สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น JR Times by JR East ก็เป็นเว็บหนึ่งที่เหมาะกับการทำการบ้านเพื่อเตรียมทริปลุยญี่ปุ่นค่ะ โดย JR Times by JR East เป็นเว็บไซต์ที่รวมทุกบทความเกี่ยวกับรถไฟที่นักท่องเที่ยวต้องรู้ ซึ่งรวมถึงบทความรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ ห้ามพลาดที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟ JR East อีกมากมาย!
บทความนี้เป็นบทความที่คนอยากเก็บภาพฤดูใบไม้ร่วงอ่านเพื่อปักหมุดกันได้เลย! เพราะ คุณ Carissa จะพาพวกเราไปดูจุดชมใบไม้ร่วงที่สวยขึ้นชื่อแห่งชินเอ็ทสึ (พื้นที่จังหวัดนากาโนะและนีงาตะ) โดยรอบนี้เราจะมาที่จังหวัดนีงาตะซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งอาหารอร่อย ๆ แล้ว ยังเป็นแหล่งจุดชมใบไม้แดงยอดฮิตแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย
ใบไม้ร่วงสวยต้องชินเอ็ทสึ ตอนที่ 2: ใบไม้แดงน่าชมแห่งจังหวัดนีงาตะ
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นหนึ่งในฤดูกาลโปรดของคุณหรือไม่? ด้วยแมกไม้หลากสีสัน ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศเย็นสดชื่นประจำฤดู ทำให้ฤดูนี้เป็นฤดูกาลโปรดของฉันแน่ๆ แล้วคนหนึ่ง! ใน ตอนที่ 1 ของซีรี่ส์นี้ ฉันได้แนะนำจุดชมใบไม้แดงจุดโปรดของฉันในจังหวัดนากาโนะไปแล้วบางแห่ง และใน ตอนที่ 2 นี้เราจะไปกันที่อีกพื้นที่หนึ่งแห่งชินเอ็ทสึ (信越 Shin’etsu) นั่นก็คือจังหวัดนีงาตะ (新潟県 Niigata-ken) ชินเอ็ทสึ (信越 Shin’etsu) เป็นชื่อเรียกพื้นที่จังหวัดนากาโนะและนีงาตะ และมีที่มาจากอักษรแรกของชินชู (信州 ชื่อเก่าจังหวัดนากาโนะ) และเอจิโกะ (越後 ชื่อเก่าจังหวัดนีงาตะ)
นีงาตะเป็นจังหวัดที่มีจำนวนสกีรีสอร์ทเยอะที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นจังหวัดที่มีภูเขาสูงและปริมาณหิมะตกมาก ปัจจัยดังกล่าวนี้ยังเป็นปัจจัยชั้นดีที่เอื้อต่อการผลิตข้าวและสาเกรสเลิศ ซึ่งเป็นสองผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อของนีงาตะ แม้ว่าฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับการมาเยือนนีงาตะ แต่ฉันอยากบอกว่าฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูกาลที่สวยงามควรค่าแก่การมาเที่ยว อีกทั้งยังมีอากาศเย็นๆ และวิวสวยงามให้ชื่นชมกัน
ในบทความนี้ ฉันจะแนะนำสถานที่ห้ามพลาดสำหรับการชมสีสันสวยงามแห่งฤดูใบไม้ร่วงของจังหวัดนีงาตะ ไม่ต้องห่วง สถานที่ทั้งหมดนี้สามารถไปถึงได้ง่ายโดยนั่งรถบัสหรือเดินเท้าจากสถานีที่ใกล้ที่สุด คุณพร้อมหรือยัง? ไปกันเลย!
1. Dragondola
ช่วงชมใบไม้แดง: กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ นีงาตะเป็นจังหวัดที่มีสกีรีสอร์ทมากมาย หนึ่งในนั้นคือนาเอบะ (苗場 Naeba) โดยในฤดูหนาวนาเอบะจะเป็นสวรรค์ของบรรดานักสกี แต่ในฤดูใบไม้ร่วงผู้คนจะพากันมาที่นี่ด้วยอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นคือการชมสีสันละลานตาแห่งฤดูใบไม้ร่วงจาก Dragondola (ドラゴンドラ Doragondora) กระเช้าลอยฟ้าสุดพิเศษ
ด้วยระยะทางที่ยาวถึง 5,481 ม. นี้ ทำให้ Dragondola เป็นเส้นทางกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่น และการนั่งกระเช้าลอยฟ้านี้ใช้เวลาราว 25 นาทีสำหรับขาไปขาเดียว ระหว่างที่นั่งกระเช้านี้ คุณสามารถชมสีสันฤดูใบไม้ร่วงโดยรอบแบบชิว ๆ ได้ และบรรดาใบไม้สีเหลืองและส้มสดใสเหล่านี้จะทำให้ทั้งภูเขาดูเหมือนกำลังลุกเป็นไฟ!
