เว็บไซต์ด้านท่องเที่ยวของญี่ปุ่น เผยผลสำรวจออนไลน์ ’10 อันดับ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนญี่ปุ่นอยากไปมากที่สุด’ ประจำฤดูใบไม้ร่วง 2024 โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสำรวจเป็นคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น ช่วงอายุระหว่าง 20-50 ปี จำนวน 1,037 คน
10 อันดับ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คนญี่ปุ่นอยากไปมากที่สุด ในปี 2024
อันดับที่ 1 เออิคันโด, จังหวัดเกียวโต
[High season]ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน
‘เออิคันโด’ หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘วัดเซ็นรินจิ’ เป็นวัดศูนย์กลางของนิกายโจโด และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นสายพันธุ์อิโรฮะ โมมิจิ และสายพันธุ์โอโมมิจิ อยู่ภายในเขตวัดเกือบ 3,000 ต้น
อันดับที่ 2 เมตาซีคัวญา นามิกิ (Metasequoia Namiki) , จังหวัดชิกะ
[High season]ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเหมือนฝัน กับอุโมงค์ต้นสนกว่า 500 ต้น ที่เรียงรายเต็มสองข้างทางถนน ในระยะทางไกลสุดลูกหูลูกตา ประมาณ 2.4 กิโลเมตร
อันดับที่ 3 อาราชิยามะ ยูไซเท, จังหวัดเกียวโต
[High season]ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
ที่ตั้งอาร์ตแกลอรี่ที่รีโนเวทใหม่มาจากอาคารเก่าแก่กว่า 150 ปี เพื่อจัดแสดงผลงานของคุณโอคุดะ ยูไซ ศิลปินสาขาการย้อมผ้า ซึ่งเราจะได้เห็นวิวต้นไม้เปลี่ยนสี สะท้อนกับพื้นในห้องหน้าต่างกลม ที่เหมือนกำลังดึงคุณให้เข้าสู่โลกลึกลับอันงดงามนี้ง
อันดับที่ 4 วัดโฮเซ็นอิน, จังหวัดเกียวโต
[High season] ตั้งแต่กลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน
วัดโฮเซ็นอิน ถือจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่ง เพราะที่นี่มีหน้าต่างขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับสวนต้นสนอายุกว่า 700 ปี สีแดง-ส้มของต้นสนที่ผลัดสี ตัดกับสีเขียวสดของต้นไผ่ในสวน กลายเป็นสีสันของฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น ราวกับว่าเรากำลังชมภาพศิลปะจากกรอบรูปขนาดใหญ่อย่างไรอย่างนั้น
อันดับที่ 5 อากิอุ ไนต์ มิวเซียม, จังหวัดมิยากิ
[ช่วงจัดกิจกรรม] ตั้งแต่ 25 ตุลาคม - 24 พฤศจิกายน 2024
ปี 2024 ที่อากิอุ ไนต์ มิวเซียมนี้ จะมีการจัดงานประดับไฟไลท์อัพในสวนสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเราจะได้ชมผลงานศิลปะจากธรรมชาติมากมาย ทั้งกลุ่มหินอากิอุ อิชิ งาม ๆ, ฝูงปลาคาร์ปที่แหวกว่ายในบ่อน้ำ และต้นไม้น้อยใหญ่ที่ผลัดใบเปลี่ยนสีในโลกแห่งสีสันยามค่ำคืน นอกจากการเดินเล่นเสพงานศิลป์แล้ว ยังมีการบ่อออนเซ็นเท้าคอยให้ใช้บริการอีกด้วย
อันดับที่ 6 สวนสาธารณะตูเว ยานซอน อาเกโบโนะ โคโดโมะ โนะ โคเอ็น, จังหวัดไซตามะ
[High season] ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
สวนสาธารณะที่ตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิทานของตูเว ยานซอน พื้นที่โดยรอบรายล้อมไปด้วยต้นสนเมตาซีคัวญา ต้นไม้ทุกต้นจะผลัดใบกลายเป็นสีทองงดงามเมื่อเข้าฤดูใบไม้ร่วง เกิดเป็นบรรยากาศชวนฝันราวกับอยู่ในโลกของนิทาน
อันดับที่ 7 สวนสาธารณะริทสึริน, จังหวัดคางาวะ
[High season] ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
สวนเดินเล่นส่วนตัวสำหรับขุนนางศักดินาที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี และได้รับคัดเลือกขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมประจำชาติญี่ปุ่น โดยในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ต้นไม้ที่หนแห่งในที่นี่จะเริ่มผลัดใบเปลี่ยนสี สะท้อนกับผิวน้ำ จนเกิดเป็นภาพอุโมงค์ใบไม้แดงขนาดใหญ่ที่งดงาม หาชมได้ยาก
อันดับที่ 8 วัดเท็นริวจิ, จังหวัดเกียวโต
[High season] ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม
วัดที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่เต็มไปด้วยอารยธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น ไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ต้นไม้น้อยใหญ่ต่างพากันเปลี่ยนสี สะท้อนกับน้ำใส ๆ ในสระโซเก็นอย่างงดงาม โดยแนะนำให้มาระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 1 ธันวาคม ซึ่งทางวัดจะจัดกิจกรรมทำบุญสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเช้า โดยประตูจะเปิดตั้งแต่ 07:30 น. เป็นต้นไป
อันดับที่ 9 สวนเคอิเซคิเอ็น, จังหวัดโออิตะ
[High season] ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน
สวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาด 20,000 ตารางเมตร ที่สร้างเพิ่มเฉลิมฉลองการสร้างเขื่อมยาบะเคอิ ต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิจะไล่สีแดง, สีเหลือง, สีส้ม สลับกันอย่างงดงาม ตัดกับวิวของลำธารและก้อนหินจำนวนนับแสน โดยช่วงค่ำยังมีการจัดงานประดับไฟไลท์อัพให้ได้ชมกันอีกด้วย
อันดับที่ 10 บึงฮัปโปะ อิเคะ, จังหวัดนากาโนะ
[High season] ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน
เราต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้า และต่อด้วยลิฟต์อีก 2 สาย เพื่อเดินทางไปยังปลายทางที่ความสูง 1,830 เมตรเหนือระดับน้ำ จากนั้นเดินป่าชิล ๆ ดื่มด่ำกับวิวเทือกเขาฮิดะอีกราว 1 ชั่วโมงครึ่ง เราก็จะได้พบกับฮัปโปะ อิเคะ บึงน้ำใสราวกับกระจกที่สะท้อนภูเขาฮาคุบะที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ตัดกับสีเหลืองแดงจากใบไม้เปลี่ยนสี
สรุปเนื้อหาจาก : prtimes