วันนี้ conomi พาเพื่อน ๆ เก็บกระเป๋าจัดทริปไปทัวร์ จังหวัดทตโตริ กันค่ะ! เมื่อพูดถึงจังหวัดทตโตริที่ตั้งอยู่บริเวณแถบตะวันออกเฉียงเหนือของเขตชูโกคุ แฟนอนิเมะหลายคนก็น่าจะพอคุ้นหูกันบ้างเนอะ แต่บางคนอาจจะเอ๋!? ที่ไหนน้า ไม่คุ้นเลย เอาเป็นว่าเราขอรับประกันเลยว่าแหล่งท่องเที่ยวที่นี่จะมาร่วมสร้างความประทับใจให้กับทริปของเพื่อน ๆ แน่นอน! ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้างนะ
1. เนินทรายทตโตริ
ใครว่าที่ญี่ปุ่นมีแค่ภูเขาไฟ ดอกซากุระ ทะเล และใบไม้เปลี่ยนสี เพราะนอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีเนินทรายที่ถือเป็น หนึ่งในสามของทะเลทรายในญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุด อีกด้วย! เนินทรายของที่นี่สีจะออกเหลืองคล้ำ เพราะมีการผสมของเนื้อทรายกับเถ้าภูเขาไฟ แต่จุดเด่นของเนินทรายที่นี่คือทิวทัศน์ของทรายสูงใหญ่ที่ตัดกับสีของท้องฟ้าและสีของท้องทะเล เพื่อน ๆ สามารถทำกิจกรรมเร้าใจไปกับเครื่องร่อนพาราไกลเดอร์ หรือจะนั่งรถม้า ขี่อูฐเดินเล่นชมทัศนียภาพยามอาทิตย์อัสดงก็ย่อมได้ หรือใครสนใจความสนุกที่นอกเหนือจากนี้ก็สามารถตามไปเก็บข้อมูลกันต่อได้ที่บทความ: อยู่ญี่ปุ่นก็วาร์ปไปทะเลทรายได้! ที่เนินทรายทตโตริ
ทั้งนี้แม้ที่นี่จะเป็นทะเลทราย แต่ฤดูหนาวก็จะเปลี่ยนสภาพภูมิทัศน์จากทรายเป็นหิมะทันทีเลยล่ะค่ะ! เพื่อน ๆ ลองนึกภาพเนินทรายจากสีเหลืองคล้ำเป็นสีขาวสุดลูกหูลูกตาดูสิ คงจะสวยมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ!
เนินทรายทตโตริ (鳥取砂丘)
ที่อยู่ | 2164-971 Fukubecho Yuyama, Tottori, 689-0105, Japan |
เวลาทำการ | มีนาคม-พฤศจิกายน 9:30-16:30 น. ธันวาคม-กุมภาพันธ์ 10:00-16:00 น. |
วิธีเดินทาง | จาก Tottori Bus Terminal รถส่วนตัวใช้เวลาประมาณ 20 นาที |
2. พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย
เรียกได้ว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ในร่มกลางทะเลทรายแห่งเดียวในโลก!! ที่ทุก ๆ ปีจะมีการจัดแสดงหัวข้อแตกต่างกันไป โดยผลงานการแกะสลักจะใช้ทรายทำทั้งหมด แถมยังมีไลท์อัพในตอนกลางคืนสร้างบรรยากาศไปอีกแบบ สุดยอดไปเลยใช่ไหมละ!? แต่แม้ว่าผลงานการแกะสลักจากทรายจะเป็นงานละเอียดประณีตเพียงใดก็พังทลายลงมาได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้นจึงสามารถรับชมได้ภายในช่วงเวลาที่จำกัดคือตั้งแต่เดือนเมษายน – มกราคมของปีถัดไป! ถือเป็นเสน่ห์ที่หาชมได้ยากอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (鳥取砂丘砂の美術館)
ที่อยู่ | 2083-17 Fukubecho Yuyama, Tottori, 689-0105, Japan |
เวลาทำการ | 9.00-18.00 น. (รอบสุดท้าย 5.30 น.) |
