เมื่อพูดถึงจังหวัดไซตามะ เพื่อน ๆ นึกถึงอะไร? คำตอบคงมีเช่นเมืองคาวาโกเอะ “ฉายาลิตเติ้ลเอโดะ” แม่น้ำอาราคาวะ วัดคิตาอิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองติดโตเกียวที่หลายคนมักเดินทางผ่านเมื่อเดินทางไปนากาโนะ นีงาตะ หรือโทโฮคุ แต่จริง ๆ แล้วไซตามะเป็นอีกเมืองที่ซ่อนแหล่งท่องเที่ยวสนุก ๆ ไว้เยอะไม่แพ้กัน และนี่คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด
1. ศาลเจ้าฮิกาวะ (氷川神社)
ศาลเจ้าฮิกาวะ หรือชื่อเต็มคือศาลเจ้ามุซาชิ อิจิโนะมิยะ ฮิกาวะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่เชื่อกันว่าถูกก่อตั้งในรัชสมัยจักรพรรดิโคโชในปี 473 ก่อนคริสตกาล ปัจจุบันนับว่ามีอายุกว่า 2,400 ปีแล้ว และตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ศาลเจ้าฮิกาวะเป็นศาลเจ้าที่บุคคลสำคัญนิยมมาขอพร เช่นไทระ โนะ ซาดาโมริในสมัยเฮอันเป็นต้น ด้วยความที่ศาลเจ้าฮิกาวะเป็นศาลเจ้าที่นับถือเทพสุซาโนะโอะ เทพแห่งท้องทะเล พายุ ไร่นา การเก็บเกี่ยว การแต่งงาน และความรัก และยังนับถือเทพีคุชินาดะฮิเมะผู้เป็นภรรยาของเทพสุซาโนโอะ และเทพโอนามุจิ เทพแห่งการสร้างประเทศ การเกษตร ยา และการคุ้มครองนั่นเอง
นอกจากสักการะขอพรด้านความรักและอื่น ๆ แล้ว เพื่อน ๆ ยังอร่อยกับร้านขนมที่รอต้อนรับในพื้นที่ศาลเจ้า และถ่ายรูปจุดที่เป็นดาวเด่นของศาลเจ้าได้เช่นกัน เช่นสะพานแดงข้ามบึง ซุ้มประตูสีแดงสด และอาบบรรยากาศต้นไม้ร่มรื่นได้เช่นกัน
ศาลเจ้าฮิกาวะ (氷川神社)
ที่อยู่ | 1-407 Takahanacho, Omiya Ward, Saitama 330-0803 Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | 6.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้า | ฟรี |
การเดินทาง | จากสถานี JR Omiya ออกที่ East Exit แล้วเดิน 15 นาที |
เว็บไซต์ | musashiichinomiya-hikawa.or.jp |
2. วัดคิตาอิน (喜多院)
วัดคิตาอินที่มีอายุกว่า 1,200 ปีแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยพระสงฆ์เอ็นนินในฐานะส่วนหนึ่งของวัดมุเรียวจุจิเมื่อปีค.ศ. 830 ด้วยพระบัญชาของจักรพรรดิจุนนะ แต่สงครามทำให้วัดถูกเผาลงในปีค.ศ. 1205 และวัดคิตาอินก็ถูกบูรณะขึ้นใหม่และกลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาของศาสนาพุทธนิกายเท็นไดในพื้นที่ภูมิภาคคันโต วัดคิตาอินเดิมถูกเขียนด้วยอักษรคันจิ 北院 ที่แปลว่า “วัดทางเหนือ” แต่ถูกเปลี่ยนอักษรเป็น 喜多院 ที่อ่านว่าคิตาอินเหมือนกัน แต่สื่อความหมายว่า “วัดที่เปี่ยมความสุข” แทน
ไฮไลท์ของวัดคิตาอินมีเช่นรูปปั้นพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าทั้ง 500 รูปที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ทั้งในเรื่องของสีหน้าและท่าทาง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเทศกาลดารุมะชื่อดังที่จัดทุกวันที่ 3 มกราคม และยังเป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมอีกด้วย แต่ถ้าใครชอบเรื่องปริศนาลี้ลับ วัดคิตาอินก็มี 7 ปริศนาของวัดอยู่ด้วย เช่นความเชื่อที่ห้ามสั่นกระดิ่งในพื้นที่วัดเป็นต้น
