ศาลเจ้าโทกาคุชิ

ชินโตเป็นความเชื่อที่ฝังรากลึกในความเชื่อของคนญี่ปุ่น ทำให้เราเห็นศาลเจ้ามากมายหลายแห่งทั่วญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนานได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้จะมาแนะนำศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดนากาโนะ ที่มีระดับความสูงเกือบ 2,000 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปีแม้ในช่วงฤดูร้อน เพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มและทะเลสาบที่มีนํ้าใสเหมือนกระจก ช่วยปลอมประโลมจิตใจและร่างกายได้เป็นอย่างดี

ตำนานการกำเนิดภูเขาโทกาคุชิ

ภูเขาโทกาคุชิ

ศาลเจ้าโทกาคุชิ (Togakushi Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโต ในเมืองโทกาคุชิ จังหวัดนากาโนะ ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาโทกาคุชิ ในอุทยานแห่งชาติเมียวโค-โทงาคุชิ เรนซัน (Myoko-Togakushi Renzan National Park) โดยเป็นศาลเจ้าที่มีพื้นฐานมาจากตำนานเทพปกรณัมญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องราวของ “ถํ้าอามะ โนะ อิวาโตะ (Ama-no-Iwato)” ซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวของ “เทพีอามาเทราสึ” หรือเทพีแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์ญี่ปุ่น

ตามตำนานเล่าว่า เทพีอามาเทราสึรู้สึกทนไม่ได้กับพฤติกรรมอันรุนแรงของ เทพซูซาโนโอะ (Susanoo-no-Mikoto) ซึ่งเป็นน้องชาย จึงหนีไปซ่อนตัวอยู่ในถํ้า และทำให้โลกและสวรรค์ตกอยู่ในความมืดมิด เหล่าทวยเทพจึงต้องหาทางร่วมมือร่วมใจกันหลอกล่อให้เทพีออกจากถํ้าเพื่อนำแสงสว่างกลับคืนมา โดย โอมิคาเนะ (Ame-no-Yagokoro-Omoikane-no-Mikoto)” เทพเจ้าแห่งสติปัญญา ได้ทำการวางแผนจัดเทศกาลรื่นเริง โดยให้ อาเมะโนะอุสุเมะ (Ame-no-Uzume-no-Mikoto) เทพแห่งความรื่นเริง ทำการร้องเพลง เต้นรำ อย่างครึกครื้นอยู่หน้าถ้ำ

ซึ่งก็ได้ผล เพราะเมื่อเทพีอามาเทราสึได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานของเทพองค์อื่น ๆ ก็เกิดความไคร่รู้ จึงเดินออกมาตรงปากถ้ำเพื่อพยายามจะส่องดู และก็ได้พบกับภาพการเต้นรำอันงดงามของ อาเมะโนะอุสุเมะ ด้วยความตื่นตะลึงเธอจึงแง้มประตูถ้ำเปิดออกในที่สุด ตอนนั้นเองเทพโอมิคาเนะก็ได้สั่งให้ ทาจิคาราโอะ (Ame-no-Tachikarao-no-Mikoto) เทพแห่งพละกำลัง ดึงเธอออกมาจากถ้ำและรีบใช้เชือก Shimenawa จับกุมทันที

เชือก shimenawa ที่มักพบตามศาลเจ้าญี่ปุ่น

สุดท้ายเพื่อไม่ให้เทพีแห่งดวงอาทิตย์กลับเข้าไปในถ้ำอีก จึงดลบันดาลให้เกิดลมพัดหอบเอา ถํ้าอามะ โนะ อิวาโตะ ตกลงเบื้องล่าง จนเกิดเป็นภูเขาโทกาคุชิซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าในปัจจุบันนั่นเอง

ศาลเจ้าโทกาคุชิ การผสมผสานระหว่างพุทธศาสนากับชินโต

ศาลเจ้าโทกาคุชิ

ศาลเจ้าโทกาคุชิ ถือเป็นเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับตำนาน ดังกล่าว โดยในสมัยเอโดะ (ค.ศ.1603 – 1868) เคยเป็นวัดของ นิกายเทนได (นิกายที่มีแนวความเชื่อผสมผสานระหว่างชินโตและพุทธศาสนา) มาก่อน เล่ากันว่าในสมัยนั้นมีผู้มีจิตศรัทธามากมายทั่วประเทศเดินทางมาสักการะบูชาที่นี่ จนกระทั่งกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านปฏิบัติธรรมและตรัสรู้ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ช่วงต้นสมัยเมจิ มีการแยกพุทธศาสนาออกจากชินโต ศาลเจ้าโทกาคุชิ ซึ่งเป็นตัวแทนของความผสมผสาน 2 สิ่งนั้น จึงต้องเผชิญหน้ากับการถูกบีบให้เลือกข้างอย่างช่วยไม่ได้

