เก็บกระเป๋าตะลุย ฟุคุอิ จังหวัดเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางเกาะฮอนชู ติดกับชายฝั่งเอจิเซน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในขุมทรัพย์แห่งอาหารทะเล เนื่องจากความสมบูรณ์ของท้องทะเล อีกทั้งยังถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและธรรมชาติมากมาย แถมที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องข้าวสายพันธุ์โคชิฮิคาริด้วย แหม มาถึงก็พูดเรื่องของกินซะละ จะว่าไปแล้วจังหวัดฟุคุอิมีอะไรน่าเที่ยวบ้างนะ ถ้าอยากรู้ละก็ไปลุยพร้อม ๆ กันเลย !
1. ปราสาทมารุโอกะ
ปราสาทมารุโอกะ หรือ ปราสาทคาสุมิกาโจ (ปราสาทหมอกควัน) เนื่องมาจากตามตำนานเล่าว่าหากมีศัตรูบุกรุกเข้ามาในปราสาทจะเกิดหมอกหนาขึ้นมาปกคลุม อีกทั้งตัวปราสาทยังถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสงครามโดยเฉพาะ ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สุด แม้จะเคยพังทลายลงมาเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1948 แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่โดยใช้วัสดุเดิม
ตัวหอคอยปราสาทถ้ามองจากภายนอกจะมีทั้งหมดสองชั้น แต่ถ้าหากเข้ามาข้างในจะมีทั้งหมดสามชั้นค่ะ เนื่องจากปราสาทแห่งนี้แตกต่างกับปราสาทในสมัยอื่น คือฐานจะไม่ยื่นเกินออกมาจากขอบ ส่วนกันสาดก็จะยื่นออกมาเลียบตรงกับกำแพง เพื่อเป็นช่องว่างให้ทหารยามคอยโยนหินใส่ผู้ที่ต้องการจะบุกรุกเข้ามาภายในปราสาท หรือที่เรียกกันว่า หน้าต่างอิชิโอโตะชิยามา เป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นวิวได้แบบพาโนรามาเลยละค่ะ รวมถึงบริเวณรอบ ๆ ปราสาทยังมีต้นซากุระโซเมอิโยชิโนะกว่า 400 ต้น ที่แข่งกันผลิดอกบานสะพรั่ง ทำให้บรรยากาศที่นี่สวยงามสุด ๆ เลย
ปราสาทมารุโอกะ (丸岡城)
ที่อยู่ | Japan, 〒910-0231 Fukui, Sakai, Maruokacho Kasumicho, 1 Chome−59 |
เวลาเปิด-ปิด | 08.30-17.00 น. |
ค่าเข้าชม | 300 เยน |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | maruoka-castle |
วิธีเดินทาง | เดินทางจากสถานีรถไฟฟ้า JR Awara Onsen ที่มุ่งหน้าไป Honmaruoka ใช้เวลาประมาณ 40 นาที |
2. วัดเออิเฮจิ
เพื่อน ๆ สามารถเดินชมสิ่งก่อสร้าง อาคาร บ้านเรือนต่าง ๆ ทั้งประตูแซนมอน สนามฝึก ศาลากว่า 70 หลัง ซึ่งปัจจุบันเป็นที่สถานที่ฝึกตนของพระสงฆ์กว่า 200 รูป ที่ฝึกอย่างเข้มงวดทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนั้นเมื่อเพื่อน ๆ มาถึงที่นี่ไม่ต้องแปลกใจเลยค่ะว่าทำไมบริเวณวัดถึงสะอาดเงาวับ เพราะบริเวณวัดจะถูกทำความสะอาดโดยพระสงฆ์นั่นเอง
นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับทางวัดได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทดลองทำอาหารตามสูตร เข้าฝึกอบรมการใช้ชีวิตของพระสงฆ์ นั่งสมาธิ อีกทั้งยังสามารถนอนพักค้างคืนที่วัดได้ด้วย ใครอยากทำกิจวัตรแบบพระสงฆ์ละก็ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หาทำไม่ได้ทั่วไปด้วยนะ!
