มาเที่ยว ฮอกไกโด นอกจากสถานที่ยอดฮิตอย่างซัปโปโรและฮาโกดาเตะแล้ว ฮอกไกโดยังมีสถานที่และธรรมชาติกว้างขวางให้ออกไปผจญภัย วันนี้เราจะพาทุกคนมาเที่ยว เมืองคุชิโระ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของฮอกไกโด สามารถเดินทางจากสนามบินชินชิโตเสะทางรถไฟJR หรือจะนั่งเครื่องบินมาก็ได้เช่นกัน
ทั้งนี้เมืองคุชิโระมีพื้นที่ใหญ่มาก! การเดินทางเที่ยวหากไม่เช่ารถขับอาจจะต้องใช้เวลาในการเดินทางเยอะ จะดีกว่าไหมถ้าเราได้เที่ยวหนึ่งวันแบบฟิน ๆ ไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องขับรถเอง ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่อยากเที่ยวให้คุ้มค่า วันนี้เราจึงจะมาแชร์ประสบการณ์การไปทัวร์ One Day Trip กับรถบัสท่องเที่ยว Pirika Go แบบหมดเปลือกไปเลยค่ะ!
รถบัสท่องเที่ยว Pirika Go และ White Pirika Go
รถบัสท่องเที่ยว Pirika Go (ピリカ号) นั้นเป็นบัสของบริษัท Akan Bus ให้บริการท่องเที่ยวในเมืองคุชิโระ จังหวัดฮอกไกโดฝั่งตะวันออก โดยจะแบ่งตามฤดูกาลเป็น
- Pirika Go (ピリカ号) เดินทางช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม จะได้บรรยากาศธรรมชาติเขียวชะอุ่ม ทะเลสาบที่สะท้อนวิวภูเขา เดินเล่นสนุกอากาศเย็นสบาย (ปี2024 เริ่มให้บริการวันแรก 20 เมษายน ถึง 27 ตุลาคม ให้บริการทุกวัน) ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 5,600 เยน เด็ก 2,800 เยน
- White Pirika Go (ホワイトピリカ号) เดินทางช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม จะได้บรรยากาศหิมะขาวโพลน ชมนกกระเรียนมงกุฏแดง และหงส์ขาว (ปี2024 เริ่มให้บริการวันแรก 13 มกราคม ถึง 17 มีนาคม ให้บริการทุกวัน) ไป-กลับ ผู้ใหญ่ 6,800 เยน เด็ก 4,200 เยน
รถบัสนี้ จะมีไกด์ด้วย แม้จะบรรยายข้อมูลเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด แต่การบริการสุภาพและการพูดคุยภาษาอังกฤษถือว่าใช้ได้ค่ะ โดยทัวร์นี้ ต้องจองก่อนออกเดินทาง อย่างน้อย 1 วัน ณ ตอนนี้(เดือนพฤษภาคม) จะเปิดจองแค่ Pirika Go เท่านั้น รูทที่เราจะเดินทางคือตามด้านล่างนี้เลย
เตรียมเก็บกระเป๋าออกเดินทาง!
ก่อนออกเดินทาง เราต้องจองที่นั่งผ่านทางเว็บไซต์ akanbus.tourbooking-japan.com (เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษกดไอค่อนรูปโลกด้านขวาบนสุด) หลังจากจองเราจะได้รับอีเมลยืนยันหมายเลขการจอง ซึ่งอีเมลนี้ต้องใช้ในวันเดินทางด้วยนะ
เราเดินทางเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2024 สามารถเลือกจุดขึ้นรถบัสได้ 3 ที่ คือ Kushiro Station Bus Terminal, Kushiro Fisherman’s Wharf Moo, Kushiro Prince Hotel เราเลือกขึ้นรถที่ Kushiro Station Bus Terminal รถจะออกเดินทางเวลา 8:00 ให้เผื่อเวลามาถึงก่อนอย่างน้อย 10 นาที เพราะเราต้องเอาอีเมลไปแลกตั๋วเดินทางมาก่อน จุดแลกอยู่ที่อาคาร Bus Terminal ข้างล่าง Super Hotel (หากขึ้นรถที่จุดอื่นไม่ต้องแลกนะคะ)
