เฮาส์เทนบอช เป็นธีมพาร์คสไตล์ยุโรปที่ตั้งอยู่ในเมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ ชื่อมาจากภาษาดัตช์แปลว่า “บ้านในป่า” ภายในมีจะแบ่งออกเป็นสองโซนใหญ่คือ “โซนสวนสนุก” แบ่งโซนย่อยอีก 7 โซน ซึ่งเน้นความบันเทิงเป็นหลัก ถัดมาคือ “โซนท่าเรือ” แบ่งโซนย่อยอีก 2 โซนซึ่งจำลองเมืองท่าในยุโรป มีกิจกรรมหลากหลายตลอดทั้งปี ไม่ว่ากิจกรรมถาวรหรือกิจกรรมเฉพาะช่วง ในบทความนี้เลยจะขอมาแนะนำเสน่ห์ทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้นค่ะ!
1. ชมดอกไม้งามตามฤดูกาล!
この投稿をInstagramで見る
ในโซนสวนสนุกจะมีโซนย่อยชื่อว่า “Flower Road” ซึ่งจะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดครบทุกฤดูกาล ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าเราจะมาเที่ยวในฤดูไหนก็ตาม เราก็จะสามารถชื่นชมความสวยงามของดอกไม้ได้เสมอ ทั้งนี้ ช่วงที่ดีที่สุดก็แนะนำเป็น ฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อน ค่ะ เพราะเป็นช่วงที่มีสีสันมากที่สุด มีขบวนพาเหรดและการแสดงตระการตา ขนมหวานแบบลิมิเต็ดเฉพาะฤดูกาล และการจัดแสดงแสงไฟ รวมถึงเทศกาลชมดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกทิวดอกกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และดอกไฮเดรนเยียที่รวบรวมสายพันธุ์ไฮเดรนเยียที่มากที่สุดในญี่ปุ่น
จุดเด่นในการชมดอกไม้ที่เฮาส์เทนบอชคือ เราสามารถชื่นชมความสวยงามได้ครบทั้ง 5 ประสาทสัมผัส! นอกจากนี้ฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นหน้าของดอกดาเลียหรือรักเร่ ในฤดูหนาจะเป็นหน้าของกล้วยไม้ฟาแลนและต้นไม้คริสต์มาสหรือพอยน์เซตเทีย เรียกได้ว่าใครชอบดอกไม้มาที่นี่ตอบโจทย์สุด ๆ ค่ะ!
2. ตระการตาไปกับไฟประดับยิ่งใหญ่ระดับโลก!
この投稿をInstagramで見る
หลังจากตะวันหลบฟ้าและทุกอย่างเริ่มเข้าสู่ความมืด ภายในธีมพาร์คก็จะเริ่มเปิดไฟประดับที่มีชื่อว่า “Kingdom of Light” ความพิเศษคือ ปกติแล้วที่ญี่ปุ่นนิยมจัดงานแสดงไฟในช่วงฤดูหนาว แต่ที่นี่สามารถรับชมความสวยงามของไฟประดับได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ! โดยเป็นการแสดงไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งสวยงามจนได้รับการันตีความตื่นตาตื่นใจจากรางวัลชนะเลิศการจัดอันดับงานแสดงไฟญี่ปุ่นถึง 8 ปีซ้อน
จุดการแสดงก็มีให้ชมมากมาย แต่จุดที่อยากแนะนำคือ โซน Art Garden และ โซน Amsterdam City เพราะเป็นการจัดแสดงไฟที่ฉายลงไปบนสายนํ้า นอกจากนี้ยังมีชุดการแสดงประจำฤดูกาลทั้งสี่อีกด้วยนะ!
3. พักรีสอร์ทเพื่อความเพลิดเพลินขั้นสุด!
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าที่นี่มีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งวัน จึงขอแนะนำให้นอนค้างที่โรงแรมภายในธีมพาร์คสักหนึ่งคืน เพื่อความสนุกและผ่อนคลายแบบเต็มขั้น เพราะเราสามารถชมการจัดแสดงไฟและโชว์ในยามค่ำคืนได้จนจบ และตื่นมาเดินรอบ ๆ สูดอากาศแบบชิว ๆ ในยามเช้า ทางด้านโรงแรมจะมีด้วยกันทั้งหมด 5 แห่งค่ะ ซึ่งในแต่ละแห่งก็จะมีธีมที่แตกต่างกันออกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น Hotel Europe (ธีมยุโรป), Hotel Amsterdam (ธีมดัตช์), กระท่อมตากอากาศ Forest Villa, โรงแรมหุ่นยนต์แห่งแรกของโลก หรือ รีสอร์ตสไตล์ยุโรปติดน้ำสวย ๆ
ทั้งนี้ถึงจะเป็นโรงแรมภายในธีมพาร์ค แต่ก็สามารถวางใจในเรื่องการบริการและไลน์อาหารที่ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ!
4. ประทับใจไม่รู้ลืมกับพลุสุดอลัง!
ดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นและบานสะพรั่งไปทั่วท้องฟ้ายามคํ่าคืน ณ ธีมพาร์คแห่งนี้ จะช่วยสร้างประสบการณ์ค่ำคืนที่สุดแสนประทับใจให้แก่ทุกคน! โดยเราสามารถรับชมดอกไม้ไฟที่มีความสวยงาม ยากจะละสายตา ได้แบบใกล้ ๆ เต็มสองตาเลยด้วยนะ!
