นอกจากปราสาทฮิเมจิแล้ว ปราสาทฮิโกเนะ (彦根城) ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดชิงะ ก็เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก ถูกสร้างขึ้นโดย อี นาโอสึงุ (井伊直継) และอี นาโอทากะ (井伊直孝) สร้างแล้วเสร็จในปี 1622 (ปีเก็นวะที่ 8) รวมแล้วใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 20 ปี
ในการสร้างปราสาทฮิโกเนะ มีการนำกำแพงหินและวัสดุอุปกรณ์มาจากซากปราสาทต่าง ๆ 4 แห่ง ประกอบด้วย ปราสาทซาวายามะ (佐和山城, Sawayamajou) ปราสาทอาซึจิ (安土城, Azuchijou) ปราสาทนากาฮามะ (長浜城, Nagahamajou) และ ปราสาทโอสึ (大津城, Otsujou) นั่นเอง ตัวปราสาทฮิโกเนะขึ้นชื่อเรื่องความงามเมื่อถูกต้องด้วยแสงจันทร์จนถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน สุดยอดทิวทัศน์ทั้งแปดของทะเลสาบบิวะ เราสามารถเดินเล่นรอบ ๆ ปราสาทเพื่อชมความสง่างามของปราสาทฮิโกเนะที่รอดพ้นจากการทำลายปราสาทในช่วงสมัยเมจิและไฟสงครามมาได้
นอกจากนั้น ปราสาทฮิโกเนะยังเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า คงคิโจ (金亀城, ปราสาทเต่าสีทอง) เพราะว่ากันว่าก่อนที่จะมีการสร้างปราสาทขึ้นมานั้น บนภูเขาฮิโกเนะมีวัดที่มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมทรงเต่าสีทองตั้งอยู่นั่นเอง ปราสาทฮิโกเนะนับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญมากทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยจุดที่น่าสนใจของปราสาทฮิโกเนะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน
1. ป้อมปราการซาวากุจิทามอนยะงุระ
ป้อมปราการซาวากุจิทามอนยะงุระ (佐和口多聞櫓, Sawaguchi Tamon Yagura) เป็นป้อมที่อยู่ซ้ายมือเมื่อหันหน้าเข้าหาปราสาท โดยเป็นส่วนที่ย้ายมาจากปราสาทซาวายามะ และเป็นส่วนของปราสาทฮิโกเนะที่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ส่วนทางด้านขวามือนั้นสร้างขึ้นจากคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 100 ปีของการเปิดประเทศญี่ปุ่น ในนี้มีการนำสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมืองฮิโกเนะมาจัดแสดงในชื่อ “หอรำลึกการเปิดประเทศ” (開国記念館)
2. ป้อมปราการเท็มบินยะงุระ
กล่าวกันว่าประตูใหญ่ของปราสาทนากาฮามะของฮาชิบะ ฮิเดโยชิ (羽柴秀吉) นั้นได้ถูกย้ายออกมาไว้ที่นี่ ณ ป้อมปราการเท็มบินยะงุระ (天秤櫓, Tenbin Yagura) ชื่อของป้อมปราการนี้ตั้งตามลักษณะของป้อมที่คล้ายกับตาชั่ง (เท็มบินในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงตาชั่ง) และจุดเด่นคือเป็นป้อมที่สมมาตรโดยมีสะพานทางเดินข้ามพาดอยู่ตรงกลาง ว่ากันว่าป้อมลักษณะนี้พบได้เฉพาะที่ปราสาทฮิโกเนะเท่านั้น ตัวป้อมนี้จึงถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
3. ป้อมปราการไทโกะมงยะงุระ (Taikomon Yagura)
ป้อมปราการไทโกะมงยะงุระ (太鼓門櫓, Taikomon Yagura) เป็นโซนประตูทางเข้าที่ทำให้รู้สึกถึงความโอ่อ่า น่าเกรงขาม ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับประตูทางเข้าหลักของปราสาทอีกด้วย ชื่อของป้อมปราการนี้ได้มาจากกลองที่ตั้งอยู่ด้านในซึ่งเป็นกลองที่เคยใช้ในการส่งสัญญาณภายในปราสาท (ไทโกะคือกลองใหญ่ญี่ปุ่นประเภทหนึ่ง) จากร่องรอยของตะปูที่หลงเหลืออยู่อาจจะพอบอกได้ว่าประตูของวัดฮิโกเนะได้ถูกนำมาใช้ในการสร้างป้อมปราการแห่งนี้ แต่ก็มีบางสมมติฐานที่บอกว่ามันน่าจะถูกนำมาจากปราสาทซาวายามะ หรือ ปราสาทนากาฮามะเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามเป็นที่เชื่อกันว่าร่องรอยของตะปูนี้เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นก่อนที่จะถูกขนย้ายมาไว้ที่นี่ ป้อมปราการนี้ก็ถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นเช่นกัน
4. หอคอยปราสาท