วัดคิตาอิน (喜多院)
ที่อยู่ | 20-1, 1-Chome, Kosenbamachi, Kawagoe, Saitama 350-0036 Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | มีนาคม-พฤศจิกายน วันธรรมดา 9.00 – 16.30 น. สุดสัปดาห์ 9.00 – 16.50 น. พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ วันธรรมดา 9.00 – 16.00 น. สุดสัปดาห์ 9.00 – 16.20 น. หยุดทุกวันที่ 25 ธันวาคม – 8 มกราคม วันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ วันที่ 2-4 เมษายน |
ค่าเข้า | ผู้ใหญ่ 400 เยน เด็ก (นักเรียนมัธยมต้น) 200 เยน |
การเดินทาง | จากสถานี JR Kawagoe เดิน 20 นาที |
เว็บไซต์ | kitain.net |
3. หอระฆังโทคิโนะคาเนะ (時の鐘)
หอระฆังโทคิโนะคาเนะเป็นหอที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ. 1627 – 1634 และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่คอยบอก “เวลา” (時, โทคิ) ทำให้หอระฆังถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการใช้ชีวิตของผู้คนที่นี่ โดยหอระฆังโทคิโนะคาเนะที่เราเห็นกันทุกวันที่เป็นหอระฆังที่สร้างขึ้นใหม่หลังจากเหตุไฟไหม้ในปีค.ศ. 1893 และยังคงโครงสร้างหอ 3 ชั้นที่สูง 16 เมตรไว้อยู่
ถ้าไปเดินในเมือง เราจะได้ยินเสียงระฆังบอกเวลา 4 ครั้งใน 1 วัน ได้แก่เวลา 6.00 , 12.00 , 15.00 และ 18.00 น. เสียงบอกเวลาของระฆังที่ดังมาตั้งแต่สมัยเอโดะช่วยเสริมบรรยากาศเมืองเก่าโดยรอบได้เป็นอย่างดี ใครที่รักกลิ่นอายญี่ปุ่นยุคเอโดะควรมาเยี่ยมให้ได้
หอระฆังโทคิโนะคาเนะ (時の鐘)
ที่อยู่ | 15-7 Saiwaicho, Kawagoe, Saitama 350-0063 Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | เปิด 24 ชั่วโมง |
การเดินทาง | จากสถานี JR Kawagoe นั่งรถบัสมาลงป้าย Ichiban-Cho แล้วเดิน 1 นาที |
เว็บไซต์ | city.kawagoe.saitama.jp |
4. ตรอกขนม (菓子屋横丁)
ตรอกขนม แค่ได้ยินชื่อก็น่าไปแล้ว! ที่นี่เป็นถนนคนเดินชื่อดังของคาวาโกเอะที่มีร้านขนมเรียงกันราว 30 ร้าน ซึ่งต่างผลิตขนมที่ยังคงรสชาติขนมในอดีตไว้จนใครได้กินก็คิดถึงความหลังอย่างแน่นอน ถือเป็นตรอกที่ใครก้าวเข้าไปก็รู้สึกเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง หรือถ้ามากับเด็กเล็กล่ะก็ น้อง ๆ ก็จะได้เปิดโลกกับบรรดาขนมละลานตาที่มีให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กก็สนุกกับรสชาติความสุขของชีวิตได้ที่นี่
ตรอกขนม (菓子屋横丁)
ที่อยู่ | 11-3, 2-Chome, Motomachi, Kawagoe, Saitama 350-0062 Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | 10.00 – 17.00 น. |
ค่าเข้า | ฟรี |
การเดินทาง | จากสถานี JR Kawagoe นั่งรถบัสมาลงป้าย Fudanotsuji แล้วเดิน 3 นาที |
