ได้ยินชื่อปุ๊บนึกถึงนึกถึงน้องหมากันเลยใช่มั้ยคะ วันนี้ conomi จะพาเพื่อน ๆ มารู้จักจังหวัดอาคิตะกัน เป็นจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุหรือภาคอีสานของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่เกือบเหนือสุดของเกาะฮอนชู เป็นจังหวัดที่มีความความสวยงามจากธรรมชาติอันสมบูรณ์ น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยนิยมไปที่นี่กันเท่าไหร่ คนรักธรรมชาติไม่ควรพลาด เราจึงอยากจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับความสวยงามของที่นี่กัน
1. ย่านชุมชนซามูไรเมืองคาคุโนะดาเตะ

คะคุโนะดาเตะเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้านได้ฟรี โดยเฉพาะบ้านอาโอยากิ ที่มีอาคารหลายหลังที่ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และพิพิธภัณฑ์นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประเพณี วิถีชีวิตของซามูไรแห่งเมืองคาคุโนะดาเตะ กับบ้านอิชิกูโระ ที่จะมีพื้นที่เล็กกว่าบ้านอาโอยากิ ภายในจะจัดแสดงเสื้อผ้าและเสื้อเกราะซามูไร รวมถึงภาพวาดทางกายภาพ มี 2 หลังที่ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
ย่านชุมชนซามูไรเมืองคาคุโนะดาเตะ (角館の武家屋敷)
| ที่อยู่ | Semboku, Akita, Japan |
| เว็บไซต์เพิ่มเติม | tohokukanko |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Kakunodate เดินประมาณ 20 นาที หรือนั่งแท็กซี่ประมาณ 5 นาที โดยย่านชุมชนจะเริ่มจากสี่แยก Yoko Machi |
2. สุรุโนยุออนเซนที่นิวโตะออนเซน

แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังท่ามกลางขุนเขาที่เป็นที่นิยมของซามูไรในยุคนั้น นั่นคือ นิวโตะออนเซน หรือน้ำพุร้อนสีน้ำนมที่มีลักษณะขุ่นจากแร่ธาตุจำนวนมากที่ผสมในน้ำนั่นเอง เป็นแหล่งเรียวกังออนเซนในภูเขาฝั่งทิศตะวันออกของจังหวัดอากิตะในอุทยานแห่งชาติโทวาดะ ฮาจิมังไท (Towada Hachimantai National Park) เรียวกังแต่ละแห่งค่อนข้างเรียบง่ายเป็นสไตล์ดั้งเดิม และเปิดให้บริการมามากกว่า 300 ปี มีทั้งหมด 8 แห่ง โดยเรียวกังสุรุโนยุ (Tsurunoyu) เป็นออนเซนในนิวโตะที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุด ว่ากันว่าน้ำแร่ของที่นี่มีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ช่วยรักษาโรค บำรุงสุขภาพ มากกว่า 10 ชนิดกันเลยทีเดียว
สุรุโนยุออนเซนที่นิวโตะออนเซน (乳頭温泉郷)
| ที่อยู่ | Japan, Akita, Semboku, Tazawako Tazawa, Sendatsu, 沢国有林50 |
| เว็บไซต์เพิ่มเติม | qkamura |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Tazawako ขึ้นรถบัส Ugo Kotsu สาย Nyuto ซึ่งมุ่งหน้าไปยัง Nyuto Onsenkyo ลงป้าย Kyukamura mae (休暇村前) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที |
3. ทะเลสาบทาซาวะ

เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่นโดยมีความลึกถึง 423 เมตร! นั่นจึงทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ไม่เป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว อีกทั้งยังคงความใสของน้ำและทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ 100%
จุดแลนด์มาร์กสำคัญของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือรูปปั้นหญิงสาวสีทองที่โด่งดังในฐานะตำนานทะเลสาบ เจ้าหญิงเทพมังกรทัตสึโกะ โดยเราจะเห็นว่าบริเวณทะเลสาบจะมีรูปปั้นทองแดง 3 รูปปั้นของเธอตั้งอยู่ ใครสนใจตำนานของเธอคนนี้ว่าทำไมเธอถึงเป็นเทพมังกรสามารถตามอ่านเรื่องราวได้ที่บทความ ลึกที่สุดในญี่ปุ่น! ทะเลสาบทาซาวะกับตำนานเจ้าหญิงเทพมังกรทัตสึโกะ
ทะเลสาบทาซาวะ (田沢湖)
| ที่อยู่ | Semboku, Akita, Japan |
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมงทุกวัน |
| วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟ JR East ไปลงที่สถานี Tazawako จากนั้นต่อรถบัส Ugo Kotsu มุ่งหน้าไปยัง Tazawako Lake และลงที่ป้าย Tazawa Lake Shore |
4. รถไฟชมธรรมชาติสายอะคิตะ ไนริคุ จูคัน

