ภาษาไทยมีอักขระ ไม้ยมก (ๆ) ที่ใช้ในการซ้ำคำ ในภาษาญี่ปุ่นเองก็มีเช่นกัน แถมไม่ได้มีแค่ตัวเดียว! แต่ยังมีมากมายหลายแบบอีกด้วย! ยกตัวอย่างคำที่มีการซ้ำคำเช่น shoushou (少), suzume (スメ), gakumon no susume (学問のすめ) มีการใช้อักขระ 々, ヾ, ゝ ขีดหน้าตาแปลก ๆ เหล่านี้นี่แหละคือ สัญลักษณ์ซ้ำคำ (繰り返し記号) ของภาษาญี่ปุ่น ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักสัญลักษณ์ซ้ำคำแบบต่าง ๆ ว่ามีชื่อเรียกและวิธีการใช้อย่างไร รวมถึงวิธีพิมพ์สัญลักษณ์ซ้ำคำเหล่านี้บนคอมพิวเตอร์ ไปดูกันเลยยย!

々,ヽ,ヾ,ゝ,ゞ,〃,仝,〱,〲 สัญลักษณ์เหล่านี้คืออะไร ?

ภาษาญี่ปุ่น

々,ヽ,ヾ,ゝ,ゞ,〃,仝,〱,〲 ไม่ใช่ตัวอักษรแต่เป็น สัญลักษณ์ซ้ำคำ ที่ใช้ในการซ้ำคำก่อนหน้า มีหน้าที่คล้ายไม้ยมก (ๆ) ในภาษาไทย มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น

  1. kurikaeshi kigou (繰り返し記号)
  2. odoriji (踊り字)
  3. hanpuku kigou (反復記号)
  4. kurikaeshi fugou (繰り返し符号)
  5. kasaneji (重ね字)
  6. okuriji (送り字)
  7. jyouji (畳字)

ยกตัวอย่างคำที่มีสัญลักษณ์ซ้ำคำ เช่น คำว่า shoushou (少), suzume (スメ), gakumon no susume (学問のすめ) หากเขียนโดยไม่ใช้สัญลักษณ์ซ้ำคำ จะเขียนได้เป็น

 - 少 = 少
 - スメ = スメ
 - 学問のすめ = 学問のす

ความเป็นมาของสัญลักษณ์ซ้ำคำ

ภาษาญี่ปุ่น

ในสมัยราชวงศ์ซางของประเทศจีนมีการใช้สัญลักษณ์ = ในการซ้ำคำ อย่างเช่นคำว่า 子子孫孫 จะถูกเขียนเป็น 子== ว่ากันว่าอักษรคันจิถูกถ่ายทอดจากประเทศจีนสู่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงราวศตวรรษที่ 4-5 แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าสัญลักษณ์ซ้ำคำถูกถ่ายทอดมาพร้อมกันหรือไม่

ทั้งนี้ เชื่อกันว่าในญี่ปุ่นมีการใช้สัญลักษณ์ซ้ำคำมาตั้งแต่ก่อนสมัยนารา ตัวอย่างจาก มันโยชู (万葉集) หนังสือรวมบทกวีวากะที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งรวบรวมขึ้นเมื่อปลายสมัยนารา มีข้อความว่า 何時毛〻〻〻อ่านว่า itsumo itsumo

ต่อมา เมื่อมาถึงในสมัยเฮอัน มีการสร้างอักษรฮิรางานะและคาตากานะขึ้น โดยสัญลักษณ์ซ้ำคำก็ถูกนำมาใช้กับอักษรฮิรางานะและคาตากานะด้วยเช่นกัน แต่ถูกย่อกลายเป็นตัวโดยให้ใช้กับฮิรางานะ และตัวใช้กับคาตากานะ

สัญลักษณ์ซ้ำคำแบบต่าง ๆ ในภาษาญี่ปุ่น

สัญลักษณ์ซ้ำคำในภาษาญี่ปุ่นมีหลายแบบหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีชื่อเรียกและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไป เราลองไปดูกันค่ะ