ค่าเข้าชม (รวมภาษี) | – คนทั่วไป 800 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 600 เยน) – นักเรียนประถม/มัธยมปลายต้น-ปลาย 400 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 300 เยน) *ต่ำกว่าประถมศึกษาเข้าฟรี |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | sand-museum |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Tottori ขึ้นรถ Hinomaru Bus ซึ่งมุ่งหน้าไปยังเนินทรายทตโตริ และลงที่ป้ายหน้าพิพิธภัณฑ์ (Suna no Bijutsukan mae) |
3. พิพิธภัณฑ์มิซุกิ ชิเงรุ
มีใครคุ้น ๆ กับตัวละครนี้บ้างไหมเอ่ย ? เพราะที่นี่คือ พิพิธภัณฑ์มิซุกิ ชิเงรุ ผู้เขียนมังงะเรื่องผีน้อยคิทาโร่นั่นเองค่ะ ใครที่มีอายุหน่อยก็น่าจะพอรู้จักการ์ตูนเรื่องนี้นะ ซึ่งที่นี่มีการจัดแสดงเรื่องราวของอาจารย์มิซุกิตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ พร้อมห้องจำลองการทำงานที่ให้บรรยากาศหลอน ๆ ตามสไตล์การ์ตูนผี
ข้างนอกพิพิธภัณฑ์ก็มีการจัดแสดงสวนแบบญี่ปุ่นที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตอันเรียบง่ายสมถะของอาจารย์มิซุกิด้วย เดินมาอีกนิดเราก็จะเห็นรูปปั้นน่ารัก ๆ ของเจ้าตัวการ์ตูนเหล่านี้ที่ ถนนมิซุกิ ชิเงรุ (水木しげるロー) ใครเป็นแฟนอนิเมะญี่ปุ่นห้ามพลาดเชียว ! เพราะสินค้าบางอย่างผลิตเพื่อวางขายที่นี่ที่เดียวเท่านั้นนะ!
พิพิธภัณฑ์มิซุกิ ชิเงรุ (水木しげる記念館)
ที่อยู่ | Japan, 〒684-0025 Tottori, Sakaiminato, Honmachi, 5番地 |
เวลาทำการ | ทุกวันตั้งแต่ 09.30-17.30 น. |
ค่าเข้าชม (รวมภาษี) | – คนทั่วไป 1,000 เยน (ตั๋วล่วงหน้า 900 เยน) – นักเรียนมัธยมปลายต้น-ปลาย 500 เยน (ตั๋วล่วงหน้า 400 เยน) – นักเรียนประถมศึกษา 300 เยน (ตั๋วล่วงหน้า 200 เยน) – ผู้พิการ 300 เยน (ตั๋วล่วงหน้า 200 เยน) * ต่ำกว่าประถมศึกษาเข้าฟรี ** ตั๋วล่วงหน้าซื้อได้จนถึง 20.00 ของวันก่อนหน้า |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | mizuki.sakaiminato |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Sakaiminato เดิน 10 นาที |
4. พิพิธภัณฑ์โกโช อาโอยาม่า
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น !! ประโยคคุ้นหูของการ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ใครเป็นแฟนโคนันล่ะก็ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเก็บผลงานของโคนันรวมถึงผลงานเรื่องอื่น ๆ ของอาจารย์โกโช อาโอยาม่า ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย
ภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกจะมีหุ่นจำลองของอาจารย์โกโช อาโอยาม่า ยืนต้อนรับทุกคน รวมถึงตัวละครอื่น ๆ พร้อมรูกุญแจปริศนาให้ผู้เข้าชมได้ไขความลับกัน อีกทั้งเราจะได้เห็นโคนันในลักษณะต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลก ส่วนชั้น 2 เพื่อน ๆ สามารถเขียนจดหมายถึงอาจารย์โกโช อาโอยาม่า และมีปริศนามาให้ไข เรียกได้ว่าสมกับเป็นพิพิธภัณฑ์โคนันเสียจริง!
