เห็ดมัตสึทาเกะ ได้รับการยกย่องให้เป็นราชาแห่งรสชาติของฤดูใบไม้ร่วง เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสุดหรูที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ในบทความนี้ เราจะมาเปิดเผยความลับของเห็ดมัตสึทาเกะ ตั้งแต่แหล่งผลิต ฤดูเก็บเกี่ยว ไปจนถึงเหตุผลที่ทำให้ราคาของมันสูงลิ่ว!
เห็ดมัตสึทาเกะคืออะไร ?
มัตสึทาเกะเป็นเห็ดที่เติบโตตามธรรมชาติในป่าสนแดง มีชื่อเสียงในเรื่องกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์และราคาที่สูงลิ่ว อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสที่ยอดเยี่ยม จนสามารถกล่าวได้ว่าเป็นรสชาติที่ต้องลิ้มลองในฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี นอกจากความอร่อยแล้ว เห็ดมัตสึทาเกะยังเต็มไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินบี ไนอาซิน และโพแทสเซียม พร้อมด้วยใยอาหารที่มากมาย สำหรับการรับประทาน คนญี่ปุ่นนิยมนำมาทำเป็นซุป นึ่งในหม้อดิน หรือทำข้าวมัตสึทาเกะ
ราคาของเห็ดมัตสึทาเกะจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับเกรดของสินค้า ภูมิภาคที่ผลิตและวิธีการเก็บเกี่ยว เห็ดมัตสึทาเกะมักจะมีรสชาติที่ดีกว่าและราคาแพงกว่าเมื่อดอกยังอยู่ในลักษณะตูม ถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการนำไปปรุงอาหาร เพราะจะได้กลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่ยอดเยี่ยม!
จากการสำรวจของกระทรวงเกษตรในปี 2022 จังหวัดสามอันดับแรกในญี่ปุ่นที่สามารถเก็บเกี่ยวเห็ดมัตสึทาเกะได้มากที่สุด ได้แก่ จังหวัดนากาโนะ จังหวัดอิวาเตะ และ จังหวัดวากายามะ
อย่างไรก็ตาม เห็ดมัตสึทาเกะที่มีคุณภาพสูงที่สุดไม่ใช่จังหวัดอิวาเตะหรือนากาโนะ แต่กลับเป็น “ทัมบะมัตสึทาเกะ” จากเมืองทัมบะ จังหวัดเกียวโต ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ระดับประเทศ โดยจังหวัดเกียวโตมีการสร้างสภาพแวดล้อมในป่าสนที่เอื้อให้เห็ดมัตสึทาเกะเติบโตตามธรรมชาติ แต่เห็ดทัมบะมัตสึทาเกะนั้นหายากมาก และค่อย ๆ หาได้ยากมากขึ้น เนื่องจากผลพวงของสภาพแวดล้อม
ทำไมเห็ดมัตสึทาเกะถึงมีราคาแพง !?
