ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

ตั้งแต่อดีต คนญี่ปุ่นได้เดินทางไปยังภูเขาและหุบเขาต่าง ๆ เพื่อสัมผัสกับความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี ปัจจุบันผู้คนก็ยังคงไปเยี่ยมชมสถานที่มีชื่อเสียงเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และยังมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมายังญี่ปุ่นเพื่อชมความงามนี้เช่นกัน ในบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจเสน่ห์ของใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้คนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการแนะนำวิธีการเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในแบบฉบับของชาวญี่ปุ่น!

เสน่ห์ของฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

japan-fall

ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

เสน่ห์ของฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่นนั้นมีความพิเศษที่ยากจะหาได้จากที่อื่น แม้ว่าหลายประเทศจะมีฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้เปลี่ยนสี แต่ใบไม้ในญี่ปุ่นกลับได้รับความนิยมสูง มีเหตุผลหลัก 2 ประการที่ทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นดึงดูดผู้คน

1. ความหลากหลายของสีใบไม้

ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

หนึ่งในเสน่ห์ที่โดดเด่นของใบไม้ร่วงญี่ปุ่นคือ ความสวยงามและหลากหลายของสีที่สามารถมองเห็นได้ในที่เดียว ในขณะที่ประเทศอื่นๆ อาจมีใบไม้เปลี่ยนสีเพียงแค่ใบไม้ สีแดง หรือ สีเหลือง แต่ในญี่ปุ่นคุณสามารถเห็นทั้ง สีแดง,สีเหลือง, และสีเขียว ของต้นไม้ที่เขียวชอุ่มตลอดปีในเวลาเดียวกัน การเปลี่ยนสีของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงยังต่างกันไปตามระดับความสูง เช่น บนยอดเขาที่สูงจะมีสีแดงสดใส ขณะที่บริเวณตีนเขาจะมีสีเหลืองทอง หรือสีส้ม เราจึงสามารถเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามและความหลากหลายของสีสันราวที่ไล่ระดับสีจากยอดเขาลงมาจนถึงที่ราบ

2.ความหลากหลายของสถานที่และประสบการณ์

ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น

อีกเหตุผลที่ทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นมีเสน่ห์คือ ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีในหลากหลายสถานการณ์และมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมใบไม้ใน หุบเขา และ ภูเขา ที่ถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้สีสันสดใส หรือการเยี่ยมชม ศาลเจ้า และ วัด ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีจากริมทะเลสาบหรือแม้แต่ในออนเซ็นกลางแจ้งที่สามารถแช่นํ้าร้อนท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างเต็มที่

ประเภทของต้นไม้ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม

ในญี่ปุ่นมีต้นไม้หลายชนิดที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งบางชนิดจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสดหรือสีเหลืองทอง ทำให้ทิวทัศน์ของญี่ปุ่นในช่วงนี้เต็มไปด้วยความงดงามที่ไม่เหมือนใคร ต้นไม้เด่น ๆ ประจำฤดูใบไม้ร่วง ได้แก่ ต้นเมเปิล, ต้นแปะก๊วย, และ ต้นซากุระ ซึ่งมีเสน่ห์และความพิเศษที่แตกต่างกันไป

1. ต้นเมเปิล

ต้นเมเปิล

ต้นเมเปิล หรือ โมมิจิ เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นเมื่อพูดถึงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ใบเมเปิลส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม หรือบางชนิดอาจเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แต่โดยทั่วไปจะเห็นใบเมเปิลในสีแดงสดใสเป็นหลัก ซึ่งเป็นภาพที่มีความหมายลึกซึ้งและเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่น

แม้ว่าจะไม่มีต้นเมเปิลพันธุ์ที่ชื่อว่า “โมมิจิ” อย่างเป็นทางการ แต่ในภาษาญี่ปุ่น “โมมิจิ” มักจะหมายถึงต้นเมเปิลที่มีใบลึก ซึ่งแตกต่างจากต้นเมเปิลที่มีใบตื้นที่เรียกว่า “คาเอเดะ” แม้จะไม่มีการแยกประเภทอย่างชัดเจน แต่คำว่า “โมมิจิ” มักจะถูกใช้เฉพาะกับต้นเมเปิลที่มีลักษณะใบสวยงามและโดดเด่นในฤดูใบไม้ร่วง