รถไฟสายไนริคุ จูคันวิ่งผ่านตอนกลางของจังหวัดอาคิตะ จากสถานีทาคาโนสุ ไปยังสถานีคาคุโนดาเดะ เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากโดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูร้อน ที่มาชมความสวยงามของศิลปะบนท้องทุ่งนาที่เรียกว่าทันโบะอาร์ต (Tanbo Art) ที่จะมีประจำทุกปี แต่ละปีจะเปลี่ยนไปตามไอเดียของผู้ออกแบบ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลเป็นฝีมือของเด็กนักเรียนในพื้นที่นั้นเอง
รถไฟชมธรรมชาติสายอะคิตะ ไนริคุ จูคัน (秋田内陸縦貫鉄道秋田内陸線)
| แพ็กเกจตั๋วรถไฟสาย Akita Nairiku | One-Day Pass (สามารถใช้เดินทางได้ไม่จำกัดจำนวนเที่ยว) แบ่งเป็น -ตั๋วโดยสารแบบทุกสถานี (ตั้งแต่สถานี Takanosu ถึงสถานี Kakunodate) ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็ก 1,250 เยน -ตั๋วโดยสารแบบ A (ตั้งแต่สถานี Takanosu ถึงสถานี Matsuba) ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน -ตั๋วโดยสารแบบ B (ตั้งแต่สถานี Ani-Maeda onsen ถึงสถานี Kakunodate) ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน |
| เว็บไซต์เพิ่มเติม | akita-nairiku |
5. พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ

นามาฮาเกะ เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดอาคิตะ คนในสมัยก่อนเชื่อว่านามาฮาเกะหรือยักษ์พวกนี้จะถูกส่งมาจากเทพเจ้าป่าเขาเพื่อให้ปัดเป่ากำจัดสิ่งชั่วร้ายให้กับคนในหมู่บ้าน ซึ่งมีการทำเป็นเทศกาลคือจะให้ชายหนุ่มในหมู่บ้านสวมหน้ากากยักษ์และคลุมตัวด้วยเสื้อฟาง ถือมีดกับกระบองแล้ววิ่งไปตามหมู่บ้านเพื่อหลอกเด็กที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่
ในปัจจุบันนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับนามาฮาเกะ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงวิธีทำเสื้อคลุมฟาง หน้ากากยักษ์ มีโรงหนังเล็ก ๆ ดูความเป็นมาของนามาฮาเกะ และสามารถลองสวมชุดนามาฮาเกะถ่ายรูปได้อีกด้วย ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมตามไปอ่านได้ที่บทความ พบปะยักษ์นามาฮาเกะ สมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านญี่ปุ่นที่ “พิพิธภัณฑ์บ้านนามาฮาเกะ” จังหวัดอาคิตะ!
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ (なまはげ館)
| ที่อยู่ | Mizukuisawa Kitaurashinzan, Oga, Akita 010-0685, Japan |
| เวลาทำการ | 08.30 น. – 17.00 น. |
| ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 540 เยน เด็กวัยประถม มัธยมต้น/ปลาย 270 เยน |
| วิธีเดินทาง | ขึ้นรถไฟ JR สาย Oga ไปลงที่สถานี Hadashi นั่งแท็กซี่ต่ออีกประมาณ 15 นาที |
6. พิพิธภัณฑ์คามาคุระ หรือคามาคุระคัง
เทศกาลโยโคเตะ คามาคุระ มีมายาวนานประมาณ 400 กว่าปี จัดขึ้นในวันที่ 15 – 16 กุมภาพันธ์ของทุกปีทั่วทั้งเมืองโยโคเตะ โดยการสร้างกระท่อมน้ำแข็งที่มีขนาดสำหรับคนประมาณ 3 – 4 คนมานั่งรอบกองไฟเล็กๆ มีแท่นบูชาสลักติดไว้บนผนังน้ำแข็งเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งน้ำ และจะมีเด็กๆ มาพูดเชิญชวนว่า “ไฮเตะตันเส (ขอเชิญเข้ามาในคามาคุระ)” พร้อมกับแจกอะมะสาเก (เหล้าหวาน) และโมจิ
พิพิพิธภัณฑ์คามาคุระ หรือคามาคุระคัง (かまくら館)
| ที่อยู่ | 8-12 Chuomachi, Yokote, Akita 013-0023, Japan |
| เวลาทำการ | 9.00-17.00 น *ปิด 29 ธันวาคมถึง 3 มกราคม (อาจมีการปิดชั่วคราวอื่นๆ) |
| ค่าเข้าชม | Fantastic Gallery 100 เยน |
| เว็บไซต์เพิ่มเติม | kamakurakan |
| วิธีเดินทาง | ลงรถไฟ JR ที่สถานี Yokote เดินประมาณ 10 นาที |
7. สวนสาธารณะเซนชู

