เพื่อน ๆ เคยไหมคะ เวลาที่รู้สึกเครียด กังวล ไม่สบายใจ หงุดหงิด ก็จะหาอะไรกินเพื่อแก้เครียดทั้งที่ท้องก็ไม่ได้หิว ความอยากกินแบบนี้เรียกว่า การกินด้วยอารมณ์ (Stress Eating หรือ Emotional Eating) ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า yake gui (やけ食い) เป็นการกินเพื่อเติมเต็มทางความรู้สึกมากกว่าความหิวจากร่างกาย ซึ่งนอกจากความเครียดแล้ว อารมณ์ในแง่ลบอื่น ๆ ก็ทำให้รู้สึกอยากกินขึ้นมาได้เหมือนกัน แล้วแต่ละกรุ๊ปเลือดจะรู้สึกอยากกินด้วยอารมณ์แบบไหนบ้างนะ ?
กรุ๊ป A : เมื่ออยู่ภายใต้ความเครียด
กรุ๊ป A มีจิตใจที่อ่อนไหว มีเรื่องอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาในใจก็มักจะเครียดง่าย และเพื่อบรรเทาความเครียดนั้น ไม่มีอะไรดีไปกว่าการกิน หลังเลิกงานก็แวะซื้ออาหารจำนวนมากที่ร้านสะดวกซื้อหรือซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วลงมือกินอย่างหนำใจทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่กรุ๊ป A ก็มีนิสัยที่จริงจัง หลังกินจนหมดก็รู้สึกผิดทันที ทำให้เครียดยิ่งกว่าเดิมซะงั้น
กรุ๊ป B : เมื่อความสัมพันธ์ไปได้ไม่ดี
ด้วยความที่กรุ๊ป B ชอบเข้าสังคม จึงมักจะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์เพราะชอบออกไปเที่ยวกับคนนู้นคนนี้มากมาย เมื่อมีปัญหาก็รู้สึกหงุดหงิดจนต้องหาของกิน แต่คนขี้เหงาอย่าง B มีหรือจะไปคนเดียว ต้องชวนใครสักคนไปกินด้วยเสมอ จะบุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่าง ชาบู หมูกระทะ หรืออะไรก็ได้ ถ้าได้พูดคุยเยอะ ๆ ได้กินเยอะ ๆ จะรู้สึกดีขึ้นเอง
กรุ๊ป O : เมื่อกดดันจากการไดเอ็ต
กรุ๊ป O มีความตั้งใจไม่ค่อยแน่วแน่ เมื่อตัดสินใจไดเอ็ตก็จะกำหนดข้อจำกัดเรื่องอาหารอย่างเข้มงวดให้กับตัวเอง แต่สุดท้ายก็เบื่อหน่ายจนล้มเลิกไป น้ำหนักก็ไม่ลดแถมยังอยากกินมากกว่าเดิมเนื่องจากการโดนงดอาหารตอนไดเอ็ต พอเลิกไดเอ็ตก็หันมากินของชอบทุกอย่างเท่าที่จะยัดได้ สุดท้ายก็น้ำหนักเพิ่มมากกว่าก่อนไดเอ็ตซะอีก
กรุ๊ป AB : เมื่ออกหัก
กรุ๊ป AB ที่ใจเย็นและสุขุม แต่พอเป็นเรื่องของความรักก็เสียทรงเสียศูนย์ขึ้นมาทันที ตกหลุมรักได้อย่างหน้ามืดตามัว เมื่ออกหักก็รู้สึกช็อกเหมือนโลกทั้งใบพังทลาย และเพื่อที่จะกลบความเศร้านั้นจึงต้องหาอะไรมากินเยียวยาจิตใจ รู้ทั้งรู้ว่าของกินมันรักษาความเจ็บนี้ไม่ได้ แต่แค่อิ่มท้องก็น่าจะลืมความปวดใจนี้ไปได้แม้เพียงชั่วครู่ก็ตาม
การกินด้วยอารมณ์ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย แต่หากต้องกินทุกครั้งที่มีปัญหา ยิ่งนานไปร่างกายก็จะยิ่งมีปัญหาสุขภาพตามมาด้วยแน่นอน กินแค่พอดี ไม่ควรตามใจปากมากเกินไปนะคะ
สรุปเนื้อหาจาก uranaitv