ภาษาญี่ปุ่น

1. 々

มีชื่อเรียกว่า dou no jiten (同の字点) บ้างก็เรียกว่า noma (ノマ) หรือ nomaten (ノマ点) เนื่องจากเหมือนตัว no (ノ) กับตัว ma (マ) มารวมกัน ใช้ในการซ้ำคันจิตัวเดิม เป็นสัญลักษณ์ซ้ำคำที่พบเห็นได้มากที่สุด เช่น

 - hibi (日)
 - ifuudoudou (威風堂)
 - tenten (点)
 - shishisonson (子)

อีกทั้งยังสามารถใช้กับชื่อคนได้ เช่น

 - sasaki (佐木)
 - nanako (奈子)

2. ゝ และ ゞ

และ ทั้ง 2 ตัวนี้มีชื่อเรียกว่า ichi no jiten (一の字点) หรือ hitotsuten (一つ点) ใช้ในการซ้ำฮิรางานะตัวเดิม แต่ถ้าหากมีเครื่องหมาย tenten หรือเสียงขุ่น (ขีด 2 ขีดเล็ก ๆ ที่มุมขวาบน) ฮิรางานะที่เป็นตัวซ้ำก็ต้องมีเครื่องหมาย tenten ด้วย เช่น

 - kokoro (ころ = ころ)
 - mamagoto (まごと = まごと)
 - tsuduku (つく = つく)
 - isuzu jidousha (いす = いす 自動車)

อีกทั้งยังสามารถใช้กับชื่อคนได้ เช่น

 - momoko (も子)
 - suzuko (す子)

3. ヽ และ ヾ

และ ทั้ง 2 ตัวนี้มีชื่อเรียกว่า ichi no jiten (一の字点) หรือ hitotsuten (一つ点) ใช้ในการซ้ำคาตากานะตัวเดิม แต่ถ้าหากมีเครื่องหมาย tenten หรือเสียงขุ่น (ขีด 2 ขีดเล็ก ๆ ที่มุมขวาบน) คาตากานะที่เป็นตัวซ้ำก็ต้องมีเครื่องหมาย tenten ด้วย เช่น

 - susuki (スキ = スキ)
 - tatami (タミ = タミ)
 - shijimi (シミ = シミ)
 - suzume (スメ = スメ)

4. 〃

มีชื่อเรียกว่า nonoten (ノノ点) หรือ nono jiten (ノノ字点) หรือ onajiku kigou (同じく記号) ใช้ในการซ้ำประโยคหรือวลีเดิมจากบรรทัดบน ใช้กับตารางหรือการเขียนที่เรียงกันเป็นข้อลงมา เช่น

5. 仝

มีชื่อเรียกว่า dou (どう) ใช้ในการซ้ำประโยคหรือวลีเดิมจากข้อความด้านบน คล้ายกับ 〃 แต่จะใช้ในความหมายว่า “ดังเช่นด้านบน” มักใช้ในเอกสารทางการ เช่น

Satsumahan (薩摩藩) SaigouTakamori (西郷隆盛)
dou () Ookubo Toshimichi (大久保利通)

6. 〱 และ 〲

และ มีชื่อเรียกว่า ku no jiten (くの字点) มีลักษณะคล้ายตัว く ของฮิรางานะ ส่วนมากพบเห็นได้ในการเขียนภาษาญี่ปุ่นแบบแนวตั้ง ใช้ในการซ้ำคำเดิมที่มีอักษรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ถ้าหากมีเครื่องหมาย tenten หรือเสียงขุ่น (ขีด 2 ขีดเล็ก ๆ ที่มุมขวาบน) ตัวอักษรแรกที่เป็นตัวซ้ำก็ต้องมีเครื่องหมาย tenten ด้วย เช่น