พิพิธภัณฑ์โกโช อาโอยาม่า (青山剛昌ふるさと館)
ที่อยู่ | 1414 Yurashuku, Hokuei, Tōhaku District, Tottori 689-2221, Japan |
เวลาทำการ | 9.30 – 17.30 น. (รอบสุดท้ายถึง 17.00) * ปิดทำการทุกวันอังคาร และวันที่ 31 ธันวาคม – 2 มกราคม |
ค่าเข้าชม (รวมภาษี) | – คนทั่วไป 700 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 600 เยน) – นักเรียนมัธยมปลายต้น-ปลาย 500 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 400 เยน) – นักเรียนประถมศึกษา 300 เยน (กลุ่ม 20 คนขึ้นไป 200 เยน) * ต่ำกว่าประถมศึกษาเข้าฟรี |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | gamf |
วิธีเดินทาง | จากสถานีโคนัน (JR Yura ) เดินประมาณ 20 นาที หรือต่อแท็กซี่ 5 นาที |
5. ศาลเจ้าฮะขุโตะ
“กระต่ายขาวแห่งอินาบะ” ตำนานของเจ้ากระต่ายขาวตัวหนึ่งที่มาล้างแผลในสระน้ำภายในศาลเจ้าฮะขุโตะ แล้วแผลนั้นกลับหายไปอย่างมหัศจรรย์ ทำให้สระน้ำที่นี่ถูกเรียกว่า “สระน้ำล้างตัว” ที่ช่วยทำให้แผลเป็นหรือโรคผิวหนังหายได้! นอกจากนี้ตามตำนานเทพเจ้า กระต่ายขาวถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ศาลเจ้าฮะขุโตะจึงถือเป็นต้นกำเนิดของตำนานรักอีกที่หนึ่ง โดยเมื่อปี 2010 ที่นี่ถูกแต่งตั้งให้เป็น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับคู่รัก อีกด้วย รู้แบบนี้แล้วถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีคนรู้ใจก็อย่าลืมชวนกันมาที่ศาลเจ้าฮาคุโตะนะ!
ศาลเจ้าฮะขุโตะ (白兎神社)
ที่อยู่ | 603 Hakuto, Tottori, 689-0206, Japan |
เวลาทำการ | 9.00 – 16.00 น. |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Tottori ต่อรถบัสประมาณ 40 นาที หรือแท็กซี่ภายในเมืองตกคนละ 1,000 เยน ใช้เวลา 20 นาที |
6. โบสถ์นะเกะอิเรโด วัดซันบุทสึจิ
ที่นี่คือ วัดซันบุทสึจิ ตั้งอยู่บนภูเขามิโตะกุ ภายในวัดมีโบสถ์นะเกะอิเรโด ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติ เนื่องจากความสวยงามของหลังคา ตามตำนานว่ากันว่า เอ็นโนะเกียวจา ผู้ก่อตั้งนิกายชูเค็นโดได้ขว้างโบสถ์ขึ้นไปบนเขา ทำให้โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูง หากใครต้องการขึ้นไปสักการะสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของวัดได้เลย เพราะเขามีไกด์นำทางให้ด้วยค่ะ! หรือถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่สะดวกก็สามารถสักการะบริเวณด้านล่างได้เช่นกัน ส่วนใครที่สนใจจะขึ้นไปสักการะด้านบนก็ต้องระวังกันด้วยนะ เพราะเส้นทางระหว่างขึ้นเขามีลักษณะแคบและลื่นง่าย อ้อ! ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือปีนเขามาใช้นะคะ แต่สามารถพกรองเท้ากันลื่นไปได้ ใครที่ขึ้นไปสักการะก็อย่าลืมแชะภาพมาอวดกันด้วยนะ!