ด้วยความที่เรามาไว พอแลกตั๋วเสร็จก็ไปเดินเล่นแถวสถานี เจอร้านขนมปังที่ขายเมนูพิเศษ “ขนมปังพื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระ” มีความดึงเอาที่เที่ยวไฮไลต์อย่างพื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระมาขนาดนี้ เลยซื้อมาลองชิมสักก่อน
ด้านบนจะเป็นขนมคุกกี้ชาเขียว ในเนื้อขนมปังตอนแรกนึกว่าเป็นลูกเกด แต่เป็นถั่วดำ ทานแล้วเข้ากันกับรสชาเขียวและเนื้อขนมปัง ถือว่าเป็นมื้อรองท้องก่อนออกเดินทางได้เลย
หลังจากที่ซื้อขนมปังเรียบร้อย เราก็จะมารอขึ้นรถบัสที่ป้ายรอรถ หมายเลข15 ก่อนเวลาออกรถซัก 20 นาที รถบัส Pirika Go ก็จะมาจอดที่หน้าป้ายพอดี ตรงประตูจะติดป้ายสีเหลืองไว้เลยว่า Pirika ที่นั่งสามารถเลือกได้ตามอิสระ
1 Day Trip คุชิโระ ฮอกไกโด กับรถบัสท่องเที่ยว Pirika Go
1. ทะเลสาบมะชู บ่อน้ำของเทพเจ้า
สถานที่แรกที่รถบัสจอด คือ ทะเลสาบมะชู (Lake Mashu 摩周湖) ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสที่สุดในโลก มีอายุราว 7,000 ปี จะมีจุดชมวิวหลัก ๆ ด้วยกัน 3 ที่ แต่บริเวณที่รถบัสพามาจะเป็นจุดชมวิวลำดับที่ 1 ซึ่งโชคดีมากที่วันเรามาอากาศดีมาก! เลยได้เห็นพื้นน้ำที่สะท้อนวิวของภูเขาด้วย สวยสมชื่อบ่อน้ำเทพเจ้าจริง ๆ
หลังจากที่เราขึ้นมาชมวิวบนดาดฟ้าแล้ว ก็ลงไปซื้อของฝากและแวะทานอาหารที่ด้านล่าง โดยร้านค้าที่นี่สร้างออกมาสวยงามมาก แถมยังมีขนมให้เลือกหลากหลายแบบ เสร็จจากซื้อของก็สามารถไปเดินเล่นได้เพลิน ๆ เสริมให้นิดนึงว่าของทานเล่นเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ซอฟท์ครีมฟ้า ตัวแทนจากทะเลสาบมะชู!
2. ผจญภัยที่ “อิโอซัง” ภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มาดูภูเขาไฟที่ยังคุกกรุ่นด้วยตาตัวเอง! อิโอซัง (IOSAN 硫黄山) นั้นเป็นภูเขาไฟที่ปัจจุบันนี้ก็ยังมีการปะทุอยู่ โดยถ้าเราดูตามหิมะก็จะเห็นว่าบางส่วนยังมีสีเหลืองของกำมะถันเกาะอยู่ หรือบางส่วนก็มีน้ำออนเซนเดือด ๆ ไหลออกมาด้วย (มีป้ายเตือนติดไว้เลยว่าห้ามจับเด็ดขาด) ฉะนั้นการมากับทัวร์ก็รับประกันความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง หรือใครกังวลทางภูเขาก็มีการกั้นโซนให้เราเป็นสัดส่วนสามารถรับชมได้อย่างปลอดภัยแน่นอนค่ะ
ติดกับภูเขา จะมีร้านและที่ให้นั่งชมวิวภูเขาไฟจากด้านในด้วย และไฮไลต์เด็ดที่นี่คือ ไข่ต้มน้ำออนเซน แน่นอนว่าเล่าอ้างขนาดนี้ก็ต้องลองสักหน่อย หลังจากเราซื้อก็มานั่งทานที่โต๊ะ โดยบนโต๊ะก็จะมีม้วนเทปวางไว้ ตอนนั้นเราก็สงสัยว่ามีไว้เพื่ออะไร? จนอ่านคำอธิบาย คือเทปอันนี้มีไว้เพื่อเอาไว้ปอกไข่ต้มนั่นเองค่ะ
วิธีการก็สุดแสนจะง่าย คือให้เอาเทปพันรอบไข่ แล้วตอกให้ทั่วก่อนจะลอกเทปออก ก็จะทำให้ปลอกออกง่าย ไว แถมเปลือกไข่ไม่หล่นเลอะเทอะด้วย! นี่มันสุดยอดนวัตกรรมเลยจริงไหมคะ!?
3. ชายหาดสุนะยุ จากทะเลสาบคุชชะโร
ชายหาดสุนะยุ (Sunayu 砂湯) หนึ่งในทะเลสาบที่อยู่ภายในอุทยานแห่งชาติอะกัง ใต้หาดแห่งนี้มีออนเซนอยู่ด้วย และติดกับหาดก็มีบ่อออนเซนเท้าให้เราแช่เท้าพลางมองวิวทะเลสาบฟิน ๆ ด้านในร้านยังมีน้ำออนเซนให้เราลองดื่มได้ฟรี แต่ที่เด็ดกว่าก็คือถ้ามาช่วงฤดูหนาวมีโอกาสได้เจอหงส์มาเล่นน้ำที่ทะเลสาบด้วยนะ!