2. ต้นแปะก๊วย

ต้นแปะก๊วย

ต้นแปะก๊วย หรือ อิโจ เป็นต้นไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไปในเขตเมืองของญี่ปุ่น เช่น ตามถนน, สวนสาธารณะ หรือสวนสาธารณะในเมืองใหญ่ ๆ เช่น โตเกียว ในฤดูใบไม้ร่วง, ใบของต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองที่สวยงาม ซึ่งจะดูเหมือนสีทองเมื่อโดนแสงแดด ต้นแปะก๊วยเป็นต้นไม้ที่เติบโตได้เร็วและทนทานต่อมลพิษและสภาพอากาศที่หนาวเย็น จึงมักพบเห็นตามถนนหรือสวนในเมืองใหญ่ ๆ

ต้นแปะก๊วยมีความทนทานและการเปลี่ยนสีของใบในฤดูใบไม้ร่วงยังคงมีเสน่ห์ที่เฉพาะตัว โดยจะเห็นใบเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองสว่างในช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง

3. ซากุระในฤดูใบไม้ร่วง

ซากุระในฤดูใบไม้ร่วง

หลายคนอาจรู้จัก ต้นซากุระ ว่าบานในฤดูใบไม้ผลิ แต่ในฤดูใบไม้ร่วงก็มีความงดงามไม่แพ้กัน ต้นซากุระพันธุ์ “โซเมอิ โยชิโนะ” จะเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงจากสีเขียวเป็นสีแดงและสีเหลือง ต้นไม้ที่ได้รับแสงแดดจะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ส่วนที่ไม่ได้รับแสงแดดจะเปลี่ยนเป็นสีส้มและสีเหลือง ในบางต้น เราสามารถพบต้นที่มีใบเปลี่ยนสีผสมกันทั้งสามสี ได้แก่ แดง, ส้ม, และ เหลือง ทำให้ทิวทัศน์ของซากุระในฤดูใบไม้ร่วงเป็นภาพที่สวยงาม

ช่วงเวลาในการชม

japan-fall

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นขึ้นอยู่กับภูมิภาคและระดับความสูงของแต่ละพื้นที่ แต่โดยทั่วไป, ช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม จะเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีในหลายพื้นที่ของญี่ปุ่นอยู่ในช่วงพีคสุด และเป็นเวลาที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงดงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

  • ภูมิภาคที่มีอากาศอบอุ่น : ในพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่น เช่น คิวชู และ ชิโกกุ ใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มต้นตั้งแต่ ต้นเดือนพฤศจิกายน และจะยาวไปจนถึง ต้นเดือนธันวาคม ดังนั้นหากคุณเดินทางไปยังภูมิภาคนี้ คุณสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ในช่วงเวลาที่คล้ายกับช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่อื่นๆ
  • ภูมิภาคที่มีอากาศหนาว : สำหรับภูมิภาคที่มีอากาศหนาว เช่น ฮอกไกโด, คันโต (โตเกียวและบริเวณรอบๆ), และ คันไซ (เกียวโต, โอซาก้า) ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ที่ประมาณ กลางเดือนตุลาคม ถึง ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากขึ้น เช่น ภูเขา หรือ อุทยานแห่งชาติ ที่จะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีเร็วขึ้น
  • โอกินาว่า : โอกินาว่า ซึ่งเป็นเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ไม่มีฤดูใบไม้ร่วงแบบที่เห็นในภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่อุ่นตลอดทั้งปี ทำให้ไม่สามารถเห็นใบไม้เปลี่ยนสีได้
  • ระดับความสูงและความแตกต่างในช่วงเวลา : ระดับความสูงก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี ในพื้นที่ที่มีภูเขาสูง เช่น ภูเขาฟูจิ หรือ อุทยานแห่งชาติในภูมิภาคคันโต การเปลี่ยนสีของใบไม้จะเริ่มเร็วกว่าที่ราบสูง หรือเมืองใหญ่ๆ ซึ่งในบางที่คุณสามารถเห็นใบไม้สีสันสดใสได้ตั้งแต่ ต้นเดือนตุลาคม ที่ยอดเขา และค่อยๆ เลื่อนลงมาที่ระดับพื้นดินในช่วง ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน

