แม้ว่ามีอาหารแมวที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนวางจำหน่ายมากมาย แต่น้องแมวจำนวนไม่น้อยชอบกินอาหารเหมือนกับเจ้าของ เพื่อสร้างความสุขและความแข็งแรงให้กับน้องแมว มาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่สัตวแพทย์ชาวญี่ปุ่นแนะนำให้น้องแมวกินได้และข้อควรระวังในการให้อาหารดังกล่าวกันค่ะ
อาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่น้องแมว
1. เนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญสำหรับน้องแมวซึ่งเป็นสัตว์กินเนื้อ โดยแมวสามารถกินเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อกวาง และเนื้อม้า เป็นต้น ทั้งนี้เนื้อไก่มีราคาถูกที่น้องแมวสามารถกินได้ทุกส่วน แต่ก็ควรเอาส่วนหนังซึ่งมีไขมันสูงออก สำหรับเนื้อหมูหรือวัวก็ควรตัดเอาส่วนไขมันออกก่อนนำมาปรุงอาหารให้น้องแมว
2. ปลา
ปลาที่น้องแมวกินได้รวมถึงปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาแซลมอนและปลาเล็กปลาน้อย เป็นต้น แต่ต้องมั่นใจว่าปลาดังกล่าวผ่านการปรุงสุก เพราะหากให้แมวกินปลาดิบก็จะทำให้เป็นพยาธิได้
3. ผักต่าง ๆ
แมวสมารถกินผักต่าง ๆ ได้หลายชนิด ได้แก่ ฟักทอง กะหล่ำปลี แตงกวา และบรอคโคลี เป็นต้น โดยผักดังกล่าวอุดมไปด้วยวิตามินและบีต้า แคโรทีนซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันร่างกายของน้องแมว แต่ควรให้แมวกินผักในปริมาณเล็กน้อยและหลีกเลี่ยงส่วนแข็งที่มีเส้นใยอาหารสูง นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องแมวกินผักที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ได้แก่ ต้นหอมและกระเทียม
4. เห็ดต่าง ๆ
เห็ดต่าง ๆ เช่นเห็ดหอม เห็ดเข็มทอง และเห็ดไมตาเกะ เป็นต้น อุดมไปด้วยวิตามินดีและวิตามินบี ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของน้องแมว อย่างไรก็ดี ควรสับหรือบดเห็ดให้ละเอียดและปรุงให้สุกก่อนให้น้องแมวกิน
5. ชีส
ชีสอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียม และวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของภูมิคุ้มกันร่างกายของน้องแมว ทั้งนี้ควรระวังไม่ให้น้องแมวกินชีสที่มีรสเค็มหรือมีปริมาณไขมันสูง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพควรเลือกชีสที่มีขายสำหรับน้องแมว
เมื่อเลี้ยงไว้ในบ้านไม่ว่าน้องหมาหรือแมวก็กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญของบ้าน หากน้องแมวเบื่ออาหารสำเร็จรูปและอยากกินอาหารเหมือนเจ้าของ ก็ลองสรรหาอาหารดังกล่าวมาปรุงให้น้องกินดูค่ะ แต่ทั้งนี้ก็ระวังอย่าปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องปรุงรสต่าง ๆ นะคะ
สรุปเนื้อหาจาก: article.yahoo