หากใครมีโอกาสได้คลุกคลีกับชาวญี่ปุ่นมาเยอะ จะสังเกตเห็นว่า คนญี่ปุ่นมักนิยมเช่าคอนโดหรืออพาร์ทเมนต์มากกว่าซื้อบ้าน เนื่องจากความไม่มั่นใจในศักยภาพทางการเงินของตัวเอง ความกังวลเรื่องการเปลี่ยนงานในอนาคต รวมถึงในปัจจุบัน ประชากรญี่ปุ่นก็มีอัตราการแต่งงานต่ำ ทำให้ไม่คิดจะปักหลักสร้างถิ่นฐาน ณ ที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษ วันนี้เราจะพามาดูเหตุผลที่แท้จริงกันค่ะ ว่าทำไมคนญี่ปุ่นจำนวนมากถึงคิดว่าการซื้อบ้านคือภาระมากกว่าทรัพย์สิน
1. ขายต่อยาก เพราะคนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อบ้านมือสอง
บางคนอาจคิดว่าถ้าซื้อไปแล้ว วันหนึ่งอยากเปลี่ยนไปซื้ออีกหลังหนึ่งก็แค่ขาย บ้านพร้อมที่ดินแบบนี้ใครจะไม่อยากได้ใช่ไหมล่ะคะ แต่ขอบอกไว้เลยค่ะ ในกรณีของญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องยอมรับว่า คนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อบ้านมือสองสักเท่าไร เนื่องจากมีความคิดว่า ซื้อทั้งทีก็อยากได้หลังใหม่ที่มีการก่อสร้างที่ทันสมัย
แต่ก็ใช่ว่าจะขายไม่ออกเสียทีเดียวนะคะ ในระยะหลังมานี้ ชาวต่างชาติที่ติดใจวิถีชีวิตญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านมือสองสภาพดี มารีโนเวทเพื่ออยู่เองและทำบ้านพักตากอากาศเป็นจำนวนมาก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ดังนั้น ถ้าไม่คิดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ วันหนึ่งเกิดไม่อยากได้ขึ้นมาแล้ว จะขายต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นั่นเองค่ะ
2. บ้านมือหนึ่งแพง และบ้านมือสองก็ภาพลักษณ์ไม่ดี
ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีฝนตกชุกและมีความชื้นสูง นอกจากนี้ยังมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โครงสร้างอาคารต่าง ๆ จึงเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่าย กล่าวอีกนัยหนึ่ง บ้านในญี่ปุ่นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากต่อการรักษาคุณภาพและราคานั่นเอง ด้วยเหตุผลนี้เอง ชาวญี่ปุ่นจึงมักหลีกเลี่ยงบ้านที่มีอายุการสร้างมายาวนาน ยิ่ง 15-20 ปีขึ้นไปด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดีมาก ๆ เพราะคงไม่มีใครอยากย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่มีโครงสร้างทรุดโทรมใช่ไหมล่ะคะ แน่นอนว่า การซื้อหลังใหม่ที่เป็นมือหนึ่งนั้นแพงกว่ามือสองมากก็จริง แต่ก็พ่วงมาด้วยสิทธิพิเศษ เช่น ภาษีทรัพย์สินที่ลดลงเนื่องจากราคาสูงกว่า ทำให้ถ้าเลือกได้คนญี่ปุ่นก็จะมักเลือกบ้านมือหนึ่งที่แพงกว่านั่นเอง
3. เป็นภาระต่อคนรุ่นหลัง
ปัจจุบันญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างรุนแรง อัตราการเกิดลดลงขณะที่ประชากรสูงวัยกลับเพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่าหากจำนวนประชากรลดลงจำนวนบ้านว่างก็จะเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ได้รับบ้านเป็นมรดกจากครอบครัวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้จำนวนคนในกลุ่มอายุที่จะซื้อบ้านลดลงตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้น ความต้องการที่ดินและที่อยู่อาศัยก็จะหายไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าบ้านหนึ่งหลังมีภาระทางภาษีพ่วงมาด้วยไม่น้อย
จะเห็นได้ว่า ตลาดในอสังหาริมทรัพพย์ของญี่ปุ่นแตกต่างจากในไทยมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมและภัยธรรมชาติที่คาดเดาไม่ได้ การย้ายงานต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาการทำงาน ภาระเงินกู้และดอกเบี้ย รวมถึงภาระทางภาษีต่าง ๆ ที่ส่งผลให้คนญี่ปุ่นอาจต้องคิดเยอะขึ้นในการเลือกเป็นเจ้าของทรัพย์สินประเภทบ้านนั่นเอง
สรุปที่มาจาก: savehack.net