ไม่ใช่แค่นั้น! ที่นี่ก็ยังมีการจัดแสดงพลุให้ดูกันตลอดปี ทั้ง Kyushu Ichi Fireworks Festival เทศกาลแสดงดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก และ Christmas Fireworks และ Countdown Fireworks เทศกาลดอกไม้ไฟที่สร้างสรรค์ความสวยงามบนท้องฟ้าของฤดูหนาวที่สดใส
5. ธีมพาร์คเทคโนโลยีสุดลํ้า
แม้ธีมพาร์คนี้จะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทิวทัศน์จำลองของเมืองในยุโรป ดอกไม้ตามฤดูกาลที่สวยงาม ตลอดจนป่าไม้ ลำคลอง และเกาะร้าง แต่เราก็ยังสามารถเปิดประสบการณ์ดิจิทัลที่ล้ำสมัยได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย! เช่น ที่โซน Adventure Park เราสามารถสนุกสนานไปกับธรรมชาติและกิจกรรมกีฬาหลากหลาย และที่โซน Jurassic Island ซึ่งเป็นโซนที่จะได้สำรวจเกาะร้างผ่าน AR บอกเลยว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สนุกกันได้ทุกรุ่น!
6. ชมการแสดงดนตรีสุดยิ่งใหญ่!
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่นี่ก็คือ การแสดงดนตรีที่จัดขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืนตลอดทั้งปี ทำให้เราได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับเสียงเพลง ไม่ว่าเป็นการแสดงเวทีหรือโอเปร่า การแสดงแนะนำคือ “Opera The Revue Huis Ten Bosch” ที่นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2013 ก็สามารถดึงดูดความสนใจด้วยเวทีอันงดงาม หรือ อีกการแสดงคือ “Review HTB Tenko” เป็นการแสดงแบบโมเดิร์นแต่ยังชูความเป็นญี่ปุ่นด้วยการใช้เครื่องดนตรีโบราณ
7. พบ Miffy รุ่นลิมิเต็ดเฉพาะที่เฮาส์เทนบอช
ในเนเธอแลนด์ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของ Dick Bruna ผู้แต่ง จะเรียกว่า กระต่าย Miffy ว่า Nijntje แปลว่า กระต่ายน้อย ส่วนที่เฮาส์เทนบอชเองก็เรียก Miffy ว่า Nijntje เช่นกัน Miffy รุ่นลิมิเต็ดเฉพาะที่นี่จะมีเอกลักษณ์ตรงถือธงดัตช์ สวมรองเท้าไม้และผูกผ้าพันคอสีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเนเธอร์แลนด์นั่นเอง ถ้าเดินเล่นจนเริ่มเหนื่อย ก็แนะนำให้เข้ามาพักที่ Nijntje Cafe เราจะได้รับการต้อนรับเข้าสู่โลกของ Miffy และพ้องเพื่อนที่มีแต่ความอ่อนโยน
8. ชิมอาหารสุดพิเศษประจำจังหวัดนางาซากิ
จังหวัดนางาซากิมีแนวชายฝั่งที่ยาวเป็นอันดับสองรองจาก ฮอกไกโด ทำให้มีอาหารทะเลสดใหม่มากมาย โดยเราสามารถลองชิมอาหารต้นตำรับหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อาหารฝรั่งเศส ไคเซกิสไตล์ญี่ปุ่น และอาหารเมดิเตอร์เรเนียน แน่นอนว่ามีเมนูอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย เช่น เบอร์เกอร์ซาเซโบ จัมปง ข้าวตุรกี (Turkish Rice) หรือจะเป็นพิซซ่า ฟองดู และของหวานตามฤดูกาล สามารถทานได้ทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ จะนั่งทานภายในร้านหรือจะออกไปนั่ง Outdoor ข้างนอกชมวิวสวย ๆ ก็ดีเหมือนกัน
โดยรวมแล้วธีมพาร์คแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะการชมดอกไม้โดยเฉพาะดอกทิวลิป ได้ชมบรรยากาศสไตล์ยุโรปในราคาเงินเยน ถ้าจะไปแนะนำว่าควรนอนโรงแรมในธีมพาร์คสักหนึ่งคืน เพื่อจะได้ใช้เวลาได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องรีบเร่ง และมีเวลาชมการแสดงยามยํ่าคืนโดยเฉพาะดอกไม้ไฟและการแสดงไฟสุดสวยงามอลังการที่คุ้มค่าแก่การชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง
Huis Ten Bosch
| ที่ตั้ง | 1-1 Huis Ten Bosch Machi, Sasebo, Nagasaki 859-3243, Japan |
| เวลาให้บริการ | ทุกวัน 9.00 น. – 22.00 น. |
| ค่าเข้าชม (อัพเดต 2024) | – ผู้ใหญ่ 7,400 เยน – เด็กมัธยมต้น-ปลาย 6,400 เยน – เด็กประถมศึกษา 4,800 เยน – เด็กก่อนวัยเรียน 3,700 เยน – ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 5,400 เยน |
| เว็บไซต์ | huistenbosch.co.jp |
| วิธีเดินทาง | จากสถานี JR Hakata Station (Midori-Huis Ten Bosch Line) มาเปลี่ยนสายเป็นสาย Omura Line ที่สถานี Haiki Station จากนั้นลงสถานี Huis Ten Bosch Station แล้วเดินต่อประมาณ 7 นาที |
สรุปเนื้อหาจาก: sasebo99.com
