ปัจจุบันคนญี่ปุ่นรับประทานผลไม้น้อยลง จากปริมาณเฉลี่ยวันละอย่างน้อย 115 กรัม ในปี 2009 เหลือเพียงวันละประมาณ 100 กรัมในปี 2019 และคนในช่วงอายุ 20-40 ปี รับประทานผลไม้เฉลี่ยวันละ 50 กรัม ซึ่งน้อยกว่าปริมาณแนะนำให้รับประทานในแต่ละวันที่ประมาณ 200 กรัม อีกทั้งคนจำนวนมากไม่รับประทานผลไม้เลย มารู้เหตุผลของการรับประทานผลไม้น้อยจนแทบไม่รับประทานเลยของคนญี่ปุ่นในปัจจุบันกันค่ะ
1. การแยกออกมาอยู่ตามลำพังคนเดียว
คุณ A ชายวัย 30 ปี ผู้ทำงานสำนักพิมพ์กล่าวว่าเขาชอบผลไม้มาก แต่ปัจจุบันแทบไม่ได้รับประทานผลไม้เลย เพราะการแยกออกมาอยู่ตามลำพังทำให้ไม่มีเวลาเตรียมหรือซื้อผลไม้มารับประทาน แม้จะเคยซื้อกล้วยและแอปเปิ้ลมาเก็บไว้ แต่ก็ไม่มีเวลารับประทานทำให้ผลไม้ที่เก็บไว้นานเน่าเสียจนต้องทิ้ง นอกจากนี้เหตุผลสำคัญคือ ความขี้เกียจปอกและหั่นผลไม้ แต่เมื่อกลับไปยังบ้านเกิดเขาก็ยังชอบรับประทานผลไม้ที่แม่เตรียมให้ทุกวัน
2. ผลไม้ในญี่ปุ่นมีราคาแพง
คุณ B หญิงวัย 20 ปี ที่อาศัยอยู่ในโตเกียวบอกถึงสาเหตุที่แทบไม่รับประทานผลไม้คือ ผลไม้ในญี่ปุ่นมีราคาแพง ผลไม้ที่สามารถซื้อได้ในราคา 100 เยนมีเพียงไม่กี่ชนิด ได้แก่ กล้วย กีวีและลูกพลับ ส่วนผลไม้ชนิดอื่น เช่น องุ่น แตงโม ลูกแพร์ เมล่อน ฯลฯ มีราคาที่แพงมาก ซึ่งบางครั้งมีราคาสูงกว่าอาหารชนิดอื่นที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ผักและเนื้อสัตว์ จึงทำให้ไม่อยากซื้อผลไม้มารับประทาน
3. ไม่ชอบรสชาติผลไม้ที่แตกต่างจากแหล่งผลิตบ้านเกิด
คุณ C ชายวัย 30 ปี ผู้ทำงานอยู่ในโตเกียวและมีบ้านเกิดที่ จังหวัดอาโอโมริ กล่าวว่า ญาติที่บ้านเกิดมีสวนผลไม้ จึงไม่ต้องซื้อผลไม้ อีกทั้งผลไม้สดในท้องถิ่นมีรสชาติอร่อยมาก แต่เมื่อย้ายมาอยู่โตเกียวเขาต้องประหลาดใจกับราคาของแอปเปิ้ลและผลไม้อื่นๆ ที่มีราคาแพงมาก แม้จะมีรสชาติอร่อยแต่ความสดก็น้อยกว่าที่เคยรับประทานที่บ้านเกิด ทำให้เขาไม่อยากซื้อผลไม้ที่ขายในโตเกียวมารับประทาน
4. เมื่อลูกโตก็เลิกรับประทานผลไม้
คุณ D แม่บ้านในวัย 50 กล่าวว่าเธอเคยซื้อผลไม้ในปริมาณมากเมื่อตอนลูกยังเล็ก เพื่อนำมาปอกให้ลูกรับประทานเป็นของว่าง แต่เมื่อลูกเติบโตแยกย้ายกันไปเรียนและไปทำงาน และสามีไม่รับประทานผลไม้ ทำให้เธอคิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อผลไม้มารับประทาน เธอบอกว่าผลไม้ตอบแทนจากการจ่ายภาษีบ้านเกิดมีรสชาติอร่อยมาก แต่หากสั่งซื้อเองทางอินเทอร์เน็ตหรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตผลไม้รสชาติอร่อยนั้นมีราคาแพงมากกว่าอาหารชนิดอื่นที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
5. ความเห็นจากเพื่อนคนญี่ปุ่นอื่น ๆ
ผู้เขียนพูดคุยกับเพื่อนญี่ปุ่นเกี่ยวกับผลไม้ หลายคนบอกว่าผลไม้รสชาติอร่อยนั้นมีราคาแพงมากซึ่งทำให้งบประมาณรายจ่ายในครอบครัวแต่ละวันเพิ่มขึ้น พวกเขาไม่ค่อยรับประทานผลไม้ญี่ปุ่นที่มีราคาแพง แต่รับประทานผลไม้ที่มีราคาถูกตามฤดูกาลหรือนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น กล้วย กีวี ส้มออร์เรนจ์ และองุ่น เป็นต้น ซึ่งมีราคาถูกกว่าผลไม้ที่ผลิตได้ในประเทศ บางคนบอกว่าไม่รับประทานผลไม้เลยแต่รับประทานผักต่าง ๆ เพื่อรับวิตามินและแร่ธาตุเข้าสู่ร่างกายแทน บางคนบอกว่าผลไม้ที่ซื้อมาในราคาแพงบางครั้งรสชาติไม่อร่อยไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เมื่อต้องผิดหวังกับรสชาติผลไม้ซ้ำๆ ก็ทำให้ไม่อยากซื้อผลไม้รับประทานอีก บางคนบอกว่ารับประทานผลไม้อร่อยจากของขวัญที่ญาติมิตรส่งมาให้เป็นของขวัญในช่วงกลางปีและปลายปีซึ่งมักเป็นผลไม้คุณภาพหรูและมีราคาแพง
ผู้เขียนก็รู้สึกเหมือนกันว่าผลไม้ในญี่ปุ่นมีราคาแพงมากโดยเฉพาะองุ่น เมล่อน สตรอว์เบอร์รี และเชอร์รีญี่ปุ่น ที่ยิ่งราคาแพงยิ่งอร่อย หากซื้อผลไม้ที่วางขายในราคาที่ถูกก็มักจะผิดหวังในรสชาติ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนมีวิธีการหาซื้อผลไม้ในราคาที่สมเหตุสมผลคือ การเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาล และเลือกซื้อตามร้านขายผักขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเยอะ ซึ่งมักจะมีผลไม้เกรดต่าง ๆ มาให้เลือก และมีราคาถูกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตเยอะมาก แต่ทั้งนี้ก็บอกได้ว่าเราไม่สามารถรับประทานผลไม้ให้อร่อยเป็นกิโลกรัมได้เหมือนอยู่เมืองไทยค่ะ