วัดเออิเฮจิ (永平寺)
ที่อยู่ | 5-15 Shihi, Eiheiji, Yoshida District, Fukui 910-1228, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 5.00 – 16.30 น. |
ค่าเข้าชม | 500 เยน ค่ากิจกรรมกับทางวัด 8,000 เยน/คืน *รวมอาบน้ำ อาหารเย็น การทำสมาธิ และอาหารเช้า หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจต้องลงชื่อจองล่วงหน้าเท่านั้นนะคะ |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | sotozen |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Fukui นั่งรถบัส หรือรถไฟ Echizen Railway ไปลงที่สถานี Eiheiji-guchi แล้วต่อรถบัสอีกประมาณ 10 นาที |
3. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์
この投稿をInstagramで見る
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ที่เมืองคัตสึยาม่า ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การศึกษาและวิจัยสัตว์โลกดึกดำบรรพ์อย่างไดโนเสาร์มากที่สุด เนื่องจากเป็น ศูนย์กลางการวิจัยไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ภายในมีทั้งหมด 4 ชั้น เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับโครงกระดูกเจ้าทีเร็กซ์ที่ยืนต้อนรับอยู่ รวมถึงโครงกระดูกไดโนเสาร์พันธุ์อื่น ๆ ที่ถูกนำมาจัดแสดงด้วย ไม่ว่าจะเป็นแรปเตอร์ และซอรัสที่ถูกพบในเมืองฟุคุอิ
เพื่อน ๆ สามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมนิทรรศการเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตบนโลก ความรู้เกี่ยวกับโลก โลกเกิดขึ้นมาได้อย่างไร วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต และวิวัฒนาการจากนกเป็นไดโนเสาร์ แถมยังมีวิดีโอสนุก ๆ ให้ได้รับชมด้วยนะ! แน่นอนว่าต้องมีคำบรรยายภาษาอังกฤษให้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้เขาก็มีให้สัมผัสซากฟอสซิลของจริง รวมถึงเรียนรู้วิธีการดูแลกับรักษาฟอลซิลในห้องปฏิบัติการได้อีกด้วยแหละ! ใครเป็นแฟนไดโนเสาร์อย่าพลาดมาเที่ยวเลยนะคะ!
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ (福井県立恐竜博物館)
ที่อยู่ | 51-11 Murokocho Terao, Katsuyama, Fukui 911-8601, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 17.00 น. *ปิดทำการทุกวันพุธที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน ยกเว้นเดือนสิงหาคม และช่วงวันหยุดสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | คนละ 720 เยน |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | dinosaur |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Fukui นั่งรถไฟสาย Echizen Railway Katsuyama-Eiheiji ไปลงที่สถานี Katsuyama แล้วต่อรถบัสที่มุ่งหน้าไป Nagaoyama ลงที่ป้าย Kyoryu Hakubutsukan-mae หรือจะต่อแท็กซี่ก็ได้ |
4. หน้าผาโทจินโบ
หน้าผาโทจินโบ คือ หน้าผาหินแกรนิตสูง 20 เมตร และยาวกว่า 1 กิโลเมตร เกิดจากน้ำทะเลกัดเซาะจนมีรูปร่างแตกต่างกัน ถือเป็นหินแอนดีไซต์ที่มีส่วนผสมของแร่ไพรอกซีนขนาดใหญ่ ซึ่งมีเพียงที่นี่ที่เดียวเท่านั้นในญี่ปุ่น จึงทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงทางด้านธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก รวมถึงเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด จนได้รับการจดทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติแห่งชาติเลยนะ!
ที่นี่ นอกจากเพื่อน ๆ จะได้กินลมชมวิวทิวทัศน์ของน้ำทะเลตัดกับสีฟ้าครามของท้องฟ้าแล้ว เพื่อน ๆ ยังสามารถเดินเล่นชมหน้าผาโทจินโบและทะเลรอบ ๆ ได้ แต่ระวังนิดนึงนะคะ เพราะบริเวณหน้าผาลื่นมาก เพื่อน ๆ ควรสวมรองเท้ากันลื่นหรือรองเท้าผ้าใบ และเดินอย่างระมัดระวังกันด้วย ส่วนใครอยากจะไปหาของฝากเก๋ ๆ ใกล้ ๆ ก็มีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารให้เพื่อน ๆ อยู่หลายร้านเลย รวมถึงยังมี หอคอย Tojinbo Tower ให้ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของหน้าผาจากมุมสูงได้อีกด้วย!