เว็บไซต์ | koedo.or.jp |
5. สวนฮิตสึจิยามะ (羊山公園)
สวนฮิตสึจิยามะเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในฤดูใบไม้ผลิของเมืองจิจิบุก็ว่าได้ เพราะในฤดูใบไม้ผลิช่วงกลางเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี เนินเขาในสวนจะถูกปกคลุมด้วยดอกชิบะซากุระ (芝桜) สีชมพูเข้มกว่า 400,000 ดอก ต่อให้ถ่ายรูปแบบไม่มีฟิลเตอร์ก็ยังได้ภาพสีสดสวยเก็บไว้ชมกัน ถ้าใครมาเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อถ่ายรูปต้นซากุระแล้วแต่ยังไม่จุใจ ก็มาต่อที่ชิบะซากุระที่นี่กันได้เลย
สวนฮิตสึจิยามะ (羊山公園)
ที่อยู่ | 6360 Omiya, Chichibu, Saitama 368-0023, Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | ทั่วไป เปิด 24 ชั่วโมง ช่วงเทศกาลชิบะซากุระ 8.00 – 17.00 น. (ปิดวันจันทร์) |
ค่าเข้า | ทั่วไป ฟรี ช่วงเทศกาลชิบะซากุระ บุคคลทั่วไป 300 เยน นักเรียนมัธยมต้นลงไปเข้าฟรี |
การเดินทาง | จากสถานี Seibu-Chichibu เดิน 16 นาที |
เว็บไซต์ | city.chichibu.lg.jp |
6. คุมากายะ ซากุระ สึสึมิ (熊谷桜堤)
คุมากายะซากุระสึสึมิ เป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ และยังติดอันดับ 100 จุดชมซากุระชื่อดังของญี่ปุ่นอีกด้วย ในฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะราว 500 ต้นจะพากันบานตลอดระยะทาง 2 กิโลเมตรริมแม่น้ำอาราคาวะ แต่ความสวยของที่นี่ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะบนพื้นใต้ต้นซากุระยังมีดอกนาโนะฮานะ (菜の花) สีเหลืองสดใสที่บานตัดกับสีชมพูอ่อนของซากุระอีกด้วย ถ้าได้มาเห็นในวันที่ฟ้าเป็นสีครามสดใส จะได้บรรยากาศสดชื่นมีชีวิตชีวาของฤดูใบไม้ผลิอย่างเต็มที่แน่นอน
คุมากายะ ซากุระ สึสึมิ (熊谷桜堤)
ที่อยู่ | 2 Chome Kawaracho, Kumagaya, Saitama 360-0035, Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | เปิด 24 ชั่วโมง |
ค่าเข้า | ฟรี |
การเดินทาง | จากสถานี JR Kumagaya เดิน 7 นาที |
เว็บไซต์ | oideyo-kumagaya.com |
7. สุสานร้อยถ้ำโยชิมิ (吉見百穴)
สุสานร้อยถ้ำโยชิมิเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มของสุสานโคะฟุน (古墳) สุสานแบบโบราณของญี่ปุ่นที่ขุดเข้าไปในถ้ำมนุษย์สร้าง แม้ว่าชื่อจะบอกว่า “สุสานร้อยถ้ำโยชิมิ” แต่ที่จริงแล้วถ้ำที่พบในนี้มีมากถึง 219 ถ้ำทีเดียว โดยถ้ำแห่งนี้มีมาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 6 ทีเดียว ปัจจุบันสุสานร้อยถ้ำโยชิมิเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในพื้นที่ที่กำหนด โดยนอกจากจะได้เดินเข้าไปสำรวจในถ้ำมนุษย์สร้างที่โบราณแล้ว ด้านในยังมีฮิคาริโคเกะซึ่งเป็นมอสที่เรืองแสงได้เจริญเติบโตอยู่ด้านในด้วย
สุสานร้อยถ้ำโยชิมิ (吉見百穴)