โบสถ์นะเกะอิเรโด วัดซันบุทสึจิ (三佛寺投入堂)
ที่อยู่ | 1010 Mitoku, Misasa, Tōhaku District, Tottori 682-0132, Japan |
เวลาทำการ | 8.00 – 15.00 น. |
ค่าใช้จ่ายสำหรับการขึ้นเขา | – ผู้ใหญ่ 800 เยน – เด็กตั้งแต่ชั้นประถม – มัธยมต้น 400 เยน |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Kurayoshi ต่อรถบัสประมาณ 40 นาที |
7. มิสะสะออนเซ็น
เพื่อน ๆ คนไหนเหนื่อยจากการเดินทาง ก็แวะมาผ่อนคลายกันได้ที่มิสะสะออนเซ็น เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนที่มีส่วนประกอบของแร่เรดอน เป็นน้ำพุร้อนที่ทำให้ผ่อนคลาย ทั้งยังมีคุณสมบัติเรื่องการรักษาอาการทางประสาท โรครูมาตอย โรคเกาท์ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน นอกจากนี้บริเวณริมแม่น้ำยังมีน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่เรียกกันว่า “คะวะบะระ” ซึ่งตั้งอยู่ใต้สะพานมิสะสะด้วย เพื่อน ๆ สามารถแช่ตัวพร้อมฟังเสียงแม่น้ำไหลผ่าน หรือเสียงจั๊กจั่นปนกับเสียงกบร้อง คิดแล้วฟินสุด ๆ เลย ธรรมชาติมาก ๆ ที่สำคัญออนเซนกลางแจ้งนี้ฟรีไม่เสียค่าธรรมเนียมด้วยนะ!
มิสะสะออนเซ็น (三朝温泉)
ที่อยู่ | Misasa, Tōhaku District, Tottori, Japan |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | misasaonsen |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Kurayoshi ต่อด้วยรถบัสแล้วลงที่มิสะสะออนเซ็นได้เลย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที |
8. สวนสาธารณะอุตสึบุกิ
ที่นี่คือหนึ่งในสถานที่ดูซากุระ 100 แห่งที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นเลยล่ะ! ไม่ว่าจะฤดูไหนเพื่อน ๆ ก็สามารถมาเที่ยวชมความสวยงามของทัศนียภาพที่นี่ได้ ทั้งใบไม้ผลัดใบสีเขียวอ่อนในฤดูร้อน ดอกซากุระและดอกซึซึจิที่แข่งกันผลิดอกในฤดูใบไม้ผลิ ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง รวมถึงดอกทสึบากิที่บานสะพรั่งในฤดูหนาว เรียกว่าเที่ยวได้ครบทุกฤดูจริง ๆ ใครชอบถ่ายรูปวิวสวย ๆ ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่เพื่อน ๆ ควรหยิบกล้องมาแชะภาพเก็บไว้นะ!
สวนสาธารณะอุตสึบุกิ (打吹公園)
ที่อยู่ | Nakanocho, Kurayoshi, Tottori 682-0824, Japan |
เวลาเข้าชม | เปิด 24 ชั่วโมง |
วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Kurayoshi ต่อด้วยรถบัส 20 นาที |
9. สวนดอกไม้ฮานะคาอิโระ
หากเพื่อน ๆ คนไหนเคยดูหนังเกาหลีเรื่อง “Athena: Goddess of War” ที่นี่เป็นหนึ่งในโลเคชั่นของหนังเรื่องดังกล่าวนั่นเองค่ะ เป็นสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยนะ แถมดอกลิลลี่ที่นี่ไม่ได้ตั้งใจปลูกด้วย เพราะมันขึ้นเองตามธรรมชาติ มากกว่า 15 สายพันธุ์แหนะ สวยสุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ! อย่างที่ทราบกันว่าดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่สามารถชมได้ตลอดทั้งปี ใครที่ไม่ชอบแดดร้อน ๆ หรือกลัวฝนตกก็ไม่ต้องกังวล เพราะที่นี่มีเรือนกระจกขนาดใหญ่ เพื่อน ๆ สามารถชมดอกไม้ผ่านเรือนกระจกนี้ได้เลย
สวนดอกไม้ฮานะคาอิโระ (とっとり花回廊)
