พูดถึงสินค้าพิเศษที่ถือเป็นตัวแทนของจังหวัดชิซูโอกะที่ขาดไม่ได้ก็คือชาเขียว หากไปเที่ยวที่จังหวัดนี้จะสามารถดื่มชาญี่ปุ่นแท้ ๆ คุณภาพเยี่ยม อีกทั้งยังมีขนมหวานจากชาเขียวที่แสนพิถีพิถันมากมายหลายร้าน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำร้านชายอดนิยมที่สามารถมาจิบชาผ่อนคลายอารมณ์และเพลิดเพลินไปกับขนมหวานจากชาเขียวสุดพิเศษของจังหวัดชิซูโอกะ ใครมีแพลนไปเที่ยวจังหวัดนี้เตรียมไปตามลิสต์ได้เลย

1. Nanaya Shizuoka

ร้านแรกเริ่มกันที่ร้าน Nanaya Shizuoka ร้านชาเขียวชื่อดังกลางเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมากจาก “มัทฉะเจลาโต้ที่เข้มที่สุดในโลก” ใครเป็นสายมัทฉะขม ๆ จะต้องถูกใจแน่นอน นอกจากเจลาโต้แล้วก็ยังมีช็อกโกแลตชาเขียวที่มีความเข้มต่างกันหลายแบบ จะเข้าไปนั่งทานในร้านหรือซื้อแล้วเดินทานชิล ๆ ก็ได้เช่นกัน ร้านนี้ดำเนินการโดย Marushichi Seicha ร้านชาเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1907 ในชิซูโอกะยังมีอีก 2 สาขาคือสาขา Fujieda และสาขา sud-ouest Makinohara

Nanaya Shizuoka

2. aardvark tea Astand

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย aardvark tea Astand / アードバークティーエースタンド (@aardvarktea_astand)

หากใครชื่นชอบชาสีใสแบบที่ไม่ใช่มัทฉะ ขอแนะนำร้าน aardvark tea Astand ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเซ็นเก็นโดริ หน้าศาลเจ้า Shizuoka Sengen โดยเป็น Tea Stand สุดเก๋ที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของไม้

ร้านนี้จะมีพวกเครื่องดื่มจากใบชาซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลผลิตในจังหวัดชิซูโอกะเอง เมื่อนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรต่าง ๆ ก็ยังดื่มง่าย! หากได้ลิ้มลองแล้วจะสัมผัสได้ถึงรสชาติอันประณีตจากพืชพรรณมากมาย ช่วยให้สดชื่นแต่ก็ผ่อนคลายไปในตัว นอกจากนี้ยังมีเมนูตามฤดูกาลอีกด้วยนะ

aardvark tea Astand

3. CHA10

ร้านต่อมาคือร้าน CHA10 ตกแต่งหน้าร้านด้วยสีฟ้าสดใสและผนังลอฟต์ทันสมัย เป็นร้านที่มาในธีม “อ่อนโยนต่อร่างกาย” สามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มมัทฉะออร์แกนิกของชิซูโอกะ รวมถึงขนมหวานแบบวีแกนที่ไม่มีส่วนผสมของไข่ นม และน้ำตาลทรายขาว เครื่องดื่มยอดนิยมคือ NITRO Matcha ซึ่งจะใช้ไนโตรเจนในมัทฉะออร์แกนิกที่ใส่น้ำตาลชูการ์บีท เป็นเครื่องดื่มมัทฉะแปลกใหม่ที่ทั้งเข้มข้นแถมยังนุ่มละลายในปาก

ร้าน CHA10

4. Maruzen Tea Roastery

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย 萌 ⑅⃛ 静岡カフェ (@pori_____nu)

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย あさ|ご褒美グルメ&おうちカフェガイド (@asako_nishi)

ร้านต่อมาคือร้าน Maruzen Tea Roastery ก่อตั้งโดยบริษัท Maruzen Seicha ผู้ผลิตและค้าส่งชาที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 70 ปี ปัจจุบันสืบทอดกิจการโดยบริษัท WithFun Food เป็นร้านที่มีโซนคั่วชาเพื่อใช้คั่วชาคุณภาพสูงที่ดีที่สุดของจังหวัดชิซูโอกะ มีใบชาที่คั่วในอุณหภูมิ 100°C, 130°C, 160°C และ 200°C แถมยังมีเจลาโต้จากใบชาที่คั่วในอุณหภูมิต่างกัน เลือกได้ตามความชอบ และไม่ได้มีเพียงเซนฉะเท่านั้นแต่ยังรวมถึงเกียวคุโระและโฮจิฉะด้วย จัดว่าเป็นร้านที่นำเสนอวิธีใหม่ ๆ ในการเพลิดเพลินกับชาญี่ปุ่น สามารถมาสัมผัสรสชาติที่แตกต่างไปตามอุณหภูมิการคั่วได้ที่ร้านนี้เลย

