โรคโกะกัทสึเบียว (五月病) หรือ โรคเดือนห้า เป็นความผิดปกติทางจิตและทางร่างกายที่มักเกิดขึ้นในผู้ที่ทำงานหนักเกินไปหรือปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ในที่ทำงานหรือที่เรียนหนังสือไม่ได้ จนทำให้มีความเครียดสะสม และส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าทางจิตใจและทางร่างกาย
โรคหรือภาวะนี้มักปรากฏขึ้นหลังจากช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์ทองหรือโกลเด้นวีค (Golden week) ในเดือนพฤษภาคมที่คนญี่ปุ่นได้พักผ่อน พอได้หยุดยาวหลายวันคนที่มีความเครียดและความกังวลสะสมจากการปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่ไม่ได้มาตั้งแต่เดือนเมษายน (เดือนที่คนญี่ปุ่นมักเริ่มต้นชีวิตใหม่ เช่น เรียนหนังสือ ทำงาน หรือย้ายบ้าน เป็นต้น) รู้สึกไม่อยากกลับไปเรียนหรือไปทำงานต่อ จนมีอาการซึม หดหู่ ไม่มีเรี่ยวแรง และไม่มีแรงบันดาลใจ อาการเหล่านี้มักหายไปเอง แต่หากมีอาการดังกล่าวนานกว่าสองอาทิตย์ก็อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ มารู้วิธีการป้องกันและดูแลตัวเองไม่ให้เป็นโรคนี้กันค่ะ
วิธีการป้องกันและดูตัวเองอย่างง่าย
สิ่งสำคัญในการป้องกันและดูแลตัวเองให้ห่างจากโรคเดือนห้า คือ การดูแลตนเองตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเรียน เข้าทำงานใหม่ หรือการย้ายบ้านใหม่ โดยมีวิธีการดูแลตนเองแบบง่าย ๆ และมีประสิทธิผลดังนี้คือ
1. ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ

การเดินออกกำลังกายหรือยืดเส้นยืดสายเป็นเวลา 3-5 นาทีหลายครั้งต่อวันมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโกะกัทสึเบียวได้
2. รักษาไลฟ์สไตล์ที่สม่ำเสมอ

การตื่นนอนในเวลาเดียวกันทุกวันและเปิดหน้าต่างรับแสงแดดหลังจากตื่นนอนในตอนเช้าจะช่วยให้ระบบนาฬิกาชีวภาพของร่างกายทำงานได้ตามปกติและช่วยให้นอนหลับสนิทอย่างมีคุณภาพ
3. ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน

พยายามรับประทานอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนสมดุล ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบทำอาหารทุกอย่างเอง บางครั้งสามารถประหยัดเวลาและแรงกายได้ด้วยการซื้ออาหารสำเร็จรูปและอาหารปรุงสำเร็จมารับประทานแทนการปรุงอาหารเอง
4. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

หลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ 90 นาทีก่อนเข้านอนในเวลากลางคืน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้สามารถพักผ่อนร่างกายและจิตใจได้
5. อย่าเก็บความกังวลไว้กับตัวเอง
การพูดคุยกับคนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ จะช่วยลดความกังวลและความเครียดลงได้ แต่หากไม่อยากพูดให้คนในครอบครัวและเพื่อนฟังก็สามารถใช้บริการจากสถาบันให้คำปรึกษาเฉพาะทางหรือปรึกษาทางออนไลน์ก็ได้
6. อย่ามุ่งมั่นแต่ความสมบูรณ์แบบ
การยอมรับว่าการทำบางสิ่งบางอย่างไม่ได้เป็นเรื่องปกติ และตั้งเป้าหมายในการทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ จะลดความเครียดทางจิตใจและช่วยป้องกันอาการผิดหวังซึมเศร้าจากสิ่งที่ไม่เป็นดังใจหวังได้
7. ทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
การฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรีส์ อ่านหนังสือ และถ่ายรูป เป็นต้น แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม จะช่วยสร้างความผ่อนคลายและทำให้สดชื่นขึ้น

วิธีการดังกล่าวสามารถป้องกันทั้งโรคที่กล่าวมาและภาวะเครียด หดหู่ ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ เป็นต้น ได้ หากต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่จากการเรียนหนังสือหรือทำงานก็ลองใช้วิธีการดังกล่าวดูแลตัวเองดูค่ะ ทั้งนี้ทัศนคติเชิงบวก การไม่พยายามผลักดันตัวเองให้สมบูรณ์แบบที่สุด และการมองเห็นคุณค่าของตัวเองก็มีส่วนช่วยป้องกันได้ค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: chiba-tv.com