สุดท้ายเมื่อมองจากที่ศาลเจ้าโทกาคุชิเกี่ยวโยงกับความศรัทธาบนบนภูเขาของคนโบราณมาอย่างยาวนาน แง่มุมทางพุทธศาสนาจึงถูกลบเลือนไปและกลายเป็นศาลเจ้าชินโตในที่สุด

ทั้งนี้ก็ใช่ว่าความผสมผสานระหว่างพุทธศาสนากับชินโตจะหายไปเลย เพราะในปัจจุบัน ศาลเจ้าก็มีบริการที่เรียกว่า “ชุคุโบ (Shukubo)” หรือประสบการณ์ พักแรมในวัด ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีแนวทางปฏิบัติของนักบวชและความเชื่อที่ผสมผสานระหว่างชินโตและพุทธศาสนาอย่างใกล้ชิดอยู่เช่นกันค่ะ

ศาลเจ้าทั้ง 5 บนภูเขาโทกาคุชิ

ภายในศาลเจ้าโทงาคุชิประกอบด้วยศาลเจ้าอีก 5 แห่ง ได้แก่ ศาลเจ้าโฮโคชะ ศาลเจ้าฮิโนมิโคชะ ศาลเจ้าชูชะ ศาลเจ้าโอคุชะ และศาลเจ้าคุซุริวชะ โดยศาลเจ้าแต่ละแห่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม. ทางเดินขึ้นไปสักการะศาลเจ้าแต่ละแห่งจะโอบล้อมไปด้วยต้นสนญี่ปุ่นขนาดใหญ่อายุเกือบพันปี ให้ความรู้สึกร่มเย็นช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ วิธีการขึ้นไปสักการะศาลเจ้าแต่ละแห่งสามารถทำได้ 2 แบบคือ เดินเขาแบบเทรกกิ้ง หรือขับรถขึ้นไปจอดที่ศาลเจ้าแต่ละจุด (ยกเว้นศาลเจ้าโอคุชะ และศาลเจ้าคุซุริวชะที่ต้องจอดรถและเดินต่อประมาณ 40 นาที)

1. ศาลเจ้าโฮโคชะ

ศาลเจ้าโฮโคชะ

เมื่อเดินขึ้นจากตีนเขา เราจะพบกับศาลเจ้าแห่งนี้เป็นอันดับแรกค่ะ! องค์เทพประดิษฐานของที่นี่คือ “อุวะฮารุ (Ame-no-Uwaharu-no-Mikoto)” เป็นเทพแห่งความสำเร็จด้านการบุกเบิกลงทุน ด้านวิชาการ ความบันเทิง การตัดเย็บ การคลอดบุตรอย่างปลอดภัย และการคุ้มครองสตรีและเด็ก ถ้าเดินไปตามทางเดินที่มีต้นสนญี่ปุ่นเรียงรายและขึ้นบันไดหิน ก็จะนำไปสู่ห้องโถงศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ที่ตกแต่งโดยผสมผสานความเชื่อของชินโตและพุทธศาสนาเข้าด้วยกัน

2. ศาลเจ้าฮิโนมิโคชะ

ศาลเจ้าฮิโนมิโคชะ

ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่สอง สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้า 4 องค์ ที่มี “เทพอาเมะโนะอุซุเมะ (Ame-no-Uzume-no-Mikoto)” ผู้เต้นรำอยู่หน้าถํ้าอามะ โนะ อิวาโตะ เพื่อหลอกล่อให้เทพีแห่งดวงอาทิตย์ออกมา เป็นองค์หลัก ซึ่งเหล่านักบวชที่นี่ก็ยังคงรักษาและสืบทอดเพลงการเต้นรำนั้นจวบจนถึงปัจจุบัน

อาเมะโนะอุซุเมะ
ภาพวาดการเต้นรำของเทพอาเมะโนะอุซุเมะ

คนส่วนใหญ่นิยมมาศาลเจ้าแห่งนี้เพื่อขอพรด้านการแต่งงาน ความรัก การป้องกันไฟ และสายงานด้านบันเทิง อีกทั้งใกล้ ๆ กับศาลเจ้ายังมีต้นสนญี่ปุ่นยักษ์สองต้นที่มีอายุมากกว่า 500 ปีให้ได้ชมความสวยงามอีกด้วยนะคะ