Maruzen Tea Roastery

5. T’s green omachi

ร้านต่อมาคือร้าน T’s green omachi มีเครื่องดื่มชาเขียวให้เลือกมากมาย พร้อมทั้งขนมหวานนานาชนิดให้เลือกเป็นเซ็ตสำหรับทานคู่กับชา แนะนำเป็นเซ็ต Green Emerald มีทั้งอาเกะดังโงะ คารินโตมันจู นามะช็อกโกแลตมัทฉะ ไอศกรีมคาราเมลมัทฉะ มัทฉะพานนาคอตต้า มัทฉะวาราบิโมจิ และเครื่องดื่มมัทฉะตามชอบ ทั้งสีสัน รูปร่าง และการจัดเสิร์ฟก็ดูน่ารักจนอยากจะถ่ายรูปแน่นอน สามารถสนุกสนานไปกับชาอร่อย ๆ และขนมหวานน่ารัก ๆ ได้ที่นี่

ร้าน T’s green omachi

6. Nagomi Organic Matcha Cafe

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย Rin (@ri1nka26)

ร้านต่อมาคือร้าน Nagomi Organic Matcha Cafe เพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มมัทฉะและขนมหวานมัทฉะที่ทำอย่างพิถีพิถัน เมนูมัทฉะทั้งหมดใช้มัทฉะที่ปลูกแบบออร์แกนิก สำหรับมัทฉะลาเต้สามารถเลือกความเข้มของมัทฉะได้จากทั้งหมด 4 เลเวล ขนมมีรสชาติเข้มข้นแต่ไม่หวานจนเกินไป เมนูขนมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ มัทฉะเทอร์รีนเนื้อเนียนนุ่ม เหมาะกับชารสชาติเข้ม ๆ อย่างมาก ภายในร้านตกแต่งในบรรยากาศเรโทรโมเดิร์น สามารถมาใช้เวลากับมัทฉะออร์แกนิกในบรรยากาศที่ผ่อนคลายได้สบาย ๆ จนถึงเที่ยงคืน!

Nagomi Organic Matcha Cafe

7. Chaluck

ร้านต่อมาคือร้าน Chaluck (茶楽) เป็นร้านที่ดำเนินการโดย Charaku Yamanashi Shoten ผู้ค้าส่งชาที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1925 ร้านนี้ให้ความสำคัญต่อเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ที่ปลูก โดยมีชาด้วยกันทั้งหมด 5 ประเภทที่แนะนำในแต่ละฤดูกาล และสามารถเพลิดเพลินไปกับชาที่ชงจากกาต้มน้ำได้แบบสดใหม่

บรรยากาศภายในร้านก็ตกแต่งสไตล์บ้านโบราณที่รายล้อมไปด้วยความอบอุ่นของไม้ มีเพลงแจ๊สเปิดคลอเบา ๆ เมนูมัทฉะก็มีทั้ง อันมิทสึผลไม้ มัทฉะโอชิรุโกะ มัทฉะครีมเซนไซ มัทฉะชีสเค้ก และที่ห้ามพลาดเลยก็คือ “ชาผลไม้ชิซูโอกะ” ที่สามารถดึงเสน่ห์ของชิซูโอกะออกมาได้อย่างดีเยี่ยม

Chaluck

8. Kimikura Cafe

ร้านสุดท้ายคือร้าน Kimikura Cafe ร้านนี้ไม่ได้อยู่ในเมืองชิซูโอกะแต่อยู่ที่เมืองคาเคกาวะไม่ไกลกัน เป็นร้านที่สามารถมาใช้เวลาผ่อนคลายกับชาแบบสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของสวน Oike ด้วยแนวคิด “โอเอซิสแห่งชา เวลา และผู้คน” มีมัทฉะลาเต้เป็นซิกเนเจอร์ ขนมหวานมัทฉะ และอาหารกลางวันสุดพิเศษ ของหวานจากมัทฉะมีทั้งซอฟต์ครีม มัทฉะพาร์เฟ่ต์ มัทฉะทีรามิสุ มัทฉะกาโตว์ และเซ็ตรวมขนมมัทฉะหน้าตาสวยงาม บางเมนูซื้อแบบเทคเอาท์ได้ และยังเป็นร้านแบบ Pet Friendly อีกด้วย

ร้าน Kimikura Cafe

จังหวัดชิซูโอกะ

เนื่องจากชิซูโอกะเป็นพื้นที่แห่งการผลิตชา ทำให้มีเครื่องดื่มและขนมจากชาเขียวแสนอร่อยมากมายอยู่ทั่วจังหวัด แถมยังมีรสชาติและความเข้มข้นที่หลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของใบชาและอุณหภูมิการคั่ว ถือเป็นจังหวัดที่เหมาะกับคนรักชาเขียว มาเดินเที่ยวตระเวนชิมชาได้แบบฟิน ๆ

สรุปเนื้อหาจาก shizuoka.hellonavi

AsmarCat

นักเขียนทาสแมวที่คอสเพลย์เป็นงานอดิเรก ชื่นชอบ Pop Culture ของญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ดูเมะ ฟังเพลง และ Cafe Hopping มามองญี่ปุ่นในมุมใหม่ ๆ ไปด้วยกันนะคะ

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า