เห็ดมัตสึทาเกะมีราคาสูงเมื่อเปรียบเทียบกับเห็ดชนิดอื่น ๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งสามารถสรุปได้เป็นสามข้อหลักดังนี้
1.สภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโต
เห็ดมัตสึทาเกะเกิดจากเชื้อราที่เจริญเติบโตโดยการปรสิตที่รากของต้นสนแดงญี่ปุ่นที่มีอายุประมาณ 25 ปี ดังนั้น มันจึงสามารถอยู่ได้เฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ต้นสนแดงเติบโตตามธรรมชาติเท่านั้น
เห็ดมัตสึทาเกะยังมีลักษณะเฉพาะตัวตรงที่เชื้อราในตัวนั้นมีสภาพอ่อนแอกว่าเห็ดชนิดอื่น ทำให้การขยายพันธุ์เป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ มันยังชอบดินที่มีสภาพไม่ดี ในยุคสมัยที่เกิดการเปลี่ยนจากการใช้ฟืนเป็นก๊าซทำให้ผู้คนเข้าไปดูแลและจัดการป่าไม้น้อยลง และส่งผลให้เกิดการสะสมของต้นไม้ใบหญ้าบนดินจนกลายเป็นอุดมสมบูรณ์ จึงไม่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของมัตสึทาเกะเท่าไรนัก
2.ปลูกเทียมไม่ได้
เห็ดมัตสึทาเกะไม่สามารถเพาะเลี้ยงแบบเทียมได้เหมือนเห็ดชนิดอื่น ๆ เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโต ทำให้ผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ 100% มีปริมาณแตกต่างกันไปในแต่ละปี ส่งผลราคามักจะสูงขึ้นในปีที่มีการเก็บเกี่ยวต่ำ
นอกจากนี้ เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว ผู้เก็บเกี่ยวต้องจ่ายค่าเข้าให้กับเจ้าของภูเขาก่อนจะเริ่มค้นหาเห็ด ต้องใช้ทั้งเงินและความพยายามอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าในการวิจัยเกี่ยวกับการเพาะเห็ดมัตสึทาเกะแบบเทียม อาจทำให้เราสามารถหาซื้อเห็ดมัตสึทาเกะในราคาประหยัดได้ในอนาคต
3.กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์
จุดเด่นที่สุดของเห็ดมัตสึทาเกะคือ กลิ่นหอมที่อันเป็นเอกลักษณ์ แต่เห็ดมัตสึทาเกะไม่สามารถแช่แข็งหรือเก็บรักษาได้นาน ดังนั้น แม้ว่าจะมีความต้องการสูงในช่วงฤดูกาล แต่จำนวนผลผลิตมักไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้
เห็ดมัตสึทาเกะนำเข้าจากจีนหรืออเมริกามีราคาค่อนข้างถูก แต่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องล้างเอาดินออกก่อน ทำให้กลิ่นหอมจางลงไป ทำให้เห็ดมัตสึทาเกะที่ปลูกในประเทศได้รับความนิยมมากกว่า ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นจากความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
วิธีรับประทานเห็ดมัตสึทาเกะในราคาประหยัด
เห็ดมัตสึทาเกะในญี่ปุ่นนั้นหายากและมีราคาแพง แม้จะพบในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่หลายคนก็อาจไม่สามารถหาซื้อได้ ในทางกลับกัน สินค้านำเข้ามักมีราคาไม่แพงนัก ทำให้สามารถนำมาปรุงอาหารได้ง่าย
เคล็ดลับในรับประทานเห็ดมัตสึทาเกะนำเข้าคือ การเติมเต็มรสชาติที่อาจสูญเสียไป คนญี่ปุ่นนิยมใช้ “ถั่วแระญี่ปุ่น” มาช่วยเพิ่มรสชาติ เนื่องจากมีส่วนประกอบคล้ายกับเห็ดมัตสึทาเกะ ดังนั้นเมื่อใช้ถั่วแระญี่ปุ่นเป็นส่วนผสม ก็สามารถสร้างรสชาติที่ใกล้เคียงกับเห็ดมัตสึทาเกะที่ปลูกในญี่ปุ่นได้นั้นเอง
นอกจากนี้ ถ้าต้องการสัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมของเห็ดมัตสึทาเกะในราคาที่ประหยัด แนะนำมาให้มาทานตอนฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว
เห็ดมัตสึทาเกะมีราคาสูงเนื่องจากหายากมากขึ้น เพราะไม่สามารถปลูกแบบเทียมได้ และป่าสนแดงที่เป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อราก็ลดลงทุกปี จะว่าไปแล้วก็คล้ายกับกับเห็ดทรัฟเฟิลในอาหารฝรั่งเศส และเห็ดบอร์ซิโนในอาหารอิตาเลียน ที่มีราคาสูงเพราะไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ ถึงแม้ว่าจะมีการทดลองศึกษาการเพาะเลี้ยงเห็ดมัตสึทาเกะเทียมอยู่ แต่ส่วนตัวยังอยากกินเห็ดมัตสึทาเกะแบบธรรมชาติมากกว่าอยู่ดีค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก : mama.chintaistyle