วิธีพิมพ์สัญลักษณ์ซ้ำคำ

ภาษาญี่ปุ่น

สำหรับวิธีการพิมพ์สัญลักษณ์ซ้ำคำ สามารถพิมพ์คำว่า onaji (おなじ) หรือ kurikaeshi (くりかえし) หรือ dou (どう) แล้วกดสเปซบาร์ ก็จะปรากฎสัญลักษณ์ขึ้นมาให้เลือกใช้ได้ ในสมาร์ทโฟนก็สามารถพิมพ์ได้เช่นกัน แต่สำหรับสัญลักษณ์ 〱 และ 〲 ยังไม่มีข้อมูลวิธีการพิมพ์ในสมาร์ทโฟน จึงสามารถพิมพ์ได้เฉพาะบนคอมพิวเตอร์เท่านั้น

วิธีการพิมพ์สัญลักษณ์ 〱 และ 〲 แบบแนวตั้ง

ในการพิมพ์เป็นแนวตั้ง ก็สามารถพิมพ์คำว่า onaji (おなじ) หรือ kurikaeshi (くりかえし) หรือ dou (どう) แล้วกดสเปซบาร์ ก็จะปรากฎสัญลักษณ์ขึ้นมา ให้เลือกเฉพาะเส้นแทยงส่วนบนก่อน จากนั้นพิมพ์หาสัญลักษณ์อีกครั้งแล้วเลือกเส้นแทยงส่วนล่าง ก็จะประกอบกันได้เป็นตัว 〱 ดังนี้

ทั้งนี้ สัญลักษณ์ 〱 และ 〲 เป็นอักขระที่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม กล่าวคือจะอ่านได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ ทำให้คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนบางรุ่นอาจจะไม่สามารถอ่านอักขระตัวนี้ได้ ด้วยเหตุนี้คนส่วนมากจึงไม่นิยมใช้สัญลักษณ์นี้

ข้อควรระวังในการใช้สัญลักษณ์ซ้ำคำ

  1. สัญลักษณ์ซ้ำคำถูกกำหนดให้เป็นอักขระที่ห้ามใช้เป็นตัวแรกของบรรทัด ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์บนคอมพิวเตอร์หรือการเขียนลงในกระดาษ เนื่องจากอาจทำให้ประโยคดูไม่บาลานซ์ อ่านยากหรืออ่านผิดได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสัญลักษณ์อื่น ๆ เช่น 、。!?เป็นต้น
  2. สัญลักษณ์ซ้ำคำ ヽ,ヾ,ゝ,ゞ,〃,仝,〱,〲 จะไม่ใช้ในหนังสือพิมพ์หรือตำราเรียน ยกเว้นชื่อเฉพาะ เช่น isuzu jidousha (いすゞ自動車), momoko (もゝ子)
  3. หนังสือพิมพ์หรือตำราเรียนจะใช้สัญลักษณ์ซ้ำคำแค่เพียงตัว 々

ในเอกสารเก่าแก่สามารถพบเห็นการใช้สัญลักษณ์ซ้ำคำได้มากมายหลายแบบ แต่ในปัจจุบันมีเพียงตัว 々 ที่นิยมใช้กันเป็นส่วนมากจนคุ้นหน้าคุ้นตา ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเหตุใดตัวอื่น ๆ จึงถูกใช้น้อยลง แต่เราก็สามารถเรียนรู้ไว้เป็นความรู้ติดตัว เผื่อว่าไปเจอสัญลักษณ์เหล่านี้ที่ไหนสักแห่ง เราก็จะสนุกกับการอ่านภาษาญี่ปุ่นมากขึ้นด้วยนะคะ!

สรุปเนื้อหาจาก jpnculture

AsmarCat

นักเขียนทาสแมวที่คอสเพลย์เป็นงานอดิเรก ชื่นชอบ Pop Culture ของญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ดูเมะ ฟังเพลง และ Cafe Hopping มามองญี่ปุ่นในมุมใหม่ ๆ ไปด้วยกันนะคะ

ไอคอน PDPA

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า