โมโตโนสุมิ อินาริ เป็นที่พูดถึงจากภาพเสาโทริอิสีแดงตั้งเรียงรายตัดกับพื้นหลังที่เป็นทะเลสีคราม ทำให้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยงยอดฮิตประจำ จังหวัดยามากุจิ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำจุดถ่ายภาพสวย ๆ เส้นทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิพร้อมเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติที่นี่กันค่ะ!
“โมโตโนสุมิ อินาริ” ศาลเจ้าที่ทั่วโลกให้ความสนใจ!
ในปี ค.ศ.2015 โมโตโนสุมิ อินาริ ได้รับเลือกจากสถานีโทรทัศน์ CNN ของอเมริกา ให้เป็น หนึ่งใน 31 สถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และถือเป็นจุดชมวิวที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลก! ซึ่งจุดที่เรียกความสนใจของผู้คนมากที่สุดนั่นก็คือ เสาโทริอิที่ตั้งเรียงรายและมีทะเลเป็นฉากหลัง การตัดกันของสีแดงจากเสาโทริอิ สีฟ้าของนํ้าทะเล และสีเขียวจากต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ นั้นสวยงามอย่าบอกใครเชียวล่ะ! ผู้คนจำนวนมากทั้งจากญี่ปุ่นและต่างประเทศเอง ก็ต่างต้องแวะเวียนมาชมทิวทัศน์อันงดงามนี้ให้ได้สักครั้ง!
คราวนี้ เรามาดูประวัติของศาลเจ้าแห่งนี้กันสักนิดดีกว่า ย้อนกลับไปในปี 1955 ว่ากันว่าศาลเจ้านี้ถูกสร้างเพื่ออุทิศให้แก่ สุนัขจิ้งจอก ที่มาปรากฏตัวอยู่ข้างเตียงของชาวประมงท้องถิ่นชื่อว่า ฮิโตชิ โอคามูระ พร้อมกับคำทวงถามที่ว่า “ที่พวกเจ้าตกปลาได้ทุกวันนี้เป็นเพราะใคร !?” หลังจากที่โดนทวงถามดังนั้น จึงมีการตกลงให้ตั้งศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อสักการะนั่นเองค่ะ
ปัจจุบันประตูโทริอิ 123 ต้นนั้น ถือเป็นจุดรับพลังที่สามารถมาขอพรได้หลากหลายเรื่อง เพราะเทพเจ้าที่นี่ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องการหาปลาและดูแลความปลอดภัยทางทะเลดังที่ตำนานกล่าวไว้เท่านั้น แต่ยังช่วยในด้านความเจริญรุ่งเรืองของการงาน การเงิน การเดินทาง ความสัมพันธ์ รวมถึงปัดเป่าสิ่งไม่ดี ให้อีกด้วยค่ะ
ทำไมต้องไปเที่ยวที่ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ!
1. เส้นทางสักการะพร้อมวิวหลักล้าน!
เมื่อมาถึงโมโตโนสุมิ อินาริแล้ว แม้ทุกคนอาจจะสังเกตเห็นโทริอิตั้งแต่อยู่ตรงลานจอดรถ แต่ให้ไปเริ่มต้นเส้นทางจากเสาโทอิริที่ด้านล่างสุดแทนนะคะ! โดยให้เดินผ่านลานจอดรถลงไป ก็จะเจอ จุดชมวิว Ryugu no Shiobuki ที่เห็นเสาโทริอิตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล! จุดดังกล่าวถือเป็น จุดเริ่มต้นที่ถูกต้องของเส้นทางชมโมโตโนสุมิ อินาริ ให้เริ่มเดินจากตรงนั้นได้เลยค่ะ!
เมื่อยืนอยู่หน้าเสาโทริอิแล้ว ก็อย่าลืมโค้งคำนับก่อนหนึ่งครั้งด้วยล่ะ! จุดนี้เราก็จะได้เห็นทิวทัศน์ของเสาโทริอิ 123 ต้น ที่เรียงรายราวกับอุโมงค์ สร้างความตื่นตาตื่นใจ แบบที่ใครไปเห็นแล้วก็จะไม่แปลกใจเลยที่ทำไมถึงกลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว!
แต่เสาโทริอินี้ ถูกสร้างขึ้นบนทางลาด ทำให้บางจุดมีความชันเล็กน้อย แต่ระหว่างที่หยุดพักเหนื่อย เราก็ยังสามารถชมทิวทัศน์ของทะเลญี่ปุ่นที่มองเห็นได้ผ่านช่องว่างระหว่างเสาโทริอิ ช่วยเติมพลังกาย พลังใจ ให้เดินต่อไปได้อย่างดีเยี่ยมเชียวล่ะ!
