซึ่งเป็นชื่อเก่าของจังหวัดนากาโนะ ทำให้บางครั้งที่นี่ถูกเรียกว่า คามาคุระแห่งชินชู (信州の鎌倉 Shinshū no Kamakura)
ต่อให้คุณไม่ได้นอนค้างคืน เบชโชออนเซ็นก็มีโรงอาบน้ำสี่แห่งสำหรับให้นักท่องเที่ยวที่มาแบบไปเช้าเย็นกลับสามารถมาแช่กันได้ แล้วก็ลองมองหา อิชิยุ (石湯 Ishiyu) ดูนะ ซึ่งจะเป็นน้ำพุร้อนที่ออกมาจากหินธรรมชาติตรงตามชื่อเลย
ว่ากันว่าบรรดาแม่ทัพของตระกูลซานาดะต่างมาที่เบชโชออนเซ็นกันเพื่อรักษาบาดแผลจากการสู้รบ และเบชโชออนเซ็นยังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในนิยาย Sanada Taiheiki และคุณรู้ไหม? อนุสรณ์หินที่ตั้งอยู่ข้างนอกอิชิยุที่เขียนว่า “真田幸村公隠しの湯” (ออนเซ็นลับของซานาดะ ยูคิมุระ) นั้นถูกเขียนด้วยมือของอิเคนามะ โชทาโร่ผู้เขียน Sanada Taiheki นั่นเอง
ถ้าคุณอยากแช่น้ำแป๊บ ๆ เพื่อพักเอาแรงก่อนหรือหลังเดินเที่ยวรอบเบชโชออนเซ็นล่ะก็ จะมีออนเซ็นเท้าสองจุดให้นักท่องเที่ยวใช้บริการกันได้ นั่นคือนานะคุริ (ななくり) และโอยุ ยุคาชิ โนะ ยุ (大湯薬師の湯) ออนเซ็นเท้านานะคุรินั้นถูกสร้างด้วยไม้และมีรูปทรงแปดเหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการสื่อถึงวัดอันราคุจิ วัดอันเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ นั่นเอง
4. อาหาร
4.1 เห็ดมัตสึทาเกะ
มัตสึทาเกะ (松茸) เป็นเมนูที่มีเฉพาะฤดูกาล ดังนั้นถ้าคุณมาเที่ยวเมืองอุเอดะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงล่ะก็ลองหาชิมกันให้ได้นะ มัตสึทาเกะเป็นเห็ดที่ราคาแพงที่สุดของญี่ปุ่นและไม่สามารถเพาะปลูกได้ โดยเห็ดมัตสึทาเกะจะมีให้เก็บได้เฉพาะที่โตตามธรรมชาติในป่าเท่านั้น และรู้อะไรไหม? นากาโนะเป็นแหล่งผลิตเห็ดมัตสึทาเกะอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเชียวนะ โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณเมืองอุเอดะและเบชโชออนเซ็นซึ่งเก็บเกี่ยวมัตสึทาเกะได้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นในทุก ๆ ฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นฤดูกาลของมัตสึทาเกะคุณจะพบเจอร้านอาหารมัตสึทาเกะแบบเฉพาะทางหลายร้านที่นั่น
ถ้าแค่นี้ว้าวแล้ว เมืองอุเอดะยังมีอย่างอื่นให้ว้าวอีก!
ถ้าเพื่อน ๆ คิดว่านี่คือไฮไลต์ทั้งหมดของเมืองอุเอดะแล้วล่ะก็ บอกเลยว่ายังไม่ใช่! เพราะเห็นเป็นเมืองเล็ก ๆ แบบนี้ แต่อุเอดะยังมีโลเคชั่นลับ ๆ ให้ตามรอยซานาดะ ยูคิมุระอีกเพียบ ยังไม่นับของอร่อยนอกเหนือเห็ดมัตสึทาเกะเช่นไก่ย่างโออิดาเระ ยากิโทริซอสเข้ม ๆ เยิ้ม ๆ ที่จะทำให้ทุกคนต้องปาดน้ำลายตั้งแต่ได้กลิ่นเป็นต้น! อ่านต่อที่ “ขอต้อนรับสู่อุเอดะ เมืองปราสาทที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ซามูไร” หรือคลิ๊กที่ภาพข้างล่างเพื่อไปรู้จักเมืองอุเอดะเพิ่มเติมกันได้เลย!