3. ศาลเจ้าชูชะ

ศาลเจ้าที่ 3 แห่งนี้ถือเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุด มีองค์เทพประดิษฐานคือ “เทพโอมิคาเนะ (Ame-no-Yagokoro-Omoikane-no-Mikoto)” ผู้วางแผนและแต่งเพลง การเต้นรำพิเศษที่เรียกว่า “อิวาโตะ คางูระ (Iwato Kagura)” ให้เทพอาเมะโนะอุซุเมะร่ายรำเพื่อหลอกล่อเทพีดวงอาทิตย์ให้ยอมออกมาจากถํ้า โดยเชื่อกันว่าการเต้นรำนั้นเป็นต้นแบบของ ระบำคางูระ ของเหล่านักบวชในปัจจุบันอีกด้วยค่ะ

น้ำตก
น้ำตกที่เชื่อว่าช่วยชำระล้างจิตใจ

ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสื่องด้านความสำเร็จทางวิชาการ กิจการเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ การขับไล่สิ่งชั่วร้าย และความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว บนเพดานของศาลเจ้าตกแต่งด้วยรูปมังกรซึ่งเดิมทีวาดโดยศิลปินฝีมือเยี่ยมจากสำนักจิตรกรรมญี่ปุ่น ใกล้ ๆ กับศาลเจ้า ก็มีต้นสนญี่ปุ่นสามต้นที่มีอายุมากกว่า 800 ปี วางเรียงกันเป็นรูปสามเหลี่ยมโดยมีประตูโทริอิอยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็กตั้งอยู่ทางด้านขวาของศาลเจ้า ว่ากันว่าช่วยชำระล้างจิตใจและร่างกายให้ใสสะอาด ช่วยมอบพลังที่ดีให้กับร่างกายและจิตใจ

4. ศาลเจ้าโอคุฉะ

ศาลเจ้าโอคุฉะ

ต้นสน ศาลเจ้าโอคุฉะ

ในศาลเจ้าทั้ง 5 ที่นี่ถือเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สุด! องค์เทพประดิษฐานคือ “เทพทาจิคาราโอะ (Ame-no-Tachikarao-no-Mikoto)” ตามตำนาน เทพองค์นี้ได้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เปิดประตูถํ้า เพื่อนำเทพีแห่งดวงอาทิตย์ที่ซ่อนตัวอยู่ออกมา คนจึงนิยมมาขอพรเกี่ยวกับความโชคดี สมปรารถนา การเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ดี และชัยชนะในการแข่งขันกีฬา บริเวณประตูทางเข้าศาลเจ้าจะมีต้นสนญี่ปุ่นเรียงรายเป็นแถว เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่งค่ะ!

เทพทาจิคาราโอะ
เทพทาจิคาราโอะ (Ame-no-Tachikarao-no-Mikoto)

5. ศาลเจ้าคุซูริวฉะ

เป็นศาลเจ้าแห่งสุดท้ายบนภูเขาลูกนี้ องค์เทพประดิษฐานคือ “เทพคุซูริว (Kuzuryu-no-Okami)” ได้รับการยกย่องว่าเป็น เทพแห่งน้ำ ฝน ป้องกันฟันผุ การแต่งงานและความรัก เดิมทีเป็นศาลเจ้าบูชาน้ำ และเป็นที่ประดิษฐานเทพมังกรเก้าเศียร ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการไหลของน้ำ 

ธรรมชาติอันงดงามที่ศาลเจ้าโทกาคุชิ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ!? เป็นศาลเจ้าที่มาแค่ทีเดียวแต่ได้สักการะถึง 5 แห่งเชียวแหนะ! คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยใช่ไหม! ตามที่เราเล่าไปข้างต้นทุกคนก็คงจะเห็นแล้วใช่ไหมคะว่าที่นี่เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีเรื่องราวผูกโยงกับตำนานความเชื่อเทพปกรณัมญี่ปุ่นมากแค่ไหน แต่จุดเด่นอีกอย่างก็คือที่นี่ยังรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม ช่วยกระตุ้นความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้โทกาคุชิยังเป็นแหล่งผลิตเส้นโซบะแสนอร่อย ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือน เสร็จจากเที่ยวแล้วก็ลองแวะไปชิมโซบะทำสด ๆ ใหม่ ๆ ของที่นี่ดูนะคะ!

ศาลเจ้าโทกาคุชิ (戸隠神社)

สรุปเนื้อหาจาก : ismedia togakushi-jinja

beniko59

อดีตสาวโตเกียว ชอบดื่มกาแฟ ชอบท่องเที่ยว ชอบกินขนม และชอบยามะพี

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า