ที่อยู่ | 327 Kitayoshimi, Yoshimi, Hiki District, Saitama 355-0155, Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | 8.30 – 17.00 น. (Last Entry 16.30 น.) |
ค่าเข้า | นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป 300 เยน นักเรียนประถม 200 เยน เด็กเล็กเข้าฟรี |
การเดินทาง | จากสถานี JR Konosu นั่งรถบัส Kawagoe Motor 25 นาทีมาลงป้าย Hyakuana Iriguchi แล้วเดิน 5 นาที |
เว็บไซต์ | chocotabi-saitama.jp |
8. The Railway Museum (鉄道博物館)
คนรักรถไฟไม่มีทางพลาด! กับพิพิธภัณฑ์รถไฟ The Railway Museum ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองโอมิยะ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีครบทุกอย่างที่คนรักรถไฟต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขบวนรถไฟเก่าในประวัติศาสตร์ที่ตั้งแสดงให้ได้เข้าไปชมกันอย่างใกล้ชิด (บางขบวนเปิดให้ขึ้นไปเดินดูในตู้รถได้ด้วย) นิทรรศการที่แสดงประวัติศาสตร์กว่า 100 ปีของรถไฟญี่ปุ่น กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เบื้องหลังการทำงานของรถไฟ กิจกรรมจำลองการขับรถไฟ รวมถึงร้านจำหน่ายของที่ระลึกธีมรถไฟ และถ้าหิว ก็ยังมีข้าวกล่องรถไฟ (เอกิเบ็น) ให้อร่อยกันด้วย!
The Railway Museum
ที่อยู่ | 47 3-Chome, Onaricho, Omiya Ward, Saitama 330-0852 Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | 10.00 – 17.00 น. (เข้าได้ถึง 16.30 น.) หยุดทุกวันอังคารและเทศกาลปีใหม่ |
ค่าเข้า | ตั๋วล่วงหน้าก่อนวันเข้าชม คนทั่วไป 1,230 เยน นักเรียนประถม-มัธยม 510 เยน เด็ก 3 ขวบขึ้นไป 210 เยน ตั๋วในวันเข้าชม คนทั่วไป 1,330 เยน นักเรียนประถม-มัธยม 620 เยน ด็ก 3 ขวบขึ้นไป 310 เยน *ทางพิพิธภัณฑ์ไม่มีการจำหน่ายตั๋วโดยตรงที่หน้าประตู สามารถซื้อตั๋วเข้าชมได้ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Lawson หรือ Ministop *สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ตามวัน-เวลาที่จองไว้บนตั๋วเท่านั้น |
การเดินทาง | จากสถานี JR Tokyo สามารถขึ้นรถไฟชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Omiya ต่อรถไฟ New Shuttle มาลงที่สถานี Tetsudo-Hakubutsukan |
เว็บไซต์ | railway-museum |
9. Glico Pia East (グリコピア・イースト)
Glico Pia East หรือพิพิธภัณฑ์กูลิโกะเป็นที่ที่ใคร ๆ ก็มาสนุกกับขนมแบรนด์นี้ที่เราคุ้นเคยกันดีได้ โดยมีโซนนิทรรศการและกิจกรรมให้สนุกมากมาย เช่น College Hall ที่ฉายภาพยนตร์บอกเล่าความเป็นมาของผู้ก่อตั้งกูลิโกะและการแปรรูปเมล็ดโกโก้ให้เป็นช็อกโกแลต โซนมิวเซียมที่จัดแสดงของเล่นของแบรนด์กูลิโกะรวม 1,500 ชิ้น โซน Stadium Hall ที่ให้เราท้าทายความรู้ตัวเองด้วยการกดปุ่มตอบควิซเป็นต้น
แต่ที่หลายคนหมายตาก็คือ Mini Factory ซึ่งเป็นโซนที่ให้เราได้ตกแต่งไจแอนท์ป๊อกกี้ในแบบของเราเอง จะเก็บเป็นที่ระลึกก็ได้ หรือจะเป็นของขวัญให้คนสำคัญก็เก๋ไม่เบา!