2. ช่องเขาคิยตสึ
ช่วงชมใบไม้แดง: กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
เมื่อลงไปตามแม่น้ำคิยตสึเราจะเจอกับอีกจุดชมใบไม้แดงที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือ Kiyotsu Gorge Tunnel (清津峡渓谷トンネル Kiyotsukyо̄ keikoku tonneru) ช่องเขาคิยตสึเป็นหนึ่งในสามช่องเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (日本三大峡谷 Nihon Sandai Kyо̄koku) โดยอีกสองช่องเขานั้นได้แก่ ช่องเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge) ในจังหวัดโทยามะและหุบเขาโอสุกิดานิ (Osugidani Valley) ในจังหวัดมิเอะ
Kiyotsu Gorge Tunnel ที่ยาว 750 ม. นี้ถูกสร้างโดยเจาะผ่านเข้าไปข้างในผาเสาหินและมีจุดชมวิวสี่จุดที่ให้เราชมวิวช่องเขาได้แบบพาโนรามา ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ช่องเขาคิยตสึจะมีคนพลุกพล่านมากที่สุดและเป็นช่วงที่วิวที่นี่จะดูราวกับภาพวาด โดยมีองค์ประกอบคือกำแพงผาหินขรุขระตัดกับสีสันละลานตาของแมกไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
แต่ละจุดของจุดชมวิวทั้งสี่นั้นจะให้ประสบการณ์ที่ต่างกันออกไป โดยจุดที่ 4 จะเป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะจะมีภาพเงาสะท้อนบนผืนน้ำด้วย ที่นี่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในฐานะจุดถ่ายรูปลง Instagram ยอดนิยม
3. ป่าบิจินบายาชิ
ช่วงชมใบไม้แดง: ต้น-กลางเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน บิจินบายาชิ (美人林 ป่าหญิงงาม) เป็นสถานที่ที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาดก็ไม่ปาน โดยมีต้นบีชสวยงามที่มีลำต้นผอมตรงซึ่งดูราวกับกำลังเอื้อมขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้จะเป็นสถานที่ที่ชาวต่างชาติไม่ค่อยรู้จักนัก แต่ป่าบิจินบายาชิกำลังกลายเป็นจุด “อาบป่า” ที่มีชื่อเสียงในกลุ่มนักท่องเที่ยวท้องถิ่นชาวญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว
ในฤดูใบไม้ร่วง ต้นบีชของป่าบิจินบายาชิจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มสวยงาม และเมื่อรวมกับเงาสะท้อนที่สวยไร้ที่ติของป่าแห่งนี้บนบึงและแอ่งน้ำต่างๆ แล้ว ทำให้การเดินในป่าแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในภาพวาดเลยก็ว่าได้ การได้สูดหายใจเอาอากาศสดชื่นของฤดูใบไม้ร่วงเข้าปอดและอาบพลังงานแห่งการเยียวยาของธรรมชาติแบบนี้…เป็นอะไรที่ชวนผ่อนคลายสุดๆ ไปเลย!