กิจกรรมชมใบไม้เปลี่ยนสีตามสไตล์ชาวญี่ปุ่น!

japan-fall

การเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความงดงามและความสงบ ซึ่งได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานจากคนญี่ปุ่นที่ชื่นชอบการชมธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต่อไปเราจะแนะนำคือกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นนิยมทำเพื่อชื่นชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี

1. เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีขณะปีนเขาหรือเดินป่า

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

โพสต์ที่แชร์โดย 上高地公式インスタグラム (@japan_alps_kamikochi)

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูเขาและป่ามากถึงสองในสามของประเทศ ซึ่งทำให้การชมใบไม้เปลี่ยนสีในระหว่างการเดินป่าหรือปีนเขากลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในการสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง การได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีในสถานที่เงียบสงบที่ห่างไกลจากความวุ่นวายจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติอย่างแท้จริง สถานที่ยอดนิยมสำหรับการเดินป่า เช่น “ภูเขาทาคาโอะ” ในโตเกียวเป็นจุดยอดนิยมที่ไม่สูงเกินไป มีทางเดินป่าและกระเช้าลอยฟ้าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี หรืออุทยานธรรมชาติใน “คามิโคจิ” (จ.นากาโนะ) หรือ โครันเคอิ (จ.ไอจิ) ก็เป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมในการเดินป่าชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม

2. สัมผัสบรรยากาศในพื้นที่ที่ศาลเจ้าและวัดผสมผสานกับใบไม้เปลี่ยนสี

วัดและศาลเจ้าในญี่ปุ่นมักจะปลูกต้นไม้ที่ผลัดใบที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะสร้างบรรยากาศที่กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรมโบราณ การเดินเล่นในวัดหรือศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้คุณสัมผัสถึงความสงบและความงดงามแบบญี่ปุ่น สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม เช่น “วัดคิโยมิสึเดระ” และ “วัดโคไดจิ” ในจ.เกียวโต หรือ “วัดชูซอนจิ” ในจ.อิวาเตะ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในการชมใบไม้เปลี่ยนสีและสามารถผสมผสานการเดินชมธรรมชาติในบรรยากาศที่เงียบสงบ

3. เพลิดเพลินไปกับใบไม้เปลี่ยนสีที่ไลท์อัพในตอนกลางคืน

อีกหนึ่งวิธีที่นิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีคือการชม การไลท์อัพในตอนกลางคืน โดยหลาย ๆ สถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องใบไม้เปลี่ยนสี เช่น ปราสาท ศาลเจ้า และวัด จะมีการจัดแสงไฟในตอนกลางคืนเพื่อเน้นความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่มีสีสันสดใส การชมใบไม้เปลี่ยนสีในตอนกลางคืนจะช่วยให้เราเห็นมุมมองที่แตกต่างจากตอนกลางวัน โดยมีแสงไฟสาดส่องให้ทิวทัศน์ที่สวยงามดูยิ่งตระการตา

4. เพลิดเพลินไปกับใบไม้ร่วงที่สวยงามราวกับพรม

ไม่เพียงแค่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงที่ใบไม้ยังติดอยู่บนต้นไม้เท่านั้น แต่คนญี่ปุ่นยังเพลิดเพลินกับการเดินผ่าน ใบไม้ที่ร่วงหล่น ซึ่งตกลงมาเป็นพรมสีแดงเข้มและสีทองที่งดงาม ใบเมเปิลและใบแปะก๊วยมักร่วงลงมาและทับถมจนกลายเป็นเหมือนพรมสีสันสดใสบนพื้นดิน การเดินเล่นในสวนหรือภูเขาที่ปูด้วยใบไม้ที่ร่วงหล่นจะทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติและความสงบ

5. เพลิดเพลินกับฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่นขณะแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง

