จังหวัดโคจิ เป็นจังหวัดหนึ่งบนเกาะชิโกกุ ซึ่งบนเกาะนี้จะประกอบไปด้วยสี่จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเอฮิเมะกับจังหวัดคางาวะที่หันหน้าไปทางทะเลเซโตะ และจังหวัดโทคุชิมะกับจังหวัดโคจิที่หันหน้าไปทางทะเลแปซิฟิก จังหวัดโคจิเป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และแยกตัวออกจากอีกสามจังหวัดบนเกาะโดยมีเทือกเขาชิโกกุเป็นตัวกั้น จังหวัดโคจิจะต่างจากอีกสามจังหวัดอย่างไร? หรือมีจุดเด่นแบบไหนที่ควรไปสัมผัสบ้าง บทความนี้จะมาแนะนำให้ได้ทราบกันค่ะ
มหัศจรรย์ธรรมชาติที่แสนลึกลับและเงียบสงบ
ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะมีป่าไม้ปกคลุมพื้นที่มากถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ประเทศทั้งหมด โดยจังหวัดโคจิเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นจำนวนถึง 84% ของพื้นที่จังหวัดโคจิทั้งหมด ต้นสนซีดาร์และต้นสนไซเปรสที่เติบโตในจังหวัดโคจิเป็นต้นไม้ที่มีคุณภาพสูง เพราะเกิดบนผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำสายสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยง คือ แม่น้ำชิมันโตะ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสามแม่น้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และแม่น้ำนิโยโดะ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามจนได้ฉายาว่าเป็น “ทิวทัศน์สีฟ้าที่สวยจนลืมหายใจ”
จังหวัดโคจิมีพื้นที่สีเขียวห้อมล้อมถึงสามด้าน ได้แก่ทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ส่วนเมื่อมองไปทางทิศใต้นั้นก็จะเห็นผืนน้ำส่องประกายระยับของมหาสมุทรแปซิฟิก มีชายฝั่งที่เป็นหินและหน้าผาแตกออกมาชนกันเรียกว่า ชายฝั่งเรีย ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดโคจิอีกด้วย
วัฒนธรรมอาหารที่มีเอกลักษณ์
อาหารท้องถิ่นของจังหวัดโคจิล้วนมีเอกลักษณ์ที่หากใครได้มาเยือนต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลจากบริเวณทางใต้ที่เป็นชายฝั่งทะเลอย่าง “ปลาโอ” และ “ปลาไหลมอเรย์” หรือพวกผักป่าและปลาแม่น้ำจากลำธารอันใสสะอาดในบริเวณพื้นที่ป่า ส่วนในบริเวณพื้นที่ราบก็เป็นแหล่งปลูกข้าวชั้นดี นอกจากเรื่องวัตถุดิบแล้ว จังหวัดโคจิยังมีชื่อเสียงในเรื่องสาเกและผลไม้รสเปรี้ยวอย่างยูซุ ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นทั้งน้ำผลไม้และเครื่องปรุงประกอบอาหาร
ผู้คนเป็นมิตร รักการสังสรรค์
ชาวจังหวัดโคจิชอบการจัดงานเลี้ยง รักการสังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นอีเว้นต์ใด ๆ ก็จะจัดงานฉลองกันอยู่เสมอ และจะมีวัฒนธรรมเฉพาะที่เรียกว่า “โอเคียะคุ” ในการจัดงานฉลองก็จะจัดแบบเป็นกันเอง มีการกิน ดื่ม พูดคุยกัน ที่พิเศษก็คือไม่ใช่แค่เฉพาะแขกที่ได้รับเชิญถึงจะสามารถมางานเลี้ยงได้เท่านั้น แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ผ่านไปผ่านมา หรือแม้แต่คนแปลกหน้าก็สามารถมาร่วมงาน มาร่วมโต๊ะสังสรรค์ กิน ดื่ม พูดคุยกันได้ เชื่อแล้วว่าชาวโคจินั้นเป็นมิตรจริง ๆ !
ใครที่สนใจจังหวัดโคจิ เริ่มอยากไปเที่ยวที่นี่ดูแล้ว ลองดูสถานที่ที่น่าสนใจในจังหวัดโคจิกันต่อได้เลยนะคะ เผื่อไปญี่ปุ่นครั้งต่อไปจะมีจังหวัดโคจิเก็บไว้ในลิสต์ที่ ๆ อยากไปในญี่ปุ่นกันอีกที่ค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก kochiamigo
