จังหวัดอิวาเตะ ตั้งอยู่ภูมิภาคโทโฮคุติดกับชายฝั่ง และเป็นจังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากจังหวัดฮอกไกโด ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโมริโอกะ รอบ ๆ มีตัวแทนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮิราอิซูมิ พื้นที่ชายฝั่งทะเลเรียกว่าซันริคุ เป็นชายฝั่งทะเลที่เกิดจากการกัดกร่อนของแม่น้ำกลายเป็นหน้าผาที่ตั้งฉากกับทะเล และมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลที่สดใหม่
สภาพภูมิอากาศก็มีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากปัจจัยทางภูมิประเทศ เช่น เทือกเขาโอะทางฝั่งตะวันตก ที่ราบสูงคิตาคามิทางฝั่งตะวันออก หรือที่ราบคล้ายแอ่งตามแนวแม่น้ำคิตาคามิและแม่น้ำมาเบจิ อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีของโมริโอกะอยู่ที่ 10.2°C ซึ่งต่ำที่สุดเป็นอันดับสองรองจากซัปโปโร
ความน่าค้นหาหาของจังหวัดนี้ยังมีอีกมาย ในบทความนี้เราจึงจะมาบอกเล่า “ของดี” ในจังหวัดว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพ้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ!
1. “ภูเขาอิวาเตะ” สัญลักษณ์สำคัญของจังหวัด
ภูเขาอิวาเตะ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดและเป็นหนึ่งในภูเขา 100 อันดับแรก สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากเมืองโมริโอกะ ได้รับความนิยมในฐานะภูเขาแห่งศรัทธาตั้งแต่สมัยโบราณและยังคงเต็มไปด้วยนักปีนเขาจำนวนมาก มีระดับความสูงที่ 2038.2 ม. ได้รับเลือกเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติระดับประเทศ เวลาที่ดีที่สุดในการปีนเขาคือตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนตุลาคม ในฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาจะถูกย้อมด้วยสีแดงของใบไม้หลากสี นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว
2. “หอทอง” มรดกโลก วัดชูซอนจิ
วัดชูซอนจิ สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม ต้องการให้ผู้คนตระหนักถึงโลกที่สงบสุขไร้ซึ่งสงคราม ภายในมีหอทองที่ปกคลุมไปด้วยทองคำเปลวอย่างงดงาม นอกจากหอทองแล้ว ในวัดชูซอนจิยังมีสมบัติของชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญมากกว่า 3,000 รายการ เช่น โกดังเก็บรวบรวมพระสูตร และเวทีละครโนห์ ที่แห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลกในปีพุทธศักราช 2554 อีกด้วย
3. “ถ้ำริวเซ็นโด” โลกแห่งสีน้ำเงินราวกับมังกรฟ้า
ถ้ำริวเซนโด ถือเป็นหนึ่งในสามถ้ำหินปูนที่สำคัญของญี่ปุ่น และถูกกำหนดให้เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติแห่งชาติ ความยาวภายในถ้ำเท่าที่ทราบกันทั่วไปมีขนาดมากกว่า 4,088 ม. แต่คาดว่าความยาวทั้งหมดน่าจะเป็น 5,000 ม. ปัจจุบัน มีการค้นพบทะเลสาบใต้ดินแปดแห่ง ซึ่งสามแห่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ทะเลสาบของที่นี่โปร่งใสที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวสามารถชมทะเลสาบสีฟ้าที่ถูกขนานนามว่าเป็นมังกรฟ้าได้อีกด้วย
4. กาน้ำชา “นัมบุเทคกิ” ยิ่งใช้ยิ่งอร่อย
เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของจังหวัด ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ 400 ปีที่แล้ว ได้รับการคุ้มครองและดูแลโดยขุนนางศักดินานัมบุรุ่นต่อรุ่น มีรูปแบบทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อน้ำเดือด เครื่องเหล็กที่มีลักษณะพิเศษนี้จะช่วยขจัดแคลเซียมไฮโพคลอไรต์ที่มีอยู่ในน้ำประปา ส่งผลให้น้ำมีรสชาติที่กลมกล่อมขึ้น
5. “โมริโอกะซันสะโอโดริ” เทศกาลเต้นระบำที่นำความตื่นเต้นมาสู่คนทั้งเมือง
การเต้นนี้มีมาแต่ดั้งเดิม นิยมเต้นกันทั้งในเมืองโมริโอกะและพื้นที่โดยรอบ มีการออกแบบท่าเต้นและเครื่องแต่งกายที่แตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ เทศกาลเต้นนี้มีทั้งหมดสี่วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 4 สิงหาคม ขบวนพาเหรดถูกจัดขึ้นบนถนนชูโอ ใจกลางเมืองโมริโอกะเป็นสถานที่หลัก ผู้เต้นจะส่งเสียงว่า “ซัคโคระจอยวะยัสเสะ (サッコラチョイワヤッセ)” พร้อมร่ายรำร่วมไปกับเสียงกลองไทโกะ