 
 
 
 
 
ดูโพสต์นี้บน Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

โพสต์ที่แชร์โดย 北海道Lovers (@hokkaido_lovers)

การ แช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ยอดเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในบรรยากาศที่หรูหราและผ่อนคลาย ในหลาย ๆ รีสอร์ทออนเซ็นของญี่ปุ่น เราสามารถแช่ตัวใน อ่างอาบน้ำกลางแจ้ง พร้อมชมทิวทัศน์ของภูเขาและหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี เมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียง เช่น โจซังเคออนเซ็น ใน จ.ฮอกไกโด เป็นจุดที่มีชื่อเสียงในการชมใบไม้เปลี่ยนสีขณะแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง

ของอร่อยประจำฤดูใบไม้ร่วง

ในญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็น “ฤดูแห่งความอยากอาหาร” หรือ “秋の食欲” (Aki no shokuyoku) โดยมีสุภาษิตที่กล่าวถึงการที่ความอยากอาหารเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูนี้ เนื่องจากฤดูกาลนี้เต็มไปด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยรสชาติที่หลากหลายและอร่อย ร่างกายคนญี่ปุ่นเองก็มีความรู้สึกอยากทานอาหารมากขึ้นในช่วงนี้ เพราะอาหารตามฤดูกาลในฤดูใบไม้ร่วงไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงอีกด้วย มาดูกันว่าในฤดูใบไม้ร่วงนี้มี อาหารและรสชาติ ที่เป็นตัวแทนที่คนญี่ปุ่นนิยมทานในช่วงนี้บ้าง

1. ปลาซันมะ

ปลาซันมะ

ปลาซันมะ (หรือซันรี่) เป็นหนึ่งในปลาที่มีรสชาติที่โดดเด่นที่สุดในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งมักจะจับได้ในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม เป็นปลาที่มีรสชาติอร่อยและไขมันที่หอมหวาน รสชาติของมันจะเป็นเอกลักษณ์ในฤดูกาลนี้ คนญี่ปุ่นมักรับประทานปลาชนิดนี้แบบง่าย ๆ โดยการ ย่างด้วยเกลือ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม แต่ก็สามารถปรุงได้หลากหลาย เช่น คาบายากิ (ปลาซันมะย่างซอสหวาน), ข้าวผสมซอสผัด หรือ นันบังสึเกะ (ปลาซันมะผัดซอส) ก็เป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบเช่นกัน

2. เกาลัด

เกาลัดเป็นผลไม้ที่มีรสหวานอ่อน ๆ และเนื้อสัมผัสที่เคี้ยวหนึบ เป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนญี่ปุ่นโปรดปรานในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะเริ่มมีในฤดูกาลตั้งแต่เดือนกันยายนถึงตุลาคม เมนูที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานคือ ข้าวอบเกาลัด คือเมนูคลาสสิกที่ทำโดยการหุงเกาลัดร่วมกับข้าว ซึ่งเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อย มงบล็อง และ คุริคินทง คือขนมหวานที่ใช้เกาลัดเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งทำให้รสชาติของขนมมีความหอมหวานและเนื้อเนียนนุ่ม

3. เห็ด

ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นฤดูกาลที่เห็ดหลายชนิดจะมีผลผลิตออกมา เช่น มัตสึทาเกะ, เห็ดชิตาเกะ, และ เห็ดชิเมจิ เห็ดเหล่านี้มีรสชาติอูมามิที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เห็ดมักนำไปปรุงกับปลาที่มีฤดูกาลในช่วงนี้ เช่น ปลาแซลมอน หรือทำเป็น ข้าวห่อเห็ด (ห่อด้วยอลูมิเนียมฟอยล์แล้วนึ่ง) ซึ่งรสชาติจะเข้ากันได้ดี ทำให้เกิดรสชาติที่กลมกล่อมและหอมอร่อย การทำ ข้าวนึ่งเห็ด หรือ ซุปเห็ด ก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการใช้เห็ดปรุงอาหารในฤดูใบไม้ร่วง

จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญสามแห่งของญี่ปุ่น

japan-fall

หากต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่น ควรไปเยือน “สามจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญของญี่ปุ่น” ที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางชมความงามของธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่คือสถานที่ที่มีความงดงามเป็นพิเศษและสามารถสัมผัสความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ได้อย่างเต็มที่!

