ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นแต่อัตราเงินเดือนยังคงเท่าเดิม ทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนมากหันมาประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านรวมถึงประหยัดไฟกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะประหยัดไฟอย่างเต็มที่แล้วแต่ค่าไฟก็ยังสูงลิ่วทุกเดือน ซึ่งแสดงว่ามีบางสิ่งที่เราอาจไม่รู้หรือมองข้ามไป มารู้ 4 สิ่งสำคัญที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าไม่ควรทำเมื่อต้องการประหยัดค่าไฟกันค่ะ
4 ข้อห้ามทำ ถ้าอยากประหยัดค่าไฟ
1. ตู้เย็นที่เต็มไปด้วยอาหาร เครื่องดื่มและเครื่องปรุงรสอาหาร
คนส่วนใหญ่คิดว่าการประหยัดไฟจากการใช้ตู้เย็นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเนื่องจากต้องเสียบปลั๊กตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบกับคนจำนวนมากคิดว่าวิธีการประหยัดเงินที่ดีที่สุดคือการทำกับข้าวเองที่บ้าน จึงซื้อวัตถุดิบรวมถึงเครื่องปรุงเก็บไว้ในตู้เย็นจนเต็ม แต่ตู้เย็นที่เต็มอยู่เสมอจะใช้ไฟเปลืองมากกว่าตู้เย็นที่มีของน้อย ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อต้องการประหยัดไฟตู้เย็นคือ ไม่ควรแช่ของกินไว้จนเต็มตู้เย็น เก็บอาหารที่หมดอายุออกทิ้งบ้าง ไม่ควรเปิดตู้เย็นบ่อยและเปิดทิ้งไว้เป็นเวลานาน
2. รีดผ้าทีละชุด
เตารีดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟ การเสียบปลั๊กเตารีดแต่ละครั้งจะใช้ไฟมากเพื่อตั้งอุณหภูมิเตารีดให้ร้อนพร้อมรีดผ้าเรียบ ดังนั้นจึงไม่ควรรีดผ้าทีละชุดแต่ให้รีดไว้ครั้งละหลาย ๆ ชุด ซึ่งจะประหยัดไฟได้เยอะ ทั้งนี้อย่าพรมน้ำเสื้อผ้าจนเปียกเพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาในการรีดผ้ามากขึ้นแล้วก็ยังทำสิ้นเปลืองไฟมากขึ้นด้วย
3. เปิดปิดเครื่องปรับอากาศบ่อยครั้ง
การเปิดเครื่องปรับอากาศเป็นช่วงที่ใช้ไฟสูงมากเพราะเครื่องต้องปรับอุณหภูมิในห้องให้เท่าอุณหภูมิที่เราตั้งไว้ หากออกไปข้างนอกเพียงไม่นาน การเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้จะประหยัดไฟได้มากกว่าการปิดแล้วกลับมาเปิดใหม่ นอกจากนี้ ยังมีวิธีการประหยัดไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศดังนี้
- ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 28 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ประหยัดค่าแอร์ได้มากที่สุด แต่หากอยู่ร่วมกันหลายคนอาจจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ก็อาจปรับอุณหภูมิลงเล็กน้อย
- ทำความสะอาดฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศหรือแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพราะหากแผ่นกรองอากาศสกปรกหรือมีฝุ่นเกรอะ เครื่องปรับอากาศต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะขึ้นเพื่อทำให้ห้องเย็น
- ปิดผ้าม่านเพื่อช่วยป้องรังสีความร้อนรวมถึงความหนาวจากภายนอก ทำให้ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำหรือสูงกว่าปกติ (สำหรับเครื่องปรับอากาศที่เป็นตั้งแอร์และฮีตเตอร์ในเครื่องเดียวกัน) เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่สบายตัว จึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง
4. ใช้เครื่องซักผ้าเก่าอายุเกินกว่า 10 ปี
คนจำนวนมากคิดว่าการใช้เครื่องซักผ้าเก่าอายุเกิน 10 ปี เป็นการประหยัดไม่ต้องจ่ายเงินซื้อเครื่องใหม่ แต่จากที่รัฐบาลญี่ปุ่นออกแบบสอบถามเมื่อปี 2018 พบว่าอายุการใช้เครื่องซักผ้าโดยเฉลี่ยเป็นเวลา 10.8 ปี เทียบกับค่าไฟของเครื่องซักผ้าใหม่ที่ผลิตโดยผู้ผลิตเดียวกันพบว่าเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่จะช่วยประหยัดไฟได้ปีละประมาณ 8,000 เยน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ประหยัดน้ำด้วย หากใช้จนคุ้มค่าเป็นเวลาครบ 10 ปีแล้วการเปลี่ยนเครื่องซักผ้าใหม่น่าจะเป็นทางเลือกเพื่อเก็บเงินไว้ในกระเป๋าได้มากขึ้น
ในยุคข้าวของแพงอะไรที่ประหยัดได้เราก็ทำกันไป การประหยัดไฟเป็นอีกหนึ่งการประหยัดที่ทุกบ้านทำกันมาตลอดเพื่อลดค่าใช้จ่ายรายเดือน หากพยายามประหยัดไฟแล้วแต่ค่าไฟยังแพงอยู่ก็ลองพิจารณาถึงสิ่งที่ไม่ควรทำข้างต้นดูค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก msn