ที่อยู่ | 110 Tsuruda, Nambu, Saihaku District, Tottori 683-0217, Japan |
เวลาเข้าชม | เมษายน – พฤศจิกายน 9.00 – 17.00 น. ธันวาคม – มีนาคม 9.00-16.30 น. *ปิดทำการทุกวันอังคารของเดือนธันวาคม – มีนาคม และวันที่ 26-31 ธันวาคม |
ค่าเข้าชม | เมษายน – มิถุนายน – ผู้ใหญ่ 1,200 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป 1,080 เยน, 20 คนขึ้นไป 960 เยน) – นักเรียนประถม/มัธยมต้น 600 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป 540 เยน, 20 คนขึ้นไป 480 เยน) กรกฎาคม – พฤศจิกายน – ผู้ใหญ่ 960 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป 860 เยน, 20 คนขึ้นไป 760 เยน) – นักเรียนประถม/มัธยมต้น 480 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป 430 เยน, 20 คนขึ้นไป 380 เยน) ธันวาคม – กุมภาพันธ์ – ผู้ใหญ่ 500 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป 450 เยน, 20 คนขึ้นไป 400 เยน) – นักเรียนประถม/มัธยมต้น 250 เยน (กลุ่ม 10 คนขึ้นไป 220 เยน, 20 คนขึ้นไป 200 เยน) *ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และวันหยุดฤดูร้อน หลังเวลา 17:00 น. ของทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการประดับไฟ 1,000,000 ดวง เรียกว่า Moonlight Flower Garden ใครมาช่วงนี้จะเสียค่าเข้าชมเพิ่มคนละ 700 เยน |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | tottorihanakairou |
วิธีเดินทาง | 10 นาทีจาก Mizokuchi IC โดยรถยนตร์ |
10. ชายฝั่งอุระโดเมะ
การเคลื่อนที่ของเปลือกโลกและการกัดเซาะของน้ำทะเลทำให้เกิดเป็นแนวชายฝั่งอุระโดเมะตามที่เพื่อน ๆ เห็นในรูปนั่นเองค่ะ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดในปี ค.ศ. 1927 และมีชื่ออยู่ในโครงการของป่านานาชาติ World’s Geo Park อีกด้วย ขอบอกเลยว่าน้ำทะเลของที่นี่ใสมาก ๆ เพื่อน ๆ สามารถดำน้ำชมความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ทะเล ล่องเรือโต้ลม พายเรือคะยัก หรือจะเดินเล่นชมวิวสวย ๆ ก็ได้ เนื่องจากความแรงของลมทะเลที่พัดมากัดกร่อนหินทำให้เกิดอุโมงค์ หน้าผา ถ้ำ และชายหาดสีขาว สร้างความงดงามและโรแมนติกให้กับที่นี่ขึ้นไปอีก เพื่อน ๆ คนไหนเดินเล่นในเมืองจนเบื่อก็มาเดินเล่นเลียบชายฝั่งที่นี่กันได้นะคะ!
ชายฝั่งอุระโดเมะ (浦富海岸)
ที่อยู่ | Uradome, Iwami, Iwami District, Tottori 681-0003, Japan |
เวลาเข้าชม | |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถบัสจาก สถานี JR Tottori มายังสถานี Iwai Onsen หรือสถานี Kabushima ประมาณ 40 นาที แล้วลงที่ป้าย Shimameguri Yuransen Noriba mae |
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดทตโตริ นี่เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ! นอกจากจะเที่ยวให้อิ่มใจแล้วก็อย่าลืมแวะไปอิ่มท้องกับอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดทตโตริอย่าง ปูมัตสึบะ หอยนางรมอิวะ ปลามากุโระ โฮะรุโซบะ และเนื้อวัววะกิวสายพันธุ์ทตโตริกันด้วยนะ ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงทตโตริจริง ๆ !!