6. รถไฟอิวาเตะซันริคุ
รถไฟนี้มีชื่อเล่นว่า “ซันเท็ตสึ” มีชื่อเสียงเพราะเป็นฉากในละครช่วงเช้าช่อง NHK ปี 2013 เรื่อง “Amachan”
หากมองจากหน้าต่างรถไฟสาย Kita-Rias Line ที่อยู่ระหว่างเมืองคุจิกับเมืองมิยาโกะจะสามารถมองเห็นภูเขาสีเขียวที่สวยงาม และหากมองจากหน้าต่างรถไฟสาย Minami-Rias Line ที่เชื่อมต่อจากเมืองคามาอิชิไปยังเมืองโมริโอกะ จะเห็นแนวชายฝั่งทะเลอันยิ่งใหญ่ สำหรับใครที่ชอบชมวิวสวย ๆ บนรถไฟไม่ควรพลาด
นอกจากนี้ ขอแนะนำ “รถไฟเที่ยวชมตามฤดูกาล” ซึ่งมีกิจกรรมที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลหรือตามแต่ละปี เป็นการใช้เวลาชมวิวสบาย ๆ พร้อมกับรับประทานเบนโตะแสนอร่อยบน “รถไฟโอซาชิกิ” ในฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง หรือ “รถไฟโคทัตสึ” ที่มีในฤดูหนาว
เคนจิ มิยาซาวะ นักเขียนนิยายชาวญี่ปุ่นผู้โด่งดังเจ้าของผลงาน “Night on the Galactic Railroad” และ “Restaurant of Many Orders” ก็มาจากเมืองฮานามากิ จังหวัดนี้ เช่นกัน เมืองฮานามากิจึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณสามารถดำดิ่งสู่โลกของเคนจิ มิยาซาวะ เช่น อนุสรณ์สถานเคนจิ มิยาซาวะ และพิพิธภัณฑ์เคนจิ มิยาซาวะ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น ฮานามากิออนเซ็น ออนเซ็นที่รายล้อมไปด้วยบรรยากาศอันงดงามและเงียบสงบ หรือถ้าใครชอบดื่มกาแฟนมก็อย่าพลาดแวะฟาร์มโคอิวาอิกันนะ
7. วังโกะโซบะ
เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอิวาเตะ พนักงานเสิร์ฟจะเสิร์ฟโซบะชามเล็ก ๆ ในปริมาณพอดีคำพร้อมตะโกนว่า “ไฮ จันจัง” มักรับประทานพร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น สาหร่าย งา ต้นหอม เห็ดนาเมะโกะ ฯลฯ ปริมาณของวังโกะโซบะที่นำมาเสิร์ฟ 15 ถ้วยจะเท่ากับโซบะธรรมดา 1 ถ้วย หลังจากรับประทานเสร็จแล้ว จะใช้ซังงิขนาดเท่าไม้ขีดไฟในการนับถ้วยอีกทีค่ะ
8. โมริโอกะเรเม็น
เดิมทีเป็นอาหารท้องถิ่นของประเทศเกาหลี แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้มีเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองโมริโอกะ ประกอบด้วย ไข่ต้ม, แตงกวาดอง, กิมจิ, เนื้อวัว, ต้นหอม ฯลฯ ซึ่งถือเป็นวัตถุดิบมาตรฐาน หรือจะเสริมด้วยผลไม้อื่น ๆ เช่น แตงโม แอปเปิ้ล และลูกแพร์ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและร้านอาหารนั้น ๆ
9. โมริโอกะจาจาเม็น
เป็นหนึ่งในสามเมนูเส้นที่มีชื่อเสียงของเมืองโมริโอกะ เส้นจะเล็กแบน ท็อปด้วยมิโซะเนื้อคัดพิเศษ แตงกวา และต้นหอม มีวิธีกินคือ หลังกินโมริโอกะจาจาเม็นใกล้หมดแล้ว ให้ใส่ไข่กับมิโซะ เติมน้ำร้อนแล้วกินเป็นซุปไข่นั่นเอง
10. เนื้อวัวโมริโอกะชอร์ทฮอร์น
เป็นสายพันธุ์เฉพาะและหายาก มีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของเนื้อวัวญี่ปุ่นทั้งหมด ส่วนใหญ่เลี้ยงในภาคเหนือของภูมิภาคโทโฮคุและจังหวัดฮอกไกโด แต่เป็นวัวที่คนมักรู้จักในนามของจังหวัดอิวาเตะ วัวเลี้ยงด้วยอาหารหยาบ และอาหารผสมที่ผลิตในจังหวัด มีไขมันต่ำและมีโปรตีนสูง มีรอยแดงเยอะมาก ยิ่งเคี้ยวมาก ยิ่งสัมผัสได้ถึงรสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมของเนื้อ
11. นัมบุ เซมเบ้
เซมเบ้ชนิดหนึ่งที่ทำจากแป้งสาลีเป็นหลัก เป็นเซมเบ้อบกรอบที่สืบทอดมาจากอดีตขุนนางศักดินาฮะชิโนะเฮะ
12. ขนมไข่นกนางนวล
ขนมท้องถิ่นของเมืองโอฟุนาโตะ เป็นขนมรูปไข่ทำจากถั่วขาวห่อในเค้กคาสเทลลาบาง ๆ อบ แล้วเคลือบด้วยไวท์ช็อกโกแลต เป็นของฝากที่ห้ามพลาดจากจังหวัดนี้เลย
ผู้เขียนเองเคยไปจังหวัดนี้ เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์มากจริง ๆ ค่ะ ทั้งผู้คนที่ใจดี สถานท่องเที่ยวทางธรรมชาติเยอะมาก ๆ เป็นจังหวัดที่น่าไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งนะคะ ถ้ามีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น
สรุปเนื้อหาจาก nippon
ผู้เขียน: にゃんまる