1. อาราชิยามะ จ.เกียวโต

เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ที่นี่ทุกคนจะได้สัมผัสกับภูมิทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างอาคารเก่าแก่และธรรมชาติในฤดูใบไม้ร่วง อาราชิยามะมีหลายจุดให้คุณชมความงามของใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง เช่น สวนญี่ปุ่น, ภูเขาหลากสีสัน, สวนหินที่จัดอย่างประณีต โดยเฉพาะที่ “วัดเท็นริวจิ” และ “วัดเรียวอันจิ” ซึ่งเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก รวมถึง “โทเก็ตสึเคียว” สะพานไม้ที่เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงและเหมาะสมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีอย่างยิ่ง

2. นิกโก้ จ.โทจิกิ

เเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด หากทุกคนต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ นิกโก้มีหลายจุดที่เหมาะสำหรับการชมฤดูกาลใบไม้ร่วง เช่น “อิโรฮาซากะ” ซึ่งเป็นเส้นทางที่สวยงามมากเมื่อขับรถผ่านและชมใบไม้เปลี่ยนสี หรือ “ทะเลสาบชูเซนจิ” ที่มีทัศนียภาพของใบไม้และน้ำตกที่ลงตัว นอกจากนี้ยังมี “น้ำตกริวสุ” และบริเวณบ่อน้ำพุร้อนที่สามารถผ่อนคลายไปกับการแช่น้ำร้อนพร้อมชมใบไม้เปลี่ยนสีไปด้วย หากมานิกโก้ แนะนำให้เช่ารถเพื่อสะดวกในการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ที่มีทิวทัศน์สวยงาม

3. หุบเขายาบาเคอิ จ.โออิตะ

เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยพื้นที่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์อันงดงามแห่งใหม่ของญี่ปุ่น ที่นี่ทุกคนจะได้สัมผัสกับการผสมผสานระหว่างใบไม้สีสันสดใสในฤดูใบไม้ร่วงและยอดเขาหินที่โดดเด่น พื้นที่นี้มีความกว้างใหญ่ถึง 32 กิโลเมตรจากเหนือจรดใต้ และ 36 กิโลเมตรจากตะวันออกไปตะวันตก เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่น่าทึ่งจากหน้าผา, ถ้ำหิน, ลำธารบนภูเขา และหินรูปแปลกๆ จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ “หอดูดาวฮิโตเมะฮัคเค” ซึ่งให้มุมมองที่งดงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่สามารถมองเห็นได้จากจุดนี้เพียงที่เดียวเท่านั้น

เคยถามเพื่อน ๆ หลายคนว่า “ฤดูไหนที่คุณชอบที่สุดในญี่ปุ่น?” ส่วนใหญ่จะตอบว่า “ฤดูใบไม้ร่วง” แต่ส่วนตัวแล้วชอบ ฤดูใบไม้ผลิที่สุดค่ะ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนการเริ่มต้นใหม่ ๆ เหมือนกับต้นไม้และดอกไม้ที่เริ่มผลิดอกออกใบ บ่งบอกถึงความหวังและความคาดหวังในสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่พอถึงฤดูใบไม้ร่วง ก็รู้สึกเศร้าเล็ก ๆ เวลาเห็นใบไม้ดอกไม้ค่อย ๆ ร่วงหล่น เหมือนกับทุกอย่างกำลังจะจบลง แต่ถ้าคิดอีกมุมหนึ่งก็เห็นว่า การจบลงของบางสิ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีขึ้นก็ได้ เมื่อคิดแบบนี้แล้ว ฤดูใบไม้ร่วงก็ไม่ได้น่าเศร้าอย่างที่คิดเลย

สรุปเนื้อหาจาก : gltjp.com

beniko59

อดีตสาวโตเกียว ชอบดื่มกาแฟ ชอบท่องเที่ยว ชอบกินขนม และชอบยามะพี

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า