Glico Pia East (グリコピア・イースト)
ที่อยู่ | 9 Chome-55 Nakamaru, Kitamoto, Saitama 364-0013, Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 16.00 น. หยุดทุกวันศุกร์ |
ค่าเข้า | เข้าฟรี (สำหรับผู้ที่จองล่วงหน้าเท่านั้น) *Mini Factory มีค่าทำกิจกรรมคนละ 500 เยน |
การเดินทาง | จากสถานี JR Kitamoto ต่อแท๊กซี่ 9 นาที |
เว็บไซต์ | www.glico.com |
10. หมู่บ้านโอมิยะบอนไซ (大宮盆栽村)
หมู่บ้านโอมิยะบอนไซเริ่มต้นมาจากการที่ชาวสวนผู้ผลิตต้นบอนไซย้ายถิ่นฐานจากโตเกียวมายังไซตามะหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโตเมื่อปีค.ศ. 1923 โดยพวกเขามองหาพื้นที่ที่กว้าง มีอากาศและน้ำที่ดีเหมาะกับการปลูกบอนไซ จนมาเกิดเป็นหมู่บ้านโอมิยะบอนไซในปีค.ศ. 1925 ผู้ที่จะเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านโอมิยะบอนไซนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีต้นบอนไซ 10 ต้นขึ้นไป และต้องตกลงเปิดพื้นที่สวนของตนให้เป็นที่สาธารณะ ไม่สร้างบ้านสองชั้น และปลูกพุ่มไม้แทนรั้ว ซึ่งหมู่บ้านโอมิยะบอนไซก็ยังคงกฎเกณฑ์และบรรยากาศเดิมตั้งแต่แรกเริ่มมาจนถึงตอนนี้
หมู่บ้านโอมิยะบอนไซกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยมีผู้คนจากหลายประเทศเดินทางมาเพื่อชมและเรียนรู้การทำบอนไซ ตั้งแต่บุคคลทั่วไปจนถึงแขกบ้านแขกเมือง อีกทั้งบอนไซของหมู่บ้านนี้ยังเคยถูกนำไปจัดแสดงในงาน Japan World Exposition ที่โอซาก้าในปี 1970 ด้วย ถือเป็นโลเคชั่นที่คนรักบอนไซต้องมาเป็นอย่างยิ่ง
แถมไม่ไกลจากพื้นที่หมู่บ้านยังมี Omiya Bonsai Art Museum ที่ให้เราเข้าไปเดินชมสวนบอนไซ เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของบอนไซ และร่วมกิจกรรมสาธิตได้เช่นกัน คนรักงานศิลปะและธรรมชาติต้องมา
หมู่บ้านโอมิยะบอนไซ (大宮盆栽村)
ที่อยู่ | Bonsaicho, Kita Ward, Saitama, 331-0805, Japan. |
เวลาเปิด-ปิด | มีนาคม-ตุลาคม 9.00 – 16.30 น. พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ 9.00 – 16.00 น. หยุดทุกวันพฤหัสบดี |
ค่าเข้า | Omiya Bonsai Art Museum ผู้ใหญ่ 310 เยน นักเรียนมัธยมปลาย-นักศึกษา 150 เยน ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 150 เยน นักเรียนประถม-มัธยมต้น 100 เยน |
การเดินทาง | จากสถานี Omiya Koen เดิน 10 นาที |
เว็บไซต์ | omiyabonsai.jp (ภาษาอังกฤษ) www.bonsai-art-museum.jp (ภาษาอังกฤษ) |
ทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า ไปไซตามะกัน!
และทั้งหมดนี้คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของจังหวัดไซตามะ จังหวัดติดโตเกียวที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหลบผู้คนจอแจมาสัมผัสบรรยากาศชานเมือง ซึ่งจะค้างคืนก็ดี หรือไปเช้าเย็นกลับก็ไม่เหนื่อยด้วย แถมใช้ JR EAST PASS เที่ยวแบบประหยัดได้อีกด้วย ใครมองหาที่เที่ยวใกล้โตเกียวแนะนำเลย!