จากแบบสำรวจคนญี่ปุ่นที่ว่าด้วยเรื่องความเหนื่อยล้า พบว่าคนญี่ปุ่นร้อยละ 80 มีความเหนื่อยล้าอยู่เป็นนิจ ซึ่งความเหนื่อยล้านั้นอาจมีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน การใช้อุปกรณ์ด้านไอทีมากเกินไป และความเหนื่อยล้าจากความร้อน เป็นต้น มารู้จักอาหารที่คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานเป็นประจำเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเหนื่อยล้าได้ง่ายกันค่ะ
5 อาหารที่รับประทานเป็นประจำแล้วจะช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าได้
1. ไวน์
สารโพลีฟีนอลที่มีมากในไวน์แดงมีผลในการป้องกันไม่ให้เกิดความเหนื่อยล้าได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยชะลอความแก่ได้ด้วย ทั้งนี้ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม โดยควรหลีกเลี่ยงการดื่มไวน์แดงที่มีรสหวาน
2. อกไก่
เนื้อไก่ส่วนอกอุดมไปด้วยสารอิมิดาโซลไดเปปไทด์ (Imidazole dipeptide) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยขจัดกรดแลกติกที่เกิดขึ้นในร่างกาย ส่งผลช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ อิมิดาโซลไดเปปไทด์ยังช่วยชะลอความแก่และป้องกันโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันด้วย
3. ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้ นัตโตะ และมิโซะ เป็นต้น อุดมไปด้วยสารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ซึ่งมีผลในการช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า ความวิตกกังวลและความหงุดหงิด โดยสามารถนำเต้าหู้มารับประทานโดยไม่ต้องผ่านความร้อนก็ได้
4. ช็อกโกแลต
คาเคา โพลีฟีนอล (Cocoa polyphenol) ที่มีมากในเมล็ดโกโก้มีผลดีต่อสุขภาพมากมาย ได้แก่ ช่วยป้องกันและบรรเทาความเหนื่อยล้า ช่วยฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้าของสมอง ช่วยเสริมให้การทำงานของสมองดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) และความดันโลหิตสูง ทั้งนี้ช็อกโกแลตที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาความเหนื่อยล้าคือ ช็อกโกแลตที่มีปริมาณคาเคาตั้งแต่ประมาณ 72 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป โดยควรรับประทานวันละประมาณ 25 กรัม
5. บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินอีและแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยป้องกันและบรรเทาความเหนื่อยล้าได้ดี นอกจากนี้ สารอาหารดังกล่าวยังช่วยให้การทำงานของหลอดเลือดและผนังหลอดเลือดดี และช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง
คนจำนวนมากคิดว่าเมื่อเหนื่อยล้าการรับประทานขนมหวาน ลูกอม เครื่องดื่มรสหวาน และอาหารประเภทแป้ง เป็นต้น จะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าได้ แต่จริง ๆ แล้วนิสัยการรับประทานของหวานเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าในระยะยาวจะทำให้เกิดไฮโปไกลซีเมียหรือโรคอ่อนเพลียเรื้อรังได้ ดังนั้นหากรู้สึกว่าเหนื่อยล้าจากสิ่งรอบด้านก็ลองหันมารับประทานอาหารดังกล่าวข้างต้นเป็นประจำดูค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: msn.com