หน้าผาโทจินโบ (東尋坊)
ที่อยู่ | 64-1 Mikunicho Anto, Sakai, Fukui 913-0064, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | เปิด 24 ชั่วโมง |
เว็บไซต์เพิ่มเติม | toujinbou-yuransen |
วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟ Echizen Railway (Mikuni Awara Line) จากสถานี Fukui ไปลงสถานี Mikuni ใช้เวลา 47 นาที จากนั้นต่อรถบัสสายโทจินโบ อีก 12 นาที |
5. ชายฝั่งเอะจิเซน
อีกหนึ่งจุดชมวิวที่ถือเป็นตัวแทนของจังหวัดฟุคุอิ ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะแห่งชาติ เอะจิเซน คะกะ ไคกัง มีจุดสะดุดตาคือ โคโจมง หรือ หินโค้งที่คล้ายกับอุโมงค์หิน ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สูง 15 เมตร ยาว 30 เมตร
ที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับนักตกปลาทั้งหลาย และยังมีไฮไลต์ในช่วงฤดูหนาว ที่สามารถชม ทุ่งดอกนาร์ซิสซัส ขนาดใหญ่ที่บานไล่ลงไปตามทางลาดเขา (บานเต็มที่ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม) และในปลายเดือนมกราคมของทุกปี ก็จะตรงกับช่วงเทศกาลดอกนาซิสซัสด้วยอีกด้วยนะคะ แต่สำหรับใครที่เป็นสายกิน เที่ยวชิว ๆ ก็แนะนำให้ไปเดินเล่นโต้ลมทะเลสบาย ๆ แล้วค่อยแวะทานอาหารทะเลสด ๆ อย่าง ปูเอะจิเซน สุดยอดเมนูเด็ดประจำฤดูหนาว ก็จะถือว่ามาถึงชายฝั่งเอะจิเซ็นแล้วค่ะ!
ชายฝั่งเอะจิเซน (越前海岸)
ที่อยู่ | 64-1, Mikunicho Anto, Sakai, Fukui 913-0064, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | เปิดตลอดเวลา |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟสาย JR Hokuriku ไปสถานี Fukui แล้วขึ้นรถบัสสาย Keifuku ไปที่ Suisen Land และลงเมื่อสุดสาย แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที |
6. สวนโยโคกัง
มาแวะพักผ่อนหย่อนใจที่ สวนโยโคกัง หรือที่นิยมเรียกกันอีกชื่อว่า คฤหาสน์บ่อน้ำพุร้อน สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับระดับประเทศ และยังถือเป็นบ้านพักหลังที่สองของตระกูลมัตสึไดระ
สวนโยโคกังแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาในสไตล์ สวนญี่ปุ่นไคยุชิกิ รินเซ็นเท ที่มีสระน้ำขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยหินและต้นไม้มากมาย เพื่อน ๆ จึงสามารถชมวิวทิวทัศน์บริเวณสระน้ำได้จากภายในคฤหาสน์ที่ออกแบบเป็นลักษณะเรือนน้ำชา ให้เข้าไปนั่งจิบชาชมวิวตามฤดูกาลทั้งฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูร้อน ยิ่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จะยืดเวลาให้ได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีกันอย่างจุใจเลยละค่ะ แถมไม่ได้นั่งจิบชาสวย ๆ อย่างเดียวนะ เขายังมีการสอนพิธีชงชาและจัดพิธีฉลองน้ำชาให้ด้วย!