ตัวหอคอยปราสาทของปราสาทฮิโกเนะถูกสร้างขึ้นบนฐานหินที่เรียกว่าโกะโบซูมิ (牛蒡積, Gobo-zumi) ที่ใช้หินธรรมชาติและสร้างให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ด้านในและด้านล่าง ถึงดูเผินๆ จะดูเป็นโครงสร้างที่หยาบแต่ที่จริงแล้วเป็นโครงสร้างที่แข็งแรงมากทีเดียว และบนฐานนี้มีอาคารหอคอยปราสาท 3 ชั้นตั้งอยู่ ถึงจะดูมีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่นักแต่ด้วยความกลมกลืนของแนวฐานหินที่โค้งไปกับแนวหลังคาทำให้แนวกำแพงหินดูสง่างามและน่าเกรงขามมาก นอกจากนั้นแล้วหน้าต่างแบบคะโตว (かとう, Kato) ที่เรียงรายกันอยู่ก็นับเป็นอีกจุดเด่นพิเศษหนึ่งของที่นี่ ซึ่งนับเป็นสมบัติที่ล้ำค่าของญี่ปุ่น
5. ป้อมปราการนิชิโนะมะรุซันจูยะงุระ
แต่ก่อน ป้อมปราการนิชิโนะมะรุซันจูยะงุระ (西の丸三重櫓, Nishinomarusanju Yagura) เคยเป็นที่เก็บหนังสือที่มีชั้นหนังสือวางเรียงรายกันอยู่ แต่ปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ถูกใช้ปลูกต้นซากุระ ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิจุดนี้จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาชมดอกซากุระ และถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น
ปราสาทฮิโกเนะ ปราสาทที่รวมสมบัติชาติ
มาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะรู้สึกว่าปราสาทฮิโกเนะมีหลายจุดเหลือเกินที่เป็นสมบัติชาติ เรามาดูกันว่ามีส่วนไหนของปราสาทฮิโกเนะที่เป็นสมบัติชาติ และครองตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ กันบ้าง
1. สมบัติแห่งชาติ
- หอคอยปราสาท
- สึเกะยะงุระ (Tsukeyagura)
- ป้อมปราการทามอนยะงุระ และ ฉากกั้นห้องฮิโกเนะ
2. สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ
- ป้อมปราการไทโกะมงยะงุระและทางเดินเชื่อม
- ป้อมปราการเท็มบินยะงุระ
- ป้อมปราการนิชิโนะมะรุซันจูยะงุระและทางเดินเชื่อม
- ป้อมปราการซาวากุจิทามอนยะงุระ
- โรงม้า และ กล่องตลับหมึกลงลวดลายทอง
3. กล่องดนตรีแห่งเวลา
ระฆังเทียบเวลาของปราสาทฮิโกเนะนั้นเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของชาวเมืองในนามของ “ระฆังแห่งขุนเขา” (お山の鐘) เดิมทีระฆังใบนี้อยู่ที่คาเนะโนะมารุ (鐘の丸, Kanenomaru) เคยถูกใช้ในการบอกเวลาให้กับชาวเมืองที่อาศัยอยู่รอบๆ ปราสาท ต่อมาในช่วงปลายยุคเอโดะมีการสร้างระฆังขึ้นใหม่โดยใช้งบมหาศาล ก่อนจะย้ายไปตั้งอยู่บนฐานสูงใกล้กับประตูไทโกะมง เพื่อให้ระฆังสามารถส่งเสียงได้กังวาลและไกลกว่าเดิม สำหรับชาวเมืองที่อาศัยอยู่รอบๆ ปราสาทนั้นใช้ชีวิตโดยมีหอคอยปราสาทเป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งความผาสุกและมีระฆังเทียบเวลาช่วยบอกเวลาให้กับพวกเขาตลอดมา
ทุกวันนี้ระฆังเทียบเวลาก็ยังคงตี 5 ครั้งต่อวัน ซึ่งนอกจากเราจะได้เห็นสิ่งก่อสร้างจากอดีตด้วยตาแล้วยังสามารถได้ยินเสียงแห่งอดีตกันได้จากระฆังนี้อีกด้วย ระฆังเทียบเวลานอกจากเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทฮิโกเนะแล้วยังเปรียบเสมือน “กล่องดนตรีแห่งเวลา” ที่บ่งบอกถึงยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone Castle)
ที่อยู่ | 1-1 Konkicho, Hikone, Shiga 522-0061, Japan |
เวลาทำการ | 8.30 – 17.00 น. *ไม่มีวันหยุด (เปิดให้เข้าชมทุกวัน) |
ค่าเข้าชม (อัพเดต 2024) | ผู้ใหญ่ 800 เยน , เด็ก 200 เยน |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | hikoneshi.com (มีภาษาอังกฤษ) |
วิธีการเดินทาง | 1. รถไฟ: ขึ้นรถไฟ JR สายบิวาโกะ (Biwako) ลงที่สถานีฮิโกเนะ (Hikone) แล้วเดินต่ออีก 15 นาที 2. รถยนต์: ลงจากทางด่วน Meishin Hikone แล้วขับไปต่ออีกประมาณ 10 นาที มีที่จอดรถรองรับที่ปราสาท *ค่าที่จอดรถ สำหรับรถยนต์ขนาดทั่วไป 1,000 เยน, รถขนาดใหญ่ 2,000 เยน |
สรุปเนื้อหาจาก biwako-visitors.jp
ผู้เขียน: Hikary