
มัทฉะเป็นชาเขียวแบบผงที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกว่าดีต่อสุขภาพและความงาม มารู้ความแตกต่างระหว่างชาเขียวและมัทฉะแบบคร่าวๆ รวมถึงประโยชน์มากมายที่ทำคนญี่ปุ่นและคนทั่วโลกหลงรักกันค่ะ!
ความแตกต่างของชาเขียวและมัทฉะ
ชาเขียว ทั่วไปได้จากใบชาที่เก็บเกี่ยวจากต้นชาที่ปลูกให้โดนแสงแดดโดยตรงและเก็บเกี่ยวเอาใบมาผ่านกระบวนการหมัก เมื่อนำมาชง ชาเขียวจะมีน้ำใสสีเขียวอ่อนไปจนถึงเขียวเข้ม มีรสชาติฝาดไปจนถึงขม
ส่วน มัทฉะ เป็นชาเขียวแบบผงที่ได้จากการปลูกชาโดยคลุมไว้ด้วยแสลนเพื่อไม่ให้โดนแสงแดด การไม่โดนแสงแดดทำให้ต้นชาผลิตกรดอะมิโนชนิดหนึ่งชื่อว่า ธรีอะนีน (Theanine) สูงกว่าต้นชาที่ปลูกแบบปกติทั่วไป กรดอะมิโนชนิดนี้ทำให้ชาที่มีรสหวานกลมกล่อมและมีรสอูมามิมากกว่ารสขมที่มักปรากฏในชาเขียวทั่วไป
ทั้งนี้ใครต้องการทราบความแตกต่างอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านวิธีแยกสองอย่างนี้กันต่อที่บทความ: ใช้สลับกันอยู่ไหม? 4 ข้อแตกต่างระหว่าง “ชาเขียว” กับ “มัทฉะ”
มัทฉะมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร?
1. เสริมสร้างความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันร่างกาย
มัทฉะนั้นอุดมไปด้วยสารคาเทชินชื่อว่า อิพิแคลโลคาเทชิน (Epigallocatechin) ซึ่งมีผลช่วยกระตุ้นการทำงานของแมคโครฟาจ (Macrophage) หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย
2. ช่วยให้ผ่อนคลาย
สารธรีอะนีนเป็นกรดอะมิโนที่นอกจากจะทำให้มีรสชาติอร่อยและมีผลช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติชนิดซิมพาเทติก ซึ่งเป็นระบบประสาทที่ช่วยให้คนเรารู้สึกผ่อนคลาย
3. ป้องกันไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
สารคาเทชินที่มีมากในมัทฉะมีผลในการต้านไวรัสจึงช่วยป้องกันไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ได้
4. ลดการสะสมของไขมันในร่างกาย
สารคาเทชินยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการสะสมของไขมันในร่างกายรวมทั้งช่วยเร่งการเผาผลาญได้ ดังนั้นจึงช่วยควบคุมและป้องกันการเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก (อ่านประโยชน์ในการช่วยลดน้ำหนักเพิ่มเติมได้ที่บทความ: รู้หรือไม่!? ชาเขียวช่วยลดความอ้วนได้)
5. มีผลในการต้านอนุมูลอิสระ
โพลีฟีนอลที่มีมากในมัทฉะมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งมีผลในการขจัดออกซิเจนทรงพลังซึ่งเป็นตัวการในการทำลายเซลล์ ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน อีกทั้งมัทฉะก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งและช่วยชะลอความแก่ด้วย
6. ช่วยดับกลิ่นปาก
สารฟลาโวนอยด์ที่มีมากในชาเขียวมีฤทธิ์ในการป้องกันและต้านการเจริญของแบคทีเรียในปาก ดังนั้นจึงช่วยดับกลิ่นปากได้ การดื่มมัทฉะหลังมื้ออาหารจะช่วยดับกลิ่นปากได้ดี
แม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่การดื่มมัทฉะในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เนื่องจากมัทฉะมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟและส่งผลให้นอนไม่หลับได้ แม้ว่าสารธรีอะนีนที่มีมากในมัทฉะช่วยยับยั้งฤทธิ์ของคาเฟอีนได้ แต่เพื่อให้การดื่มมัทฉะมีผลดีต่อร่างกายมากกว่าผลเสียก็ควรดื่มไม่เกินวันละ 2 ช้อนชากันค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: chayudo.co.jp