ธรรมชาติ, ฟุกุโอกะ

จังหวัดฟุกุโอกะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคิวชู เป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาค เป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรม มีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางการค้า และมีอุตสาหกรรมถ่านหินทำให้กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมาตั้งในอดีต แม้ว่าจะมีภาพลักษณ์ความเป็นเมืองใหญ่สูง แต่จริงๆ แล้วจังหวัดนี้อุดมไปด้วยธรรมชาติแสนสวยงาม ในบทความนี้เราจะมาแนะนำจุดชมธรรมชาติลึกลับที่มีเฉพาะในฟุกุโอกะเท่านั้น! จะที่ไหนบ้างมาดูกันเลย

1. ถํ้า Senbutsu Stalactite Cave

ธรรมชาติ

Senbutsu Stalactite Cave

ถ้ำ Senbutsu Stalactite Cave เป็นถ้ำหินปูนใต้ที่ราบสูงคาสต์ อยู่ทางใต้สุดของเมืองคิตะคิวชู เป็นการก่อตัวขึ้นจากหินปูนที่ละลายจากน้ำฝนและน้ำใต้ดินเป็นเวลาหลายปี ได้รับเลือกให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติแห่งชาติ อุณหภูมิจะคงที่อยู่ที่ประมาณ 16 องศาและอุณหภูมิน้ำอยู่ที่ประมาณ 14 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ทำให้มีอากาศเย็นสบายในฤดูร้อนและมีอากาศอบอุ่นในฤดูหนาว เราจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเดินผ่านซอกหินแคบ ๆ สัมผัสนํ้าเย็นสบายในลำธารใสสะอาดให้อารมณ์เหมือนออกผจญภัย

Senbutsu Stalactite Cave

2. จุดชมวิว Kagami no umi

Kagami no umi

Kagami no umi

ชายฝั่งฟุกุมะในเมืองฟุคุตสึมีจุดชมวิวที่รู้จักกันในชื่อ “Kagami no umi” ที่ถูกเรียกเช่นนี้เพราะภาพท้องฟ้าสะท้อนลงบนน้ำทะเลริมชายหาดที่ทอดยาวกว่า 2 กม. เกิดเป็นปรากฏการณ์ที่สวยงามราวกับกระจกนั้นเอง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชมปรากฏการณ์ดังกล่าวคือต้องมีเงื่อนไขสามข้อดังนี้ หนึ่งคือกระแสน้ำในฤดูใบไม้ผลิ สองคือช่วงน้ำลง และสามคือไม่มีลม

เมื่อถึงเวลาพลบค่ำและน้ำลง ดวงอาทิตย์ที่กำลังตกจะสะท้อนลงบนหาดทราย ทำให้เกิดทิวทัศน์สุดแสนโรแมนติก เมื่อน้ำลงตรงและเวลากลางวัน ท้องฟ้าสีครามและเมฆก้อนกลมจะสะท้อนลงมา เหมาะกับการถ่ายภาพเก็บความประทับใจที่สุด เราสามารถเพลิดเพลินความสวยงามของปราฏการณ์ธรรมชาติที่แสนงามแบบนี้ได้ในหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับฤดูกาลและช่วงเวลา แนะนำให้เช็คที่เว็บไซต์ล่วงหน้าก่อนไปเยี่ยมชม

จุดชมวิว Kagami no umi

3. ทะเลเมฆที่สวน Yakiyama Tenbo Park!

Yakiyama Tenbo Park

สวน Yakiyama Tenbo Park ตั้วอยู่บนระดับความสูง 228 เมตร ในเมืองอิอิซึกะ และเป็นจุดชมวิวที่ให้ทัศนียภาพในมุมกว้างของเมืองอิอิซึกะ ซึ่งนอกจากจุดชมวิวสวย ๆ แล้วยังเป็นจุดชมทะเลเมฆอีกด้วย

ทะเลเมฆเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เมฆมีลักษณะคล้ายมหาสมุทรเมื่อมองจากที่สูง มักเกิดขึ้นในช่วงเช้าในวันที่อากาศสดใสและไม่มีลม มีอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนจะแตกต่างกันอย่างมาก และมักเกิดขึ้นบ่อนในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง และอาจเกิดขึ้นในตอนเช้าหลังฝนตกในฤดูใบไม้ร่วง ดังนั้นแนะนำให้ไปเยี่ยมชมในช่วงเช้าหลังวันฝนตก

สวน Yakiyama Tenbo Park

4. น้ำตก Senjyuin Falls

Senjyuin Falls

Senjyuin Falls

น้ำตก Senjyuin Falls อยู่ในเมืองอิโตชิมะ มีความสูงประมาณ 15 เมตรและกว้างประมาณ 12 เมตร ตั้งอยู่ในป่าต้นเมเปิลและซีดาร์ ช่วงที่แนะนำสำหรับการมาเยี่ยมชมคือเดือนมิถุนายน เพราะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบายและใบไม้เขียวขจีให้ความสดชื่นที่สุด

กล่าวกันว่าบริเวณใกล้เคียง เมื่อประมาณ 800 ปีที่แล้วเป็นสถานที่ที่ตระกูลเฮเกะมาซ่อนตัวหลังจากแพ้การต่อสู้ทางการเมืองและหนีออกจากเมืองหลวง และว่ากันว่าภรรยาของไทระ โนะ ชิเงโมริ (ผู้บัญชาการทหารและเป็นขุนนางในราชสำนักในช่วงปลายยุคเฮอัน และเป็นลูกชายคนโตของไทระ โนะ คิโยโมริ ผู้นำทางทหารช่วงปลายยุคเฮอันของญี่ปุ่น และก่อตั้งรัฐบาลทหารเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น) ได้ร่ายรำร่วมกับลูกสาวทั้งสองคนที่ใกล้นํ้าตกแห่งนี้อีกด้วย

น้ำตก Senjyuin Falls

5. ถํ้า Doyama ในเมืองอะชิยะ

Doyama

Doyama

ถํ้า Doyama ในเมืองอะชิยะ เป็นถํ้าหินอยู่ริมทะเล สูงประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 12 เมตร และลึกประมาณ 30 เมตร เกิดจากการผุกร่อนตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่เป็นหลุมที่ผุกร่อนได้อย่างสวยงามจนเกิดตำนานดังต่อไปนี้ขึ้นมา เชื่อกันว่าในสมัยโบราณ จักรพรรดินีจิงงูซึ่งเป็นจักรพรรดินีในตำนานของญี่ปุ่นได้มาแวะพักระหว่างการต่อสู้ และได้ยิงธนูขอพรเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการศึก ธนูที่ยิงออกไปได้พุงทะลุเกาะเกิดเป็นหลุม เมื่อเวลาผ่านไปหลุมนั้นก็กว้างขึ้นและกลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้นั้นเอง เราสามารถเพลิดเพลินกับการตกปลาและเล่นน้ำบนชายฝั่งโดยรอบได้ แต่ถ้าอยากเดินข้ามเกาะแนะนำให้ไปช่วงน้ำลงนะคะ

ถํ้า Doyama ในเมือง Ashiya

6. ช่องเขา Sengokukyo


ช่องเขา Sengokukyo มีความยาวประมาณ 2 กม. อยู่เหนือแม่น้ำยากิยามะในเมืองมิยาวาคะ เป็นจุดเล่นน้ำยอดนิยมในฤดูร้อน ริมแม่น้ำมีลานหินธรรมชาติอยู่หลายแห่ง สามารถหยุดพักคลายร้อนใต้ร่มไม้ได้ แม้จะมีหลายจุดที่น้ำตื้น แต่เด็กๆ ก็ควรสวมเสื้อชูชีพเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย

รอบ ๆ นั้นยังมีโซนพักผ่อน Ikoi no Sato Sengoku ซึ่งประกอบด้วยที่ตั้งแคมป์และสวนสาธารณะ สำหรับคนที่อยากตั้งแคมป์ ขอแนะนำจุดตั้งแคมป์ Ikoinosatosengoku Hananomizube Park Camping Ground เพราะเหมาะกับมือใหม่และคนที่มากับครอบครัว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี