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือในร้านเขามีข่าวสมัยก่อนแปะไว้ด้วย โดยจะเป็นข่าวที่มีคนเคยลือกันว่าที่ทะเลสาบคุชชะโระนั้นเคยมีไดโนเสาร์อาศัยอยู่! มีการตั้งชื่อให้น้องด้วยนะคะว่า “คุชชี่”
4. ทะเลสาบอะคัง และหมู่บ้านชาวไอนุ
และเราก็มาถึงจุดไฮไลต์ของทัวร์ครั้งนี้กันแล้วค่ะ! นั่นก็คือ ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan 阿寒湖) ทะเลสาบซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ “มาริโมะ” สาหร่ายสีเขียวก้อนกลม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกสำคัญทางธรรมชาติของญี่ปุ่น
ซึ่งบรรยากาศของที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยร้านค้าตั้งเรียงรายกันเป็นทางยาว มีทั้งร้านของฝากและร้านอาหาร ของฝากส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกผลงานศิลปะจากไม้แกะสลักรูปสัตว์ป่า เช่น หมี สุนัขจิ้งจอก นกกระเรียน เป็นต้น
เดินเล่นสักพัก เราก็มาถึง Ainu Kotan หรือ หมู่บ้านไอนุ (アイヌコタン) ไอนุคือกลุ่มชนเผ่าดั้งเดิมของจังหวัดฮอกไกโด ใช้ชีวิตอาศัยอยู่กับธรรมชาติ ใครได้มาทะเลสาบอะคังแนะนำว่าต้องมาเดินที่นี่เลย! เพราะนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมของความเป็นชาวไอนุแล้ว ร้านรวงแต่ละแห่งซึ่งทอดยาวขึ้นไปตามทางเนิน ยังถูกออกแบบเป็นสไตล์บ้านไม้สุดเก๋!
หลังจากชมหมู่บ้านไอนุ เราก็เดินไปชมทะเลสาบอะคังต่อ ซึ่งไกด์บอกว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจะสามารถขึ้นรถแล่นชมบรรยากาศในทะเลสาบอะคังได้ด้วย น่าเสียดายเรามาช่วงเมษายน (เศร้า)
ขอเสริมเพิ่มเติมสักหน่อย ที่ทะเลสาบอะคังเป็นจุดถ่ายทำของซีรีส์เรื่อง Eye Love You ตอนที่ 6 อีกด้วย เลยถือโอกาสนี้ใช้ความติ่งซีรีส์ แวะถ่ายรูปที่หน้าร้านสักหน่อย
สุดท้าย พอเดินเล่นมาจนเหนื่อย เราก็มาแวะทานซอฟท์ครีมที่ร้าน Bar de Pan ซึ่งตัวซอฟท์ครีมของร้านนี้จะรสชาติออกไปทางหวานเล็กน้อย แต่เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มแถมหอมนมสุด ๆ ไปเลยค่ะ ทั้งนี้ก็ต้องรีบกินนิดนึงนะคะเพราะละลายไวมากเช่นกัน
เราใช้เวลาอยู่ที่ทะเลสาบอะคังถึง 2 ชั่วโมง แต่กลับรู้สึกว่าผ่านไปไวเพียงกะพริบตาก็ถึงเวลาต้องเดินทางกลับแล้ว โดย ระหว่างทางกลับ ไกด์ก็มีการแจกขนมมาริโมะโยกัง เป็นวุ้นถั่วกวนทรงกลมสีเหลี่ยมเหมือนมาริโมะ ตอนทานเราก็จะใช้วิธีเอาไม้ที่แถมมาเจาะเข้าไปให้ถุงหุ้มแตกก่อนค่อยรับประทาน หลังจากนั้นรู้ตัวอีกทีเราก็เดินทางกลับมาถึงที่สถานีเป็นที่สิ้นสุดทัวร์วันนี้ค่ะ
ความประทับใจกับบัสทัวร์ Pirika Go จาก One Day Trip!
เป็นทัวร์หนึ่งวันที่คุ้มค่ามาก ๆ ประหยัดเวลาแล้วยังได้ไปตามจุดท่องเที่ยวตามโปรแกรมครบ! ถือเป็นอีกทางเลือกในการท่องเที่ยวที่เหมาะมากสำหรับใครที่เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวหรือมากันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มากเลยค่ะ เพราะได้เดินทางชิลๆ ปล่อยใจไปกับธรรมชาติเพลิน ๆ
สุดท้ายนี้ถ้ามีโอกาสก็อยากลองมาช่วงฤดูหนาว กับรถบัส White Pirika Go เหมือนกัน แล้วไว้ติดตามกันต่อในการเดินทางครั้งใหม่นะคะ!