สวนโยโคกัง (養浩館庭園)
ที่อยู่ | 3 Chome-11-36 Hoei, Fukui, 910-0004, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 09.00-17.00 น. *ปิดทำการทุกวันหยุดสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | 210 เยน |
วิธีเดินทาง | จากสถานีรถไฟ JR Fukui ผ่านสำนักงานจังหวัดฟุคุอิ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 15 นาทีก็ถึงค่ะ |
7. อาวาระ ออนเซ็น
อาวาระ ออนเซ็น ถูกค้นพบในสมัย 1883 ตั้งอยู่ในเมืองอะวาระ จังหวัดฟุคุอิ ถึงแม้จะเคยประสบปัญหาภัยพิบัติแผ่นดินไหว แต่ที่นี่ก็ยังคงความเป็นเมืองสปาเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยบรรยากาศที่แตกต่างกันของแต่ละบ่อ เนื่องจากมีปริมาณแร่ธาตุโซเดียม และโพแทสเซียมที่แตกต่างกัน ทำให้คุณสมบัติต่างกันตามไปด้วย น้ำพุร้อนที่นี่จะช่วยคลายความปวดเมื่อยจากกล้ามเนื้ออักเสบ,ผิวหนังเรื้อรัง,โรคประสาท,โรคผิวหนังภูมิแพ้ และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังสามารถทานอาหารทะเลสดใหม่ รวมถึงชมการแสดงของเหล่าเกอิชา ที่จะขับกล่อมเพลงพร้อมร่ายรำให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันด้วย แต่สำหรับคนที่ต้องการชมเกอิชาต้องจองคิวล่วงหน้าเท่านั้นนะ แถมที่นี่ยังมีบริการให้เช่าจักรยานปั่นชมรอบเมืองด้วย
อาวาระ ออนเซ็น (芦原温泉)
ที่อยู่ | Awara, Fukui, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 18.00 น |
ค่าบริการ | แม้ว่าบางคนไม่ได้นอนพักที่อะวาระ ออนเซ็น ก็สามารถแช่น้ำพุร้อนได้ 3 ครั้ง ในราคา 1,500 เยน |
เว็บไซต์ | awara-onsen |
วิธีเดินทาง | นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Onsen Awara หรือสถานี Awarayuno-machi แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงแล้วค่ะ |
8. พิพิธภัณฑ์ปูเอะจิเซน
มาถึงจังหวัดฟุคุอิ แหล่งรวมอาหารทะเลสด ๆ ซึ่งโด่งดังด้วย เมนูปูเอะจิเซน ที่ถือเป็นปูท้องถิ่นของที่นี่ ดังนั้นเพื่อน ๆ ต้องไม่พลาดไปชมพิพิธภัณฑ์ปูเอะจิเซน ที่ภายนอกโดดเด่นด้วยตัวอาคารรูปโดมเอเทรียมสามชั้น สร้างขึ้นให้คล้ายกับลักษณะของปูยักษ์ ส่วนภายในจัดเป็นนิทรรศการปูในห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งจะรวบรวมเหล่าปูที่มีชื่อเสียงทั้งหลายในจังหวัดฟุคุอิ รวมถึงปลา และสัตว์ทะเลท้องถิ่น
นอกจากนี้ เพื่อน ๆ ยังสามารถศึกษาสายพันธุ์ของปูแต่ละชนิด เรียนรู้เกี่ยวกับการสืบพันธุ์ สภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัยของปู พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับโรงภาพยนตร์ 3D และหุ่นยนต์ยักษ์ปูเอชิเซน อีกทั้งยังสามารถสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กใต้ท้องทะเลภายในอุโมงค์พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารทะเลและร้านอาหารที่มีปลาตามฤดูกาลในท้องถิ่นของเอะจิเซนให้เพื่อน ๆ ได้ลิ้มลองกันด้วย!