4. เมียวโกะโคเก็น
เมียวโกะโคเก็น (妙高高原 Myо̄kо̄-kо̄gen) ตั้งอยู่ใน Myoko Togakushi Renzan National Park (妙高戸隠連山国立公園 Myо̄kо̄-Togakushi Renzan Kokuritsu Kо̄en) ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดนากาโนะและนีงาตะ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทนานาชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 1930 ด้วย
ในเวลาอื่นนอกจากช่วงฤดูหนาว เมียวโกะโคเก็นจะเป็นพื้นที่แห่งความงามอันเงียบสงบ และจะสวยงามที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ณ สองจุดชมนี้ ได้แก่บึงอิโมริ (Imori Pond) และน้ำตกนาเอนะ (Naena Falls) ด้วยความที่ทั้งสองที่นี้ตั้งอยู่ไม่ห่างกันนักและสามารถเดินทางไปได้ง่ายด้วยรถบัส ฉันขอแนะนำให้ไปเที่ยวทั้งสองจุดนี้ในทีเดียวเป็นอย่างยิ่ง
4.1 บึงอิโมริ
ช่วงชมใบไม้แดง: กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
บึงอิโมริ (いもり池 Imori-ike) ที่เป็นจุดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมียวโกะโคเก็นแห่งนี้ มีชื่อเสียงเรื่องผืนน้ำที่นิ่งสงบ ซึ่งผิวน้ำที่นี่จะทำหน้าที่ราวกับกระจกที่สะท้อนภาพภูเขาเมียวโกะ (妙高山 Myо̄kо̄-san) ที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ บึงแห่งนี้มีเส้นรอบวง 500 ม. และมีทางเดินที่ราบเรียบทอดตัวอยู่รอบๆ ทางเดินกว้างเส้นนี้ใช้เวลาราว 15 นาทีในการเดินให้รอบและเป็นเส้นทางที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์รอบข้างสุดประทับใจและสงบได้ ซึ่งจะสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
4.2 น้ำตกนาเอนะ
ช่วงชมใบไม้แดง: กลาง-ปลายเดือนตุลาคม (ต่างกันไปในแต่ละปี)
เพียงนั่งรถบัส 15 นาทีจากบึงอิโมริคุณก็จะมาถึงจุดชมอีกความมหัศจรรย์ของฤดูใบไม้ร่วงแห่งเมียวโกะโคเก็น นั่นคือน้ำตกนาเอนะ (苗名滝 Naena-taki) น้ำตกสุดยิ่งใหญ่ที่มีความสูง 55 เมตรแห่งนี้ติดอันดับ 100 สุดยอดน้ำตกของญี่ปุ่นและสวยโดดเด่นตัดกับหน้าผาหินบะซอลต์ขรุขระ สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับน้ำตกแห่งนี้คือปริมาณน้ำที่ไหลลงมา เสียงน้ำไหลลงมาที่ดังราวกับฟ้าคำรามนั้นดังมากจนแม้จะอยู่ที่ไกลก็ยังได้ยิน โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะเป็นช่วงที่มีน้ำที่ละลายจากภูเขาเมียวโกะเป็นปริมาณมาก ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงที่จะไม่มีน้ำที่ละลายมาแล้ว น้ำตกแห่งนี้จะมีเสียงและน้ำที่กระเซ็นน้อยลง ดังนั้นช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่น่ามาเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อมองจากมุมที่เหมาะคุณจะมองเห็นแมกไม้แดงก่อตัวเป็นรูปหัวใจโดยมีน้ำตกอยู่ตรงกลางด้วย!
5. หุบเขาต้นเมเปิ้ลยาฮิโกะ (สวนยาฮิโกะ)
ช่วงชมใบไม้แดง: ปลายเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
หนึ่งในจุดชมวิวใบไม้แดงที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดนีงาตะก็คือหุบเขาต้นเมเปิ้ลในสวนยาฮิโกะ (弥彦公園もみじ谷 Yahiko Kо̄en Momiji Dani) ซึ่งเต็มไปด้วยบรรดาต้นเมเปิ้ลที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มสุดร้อนแรงในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อรวมกับสะพานคันเก็ทสึ (Kangetsu Bridge) สีชาดสดแล้ว จึงเกิดเป็นทิวทัศน์สวยสะดุดตาซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศให้มาเยี่ยมชม และข้อดีที่สุดก็คือเราสามารถเข้าชมสวนนี้ได้ฟรี และสามารถเดินไปถึงได้ภายใน 1 นาทีจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดด้วย!