หลังจากเดินต่อไปประมาณ 100 เมตร ในที่สุด เราก็จะพบกับศาลเจ้าหลักเล็ก ๆ ตั้งอยู่ค่ะ ซึ่งศาลเจ้าตรงนี้ ก็สามารถแวะไปสักการะขอพรได้หลากหลายเรื่องอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไม่ว่าจะเรื่องการงาน ความสัมพันธ์ โชคลาภ และการขับไล่สิ่งไม่ดี
หลังจากผ่านเสาโทริอิทั้ง 123 ต้นมาแล้ว คราวนี้จะพบกับภาพทิวทัศน์อันงดงามแล้ว! แต่ถ้าอยากชมวิวที่ไวรัลในโซเซียลมีเดีย แนะนำให้ไปที่ เนินเขาเหนือเสาโทริอิ จะดีกว่าค่ะ เพราะจุดนั้นจะเก็บภาพโมโตโนสุมิ อินาริซึ่งมีเสาโทริอิ 123 ต้น ตั้งอยู่เรียงรายตัดกับทะเลสีฟ้าครามเป็นฉากหลัง ได้ครบกว่า! ทางศาลเจ้าเขาก็ได้ติดเครื่องหมายเป็นรูปกล้องให้ด้วยนะ! มั่นใจได้ว่าสามารถหาจุดถ่ายภาพได้ง่ายและได้ภาพสวย ๆ แน่นอนเลย! สำหรับช่วงเวลาแนะนำก็จะเป็น ช่วยเช้า ซึ่งคนค่อนข้างน้อยค่ะ เพราะพอตกเย็นแล้ว รอบ ๆ นี้จะเริ่มมืด ทำให้มองไม่เห็นเสาโทริอิแล้ว
2. กล่องใส่เหรียญที่โยนเข้ายากที่สุดในญี่ปุ่น!
นอกจากมีทิวทัศน์สวยงามแล้ว ที่ โมโตโนสุมิ อินาริ ยังมีกล่องใส่เหรียญขอพรที่โยนเข้าไปยากที่สุดในญี่ปุ่นด้วย! ตามศาลเจ้าทั่วไปปกติก็จะวางกล่องใส่เหรียญไว้บนพื้น ผู้มาสักการะก็จะสามารถใส่เหรียญลงไปได้ง่าย ๆ ใช่ไหมคะ แต่กล่องใส่เหรียญของโมโตโนสุมิ อินารินั้น วางอยู่บนเสาโทริอิ! ซึ่งมีความสูงประมาณ 6 เมตร ส่วนความสูงของกล่องใส่เหรียญอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร มีการตกแต่งด้วยสุนัขจิ้งจอกเพื่อบ่งบอกถึงตำแหน่งของกล่องโดยที่ว่ากันว่า ถ้าโยนเหรียญลงกล่องได้ ความปรารถนาก็จะเป็นจริง ใครอยากลองก็สามารถลองได้หลายครั้งเท่าที่ต้องการเลยด้วยนะ แต่ใครที่ไม่มีสกิลก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะใกล้ ๆ กับเสาโทริอิที่มีกล่องใส่เหรียญ ก็จะมีกล่องรูปหัวใจตั้งอยู่ด้วย ถ้าโยนไม่ลงจริง ๆ ก็สามารถนำเงินมาใส่ลงในกล่องนี้ได้แทนค่ะ
โมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
| ที่ตั้ง | 498 Yuyatsuo, Nagato, Yamaguchi 759-4712, Japan |
| วันเวลาเปิด-ปิด | เปิดทุกวัน 7.00 น. – 16.30 น. |
| เว็บไซต์ | motonosumi |
| วิธีการเดินทาง | 1) ขับรถ 60 นาทีจาก Mine IC บน Chugoku Expressway 2) นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาทีจาก JR San’in Main Line “Nagato Furuichi Station” หรือ “Hitomaru Station” |
สมัยเรียนเคยได้การบ้านให้แนะนำจังหวัดยามากุจิ ตัวเองกับเพื่อน ๆ ก็เลิ่กลั่กเพราะรู้จักจังหวัดนี้แค่ชื่อ คงไปสู้จังหวัดอื่น ๆ ที่จะเป็นมีสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ อย่าง โตเกียว เกียวโต ฮอกไกโด ไม่ได้ แต่พอได้ลองหาข้อมูลดูแล้วก็ได้รู้ว่าเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์สวยงามไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในญี่ปุ่นเลย มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ต่างจากจังหวัดอื่น บางสถานที่ก็ชวนให้นึกถึงจังหวัดทางใต้ของไทยอีกด้วย ถ้าอยากไปจังหวัดที่ไม่ค่อยแมสในหมู่นักท่องเที่ยวมาก ลองไป เที่ยวจังหวัดยามากุจิ ดูนะคะ!
สรุปเนื้อหาจาก: yamaguchi-tourism, ana.co.jp