พิพิธภัณฑ์ปูเอะจิเซน (越前がにミュージアム)
ที่อยู่ | 71-324-1 Kuriya, Echizen, Nyu District, Fukui 916-0422, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 17.00 น. *ปิดทำการทุกวันอังคาร |
ค่าเข้าชม | คนละ 610 เยน |
เว็บไซต์ | kanimuseum |
วิธีเดินทาง | นั่งรถบัสจากฟุคุอิที่สถานี Takefu ลงที่ป้าย Takefu Ejizen ได้เลยค่ะ |
9. โบราณสถานตระกูลอิจิโจดานิ อาซากุระชิ
นี่คือซากปรักหักพังของบ้านเมืองและปราสาทไดเมียว ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ตระกูลอาซากุระ ในสมัยสงครามกลางเมือง เนื่องจากพ่ายแพ้สงครามแก่โอดะ โนบุนางะ บ้านเมืองที่นี่จึงถูกเผาทำลายไปด้วย เหลือเพียงซากปรักหักพังของอาคาร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ดังนั้นเมื่อมาถึงที่นี่เพื่อน ๆ จะได้เพลิดเพลินกับการชมบ้านซามูไร วัด ร้านค้า ถนน ในสมัยก่อนที่ยังคงอยู่ในสภาพดี รวมถึงวัตถุโบราณอีกกว่า 2,343 ชนิด ทำให้ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็น จุดทัศนียภาพพิเศษแห่งชาติ เป็นสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม และได้รับยกย่องในด้านทิวทัศน์สวยงาม โบราณสถานพิเศษ และสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรม
โบราณสถานตระกูลอิจิโจดานิ อาซากุระชิ (一乗谷朝倉氏遺跡)
ที่อยู่ | Kidonouchicho, Fukui, 910-2153, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 9.00 – 17.00 น. *หยุดช่วงวันสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | ส่วนพิพิธภัณฑ์ – ผู้ใหญ่ 700 เยน – นักเรียนมัธยมปลาย 400 เยน – นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน – อายุ 70 ปีขึ้นไป 350 เยน *มาเป็นหมู่คณะ 20 คนขึ้นไปมีส่วนลด 20% |
วิธีเดินทาง | จากสถานี Ichijodani นั่งสาย Etsumi-hoku เดินต่ออีกประมาณ 30 นาที |
10. บ้านประวัติศาสตร์ที่บูรณะฟูคุเกน มาชินามิ
ฟูคุเกน มาชินามิ คือ หมู่บ้านประวัติศาสตร์ ในสมัยเซ็นโกคุ ที่เพื่อน ๆ สามารถเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ของบ้านเรือนสมัยโบราณ ทั้งบ้านซามูไร บ้านเรือนของชาวบ้าน ร้านค้า อาคารและสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ซึ่งตั้งเรียงรายทอดตัวยาวกว่า 200 เมตร
ถึงแม้ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์ที่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ด้วยหุ่นขี้ผึ้งนั่นเอง เพราะทำให้เราเหมือนได้ย้อนกลับไปในสมัยนั้นจริง ๆ เลยล่ะ โดยเหล่าหุ่นขี้ผึ้งทั้งหลายจะแต่งตัวเหมือนคนในยุคสมัยนั้น พร้อมทำกิจวัตรประจำวันตามวิถีชาวบ้านอีกด้วยนะ! ไม่แปลกเลยล่ะค่ะว่าทำไมที่นี่จึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง!
บ้านประวัติศาสตร์ที่บูรณะฟูคุเกน มาชินามิ (復原町並)
ที่อยู่ | 28-37 Kidonouchicho, Fukui, 910-2153, Japan |
เวลาเปิด-ปิด | 09.00-17.00 น. *ปิดให้บริการทุกวันจันทร์ และช่วงวันหยุดสิ้นปี |
ค่าเข้าชม | 210 เยน |
วิธีเดินทาง | เดินทางจากสถานี Ichijodani โดยนั่งสาย JR Mitsumihoku แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงแล้วค่ะ |
ทริปหน้าไปเที่ยว “ฟุคุอิ” กันเถอะ!
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดฟุคุอิช่วงฤดูใบไม้ผลิ อย่าลืมแวะไปดูธงปลาคาร์ฟที่แหวกว่ายกลางสายลมเหนือแม่น้ำเมืองสะบาเอะ ที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยต้นซากุระสีชมพู และดอกแดฟโฟดิลสีเหลืองตัดกันสวยงามมาก ๆ นอกจากนี้ที่ฟุคุอิยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีหิมะตกหนัก ดังนั้นรับรองได้เลยว่าเพื่อน ๆ จะต้องเพลิดเพลินไปกับทุกฤดูของจังหวัดฟุคุอิเลยล่ะ!