สวนสาธารณะประจำจังหวัดอาคิตะ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสวยงามมากมายอย่างต้นซากุระและต้นสึสึจิ หากเดินทางมาช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม จะเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงและความสวยงามมากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งปราสาทคุโบตะมาก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะและภายในสวนยังมีศาลเจ้าและรูปปั้นของ Yoshiaki Satake ผู้ปกครองดินแดนและเป็นเจ้าของปราสาทคุโบตะนี้ด้วยค่ะ แถมบริเวณรอบข้างยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่น มีป้อมโอซุมิยางุระ ที่เคยใช้เป็นที่เก็บอาวุธและหอสังเกตการณ์ของปราสาทมาก่อน แต่ในปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวิติศาสตร์ความเป็นมาของอาคิตะซึ่งเราสามารถมองเห็นวิวเมืองได้แบบพาโนรามาเลยค่ะ
สวนสาธารณะเซนชู (千秋公園)
| ที่อยู่ | 1 Senshukoen, Akita, 010-0876, Japan |
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Akita เดิน 10 นาที |
8. ศาลเจ้าอะคะกะมิ โกะชาโดะ

ศาลเจ้าแห่งนี้มีบันไดหิน 999 ขั้นที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าถูกสร้างสร้างขึ้นโดยยักษ์หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า นามาฮาเกะ 5 ตนซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ และเชื่อว่าที่นี่เป็นจุดกำเนิดตำนานยักษ์นามาฮาเกะ
ศาลเจ้าอะคะกะมิ โกะชาโดะ (赤神神社 五社堂)
| ที่อยู่ | Japan, 〒010-0535 Akita, Oga, Funagawaminato Honzanmonzen, Haraikawa−28 |
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Oga ขับรถต่ออีก 20 นาที |
9. หินก็อตซิลล่า

เป็นหินที่มีรูปร่างคล้ายกับก็อตซิลล่า ถ้าไปดูตอนเย็นจะคล้ายก็อตซิลล่ากำลังพ่นไฟเลยค่ะ แถมเจ้าหินก็อตซิลล่านี่ก็ได้ออกรายการทีวีทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปเยอะเลย อีกไม่นานก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนมาอย่างล้นหลาม อยู่ที่แหลมชิโอเซะ (Shiose – Saki) เมืองโอกะ จังหวัดอาคิตะ เพื่อน ๆ คนไหนอยากถ่ายกับก็อตซิลล่าก็อย่าลืมไปกันนะคะ
หินก็อตซิลล่า (ゴジラ岩)
| ที่อยู่ | Oga, Akita 010-0535, Japan |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Oga ขึ้นรถบัส Akita Chuo Kotsu เส้นทางที่มุ่งไปยัง Monzen 30 นาที โดยลงที่ป้าย Hokake Island (帆掛島) จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที |
10. โอยาซุเคียว ไดฟุนโต

เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง มีอีกชื่อหนึ่งว่า “จิโกคุกามะ” ซึ่งหมายความว่า “หม้อนรก” เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีไอน้ำพ่นขึ้นมาตามซอกหินส่งเสียงฟู่ฟู่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่หาชมได้ยาก และบริเวณรอบ ๆ ก็มีออนเซนถึง 11 บ่อเลยค่ะ เชื่อกันว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ด้วยนะ ถ้าไปตามช่วงใบไม้ผลิ ใบไม้เปลี่ยนสีหรือหน้าหนาวก็ชมความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบได้
โอยาซุเคียว ไดฟุนโต (小安峡大噴湯)
| ที่อยู่ | Aratokoro Minase, Yuzawa, Akita 012-0183, Japan |
| เวลาทำการ | เปิด 24 ชั่วโมง |
| เว็บไซต์เพิ่มเติม | tohokukanko |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Yuzawa ต่อรถบัส 70 นาที |
ทริปญี่ปุ่นครั้งหน้า ไปอาคิตะกัน!
จังหวัดอาคิตะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะยังคงความเป็นธรรมชาติเอาไว้เกือบ 100% ถ้าเป็นคนรักธรรมชาติอยู่แล้ว หากได้ไปเยือนสักครั้งหนึ่งแน่นอนว่าต้องรู้สึกประทับใจและมีความสุขไปกับสถานที่ที่มีทั้งประวัติศาสตร์มากมายหรือความสวยงามของธรรมชาติที่จะเปลี่ยนแปลงกันไปตามฤดูทั้ง 4 ทำให้มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ณ จังหวัดอาคิตะแห่งนี้แน่นอน
จังหวัดนี้ยังเป็นถิ่นกำเนิดของน้องหมาสายพันธุ์อาคิตะและเป็นบ้านเกิดของสุนัขชื่อดังอย่างฮาจิโกะด้วยนะคะ ใครสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามไปอ่านกันได้ที่บทความ ฮาจิโกะไม่ได้มีแค่ที่ชิบูย่า! พาไปรู้จัก “เมืองโอดาเตะ” จังหวัดอาคิตะ บ้านเกิดที่แท้จริงของฮาจิโกะ