6. เมืองนีงาตะ
สุดท้ายนี้ มาปิดท้ายลิสต์สถานที่แนะนำของฉันกันที่เมืองนีงาตะ เมืองหลักของจังหวัดนีงาตะ ในขณะที่สถานที่ก่อนหน้านี้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสวนสาธารณะ แต่คุณสามารถชื่นชมสีสันฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามในเมืองได้ด้วยเช่นกัน มาลองดูสถานที่เหล่านี้บางแห่งกัน
6.1 พักตากอากาศนีงาตะไซโต
ช่วงชมใบไม้แดง: ต้น-กลางเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
บ้านพักตากอากาศนีงาตะไซโต (旧齋藤家別邸 Kyū Saitо̄ke Bettei) เดิมเป็นบ้านพักของพ่อค้าที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1918 โดยไซโต คิจูโร (Saito Kijuro) รุ่นที่สี่ของตระกูลไซโต โดยตระกูลไซโตที่เป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในนีงาตะแห่งนี้เป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวย ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาจากการเดินเรือสินค้าตามเส้นทางเดินเรือคิตามาเอะบุเนะ (北前船) ที่เป็นเส้นทางเดินเรือสายหลักที่ถูกใช้ในยุคเอโดะ (1603–1868)
บ้านพักตากอากาศนีงาตะไซโตถูกออกแบบมาโดยมีคอนเซปต์ในการเชื่อมพื้นที่บ้านและพื้นที่สวน เพื่อให้สามารถชมวิวสวนที่สวยงามได้จากข้างในห้องต่างๆ โดยที่แต่ละห้องจะเปิดให้เห็นวิวสวนในมุมที่ต่างกันไป แม้ว่าคุณจะกำลังชมสวนจากข้างในบ้าน แต่คุณก็จะรู้สึกเหมือนคุณกำลังอยู่ในสวนเลยทีเดียว!
6.2 สวนฮาคุซัน
ช่วงชมใบไม้แดง: กลางเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
สวนฮาคุซัน (白山公園 Hakusan Kо̄en) หนึ่งในสวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นนี้เปิดให้บริการเมื่อปี 1873 และเป็นสวนสไตล์ดัตช์สำหรับเดินเล่น ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สวนที่กว้างขวางและปลอดโปร่งสบายแห่งนี้ติดอันดับ 100 สวนในเมืองที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น (Japan’s 100 Best City Parks) และเป็นที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับฤดูกาลที่เปลี่ยนผ่านทั้งสี่ฤดูได้ โดยในฤดูใบไม้ร่วง บรรดาต้นไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเฉดแดง ส้ม และเหลืองที่สวยจับตา และการได้เดินเล่นใต้ต้นไม้เหล่านี้พลางมองขึ้นไปยังท้องฟ้าสีครามผ่านแมกไม้นั้นเป็นความรู้สึกที่วิเศษสุด ๆ ไปเลย
6.3 Northern Culture Museum
ช่วงชมใบไม้แดง: ต้น-กลางเดือนพฤศจิกายน (ต่างกันไปในแต่ละปี)
ท้ายที่สุดนี้ เรามาปิดท้ายลิสต์จุดชมใบไม้แดงในจังหวัดนีงาตะของฉันกันด้วย Northern Culture Museum แม้ว่าที่นี่จะจัดว่าอยู่ในพื้นที่เมืองนีงาตะ แต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเหมือนบ้านพักตากอากาศนีงาตะไซโตและสวนฮาคุซัน ถึงอย่างนั้นเราสามารถเดินทางไปถึงที่นี่ได้ด้วยรถบัสต่อเดียว และบอกเลยว่าคุ้มค่าแก่การเดินทางไปอย่างแน่นอน
นอกจากชิ้นงานศิลปะและเอกสารต่างๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัดนีงาตะแล้ว Northern Culture Museum ยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงามอีกด้วย ซึ่งจะสวยงามมาก ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อต้นไม้ผลัดไปเป็นใบไม้แดงเต็มที่ สวนแห่งนี้จะมีการเปิดไฟประดับในตอนเย็น ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่เยี่ยมสุด ๆ ไปเลย
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนแพ๊คกระเป๋าไปล่าใบไม้แดงที่นีงาตะ!
มาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าเพื่อน ๆ เริ่มอยากไปเที่ยวเก็บภาพใบไม้แดงที่นีงาตะแต่ยังกังวลเรื่องการเดินทางอยู่ ไปเก็บข้อมูลเตรียมเที่ยวกันต่อที่ “ใบไม้ร่วงสวยต้องชินเอ็ทสึ ตอนที่ 2: ใบไม้แดงน่าชมแห่งจังหวัดนีงาตะ” ซึ่งรวมมาให้หมดแล้วทั้งไฮไลท์ที่น่าดูและวิธีการเดินทางไปยังสถานที่แต่ละที่แบบพร้อมไปตามได้เลย!