ช่องเขา Sengokukyo

7. น้ำตก Ryuo Falls ในหุบเขา Ryuokyo Gorge

หุบเขา Ryuokyo Gorge อยู่ในเมืองโนะกาตะ เป็นหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นซีดาร์มากมายและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน ภายในหุบเขามีน้ำตก Ryuo Falls ซ่อนตัวอยู่หมู่แมกไม้ สายนํ้าที่ไหลลงมาเป็นภาพที่งดงามควรค่าแก่การชม บริเวณใกล้เคียงมีที่พักชื่อว่า Ryuokyo Camp Village เป็นที่พักสไตล์บังกะโลเปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี สามารถนอนพักค้างคืนเพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มภายในหุบเขาอันแสนงดงาม

น้ำตก Ryuo Falls ในหุบเขา Ryuokyo Gorge

8. ท่าเรือ Miike Port

ท่าเรือ Miike Port

Miike Port

ท่าเรือ Miike Port สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1908 ได้รับเลือกจากยูเนสโกให้เป็น หนึ่งในมรสถานที่การปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจิของญี่ปุ่น ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว จากความสวยงามของวิวทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกยามเย็น ซึ่งสามารถชมได้เพียงปีละสองครั้งเท่านั้นคือในเดือนมกราคมและพฤศจิกายน โดยจะมีเพียงประมาณ 10 วันเท่านั้นที่พระอาทิตย์ตกดินตั้งฉากอยู่ที่ประมาณ 247 องศา ทำให้เราสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ตกทอดตัวเป็นเส้นตรงข้ามทะเลราวกับเส้นทางการเดินเรือ ทิวทัศน์อันงดงามนั้นเรียกกันว่า “เส้นทางแห่งแสง” เป็นภาพที่ถ้าได้เห็นเพียงหนึ่งครั้งต้องอยากจดจำไปทั้งชีวิต ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นเรือแล่นไปตามเส้นทางแห่งแสงจริง ๆ อีกด้วย

ท่าเรือ Miike Port

9. นํ้าตก Choonno Falls

นํ้าตก Choonno Falls ตั้งอยู่ในเมือง Ukiha เป็นจุดพักผ่อนที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการเปลี่ยนแปลงที่สวยงามของธรรมชาติทั้งสี่ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ความเขียวขจีแสนสดชื่นในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง เสียงของน้ำที่ตกลงมาจากความสูงประมาณ 27 เมตรของที่นี่นั้นยังฟังดูราวกับเสียงดนตรี และเป็นที่มาของชื่อนํ้าตกด้วยนั่นเอง

ส่วนบริเวณใกล้เคียงก็มีสวนสาธารณะ Choonnotaki Park ซึ่งภายในสวนแห่งนี้ เมื่อรวมนํ้าตก Choonno Falls ด้วยแล้วมีน้ำตกให้เราชมถึงสามแห่งเลยเชียว! นอกจากนี้ที่พลาดไม่ได้ก็คือ เทศกาลโซเมงนากาชิ ซึ่งเป็นประเพณีประจำฤดูร้อน ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมของทุกปี แนะนำให้ไปช่วงนี้เป็นอย่างยิ่งเพราะเราจะได้ทานโซเมงไปพร้อมกับชมทิศทัศน์อันงดงามของนํ้าตก!

นํ้าตก Choonno Falls

เป็นอย่างไรบ้างคะกับจุดชมธรรมชาติที่แนะนำไป ใครชอบธรรมชาติสวย ๆ และยังไม่แมสมากในหมู่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดเลยนะคะ จะจัดเป็นทริปไปเช้าเย็นก็ได้หรือจะพักค้างคืนสักหนึ่งคืนก็ดีเหมือนกัน สำหรับการเดินทาง ถ้าเช่ารถขับน่าจะสะดวกที่สุดค่ะ!

สรุปเนื้อหาจาก: crossroadfukuoka

beniko59

อดีตสาวโตเกียว ชอบดื่มกาแฟ ชอบท่องเที่ยว ชอบกินขนม และชอบยามะพี

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า