มันเทศ มีหลากหลายสายพันธุ์ซึ่งแต่ละพันธุ์มีความหวานและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันไป บางพันธุ์ที่มีเนื้อนุ่มฟู บางพันธุ์เนื้อเหนียวนุ่ม การเลือกพันธุ์ให้เหมาะกับความชอบและเมนูอาหารแต่ละชนิดจึงเป็นเรื่องสนุกและท้าทาย วันนี้ผู้เขียนเลยจะพามารู้จัก 5 สายพันธุ์ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นและลักษณะเด่นเฉพาะของแต่ละพันธุ์ค่ะ!
1. นารุโตะคินโตคิ
นารุโตะคินโตคิ (Naruto Kintoki, 鳴門金時) เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากที่เมืองนารุโตะ จังหวัดโทคุชิมะ โดยมีลักษณะเฉพาะ คือผิวเปลือกมีสีแดงสวยงามแต่เมื่อนำไปย่างหรืออบด้วยความร้อนเนื้อข้างในจะมีสีเหลืองทอง มีเนื้อสัมผัสนุ่มฟูและหวานละมุน
2. เบนิอะซึมะ
เบนิอาซึมะ (Beni Azuma, 紅あずま) พบมากในพื้นที่คันโตซึ่งรวมถึงจังหวัดอิบารากิและชิบะ และได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น มีลักษณะเด่น คือ มีเปลือกสีแดงและรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ มีเนื้อสัมผัสเหนียวและนุ่มแต่หวานน้อยกว่าพันธุ์อื่นเล็กน้อย จึงเหมาะสำหรับการนำมาเผาหรือทอดเทมปุระ
3. เบนิฮารุกะ
เบนิฮารุกะ (Beni Haruka, 紅はるか) เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงในญี่ปุ่น ลักษณะเด่นคือ รสหวานที่มากกว่าพันธุ์ธรรมดาทั่วไป เนื้อสัมผัสก็นุ่มและเคี้ยวหนึบอร่อยกว่า นอกจากนี้ ด้วยรูปทรงและผิวเปลือกที่มีสีแดงสวยงามทำให้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับทำยากิอิโมะหรือมันเผา
4. อันโนอิโมะ
อันโนอิโมะ (Anno imo, 安納芋) เพิ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีรสชาติหวานมากและมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม ยิ่งเมื่อนำไปย่างหรืออบก็จะมีรสหวานอร่อยที่ราวกับรับประทานขนมหวานเลยทีเดียว คนญี่ปุ่นจึงมักนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำขนม เช่น เค้ก คุกกี้ และเมนูเครื่องดื่ม เช่น ลาเต้ยากิอิโมะ เป็นต้น
5. ซิลค์สวีท
ซิลค์สวีท (Silk Sweet , シルクスイート: ออกเสียงญี่ปุ่นว่า “ชิรูกุ ซูอิโตะ”) อีกหนึ่งพันธุ์ใหม่ที่มีความหวาน อีกทั้งเนื้อสัมผัสมีความเนียนนุ่มละลายในปาก เมื่อนำไปอบหรือเผาแล้วเนื้อจะกลายเป็นสีเหลืองเข้มคล้ายกับรังไหมและนุ่มฟูขึ้นเนื่องจากมีปริมาณน้ำมากกว่าพันธุ์อื่น
ในช่วงที่อากาศหนาวมันเทศญี่ปุ่นเผาหรืออบเป็นเมนูอาหารคลายหนาวที่สร้างความฟินเป็นอย่างยิ่ง หากใครชอบอยู่แล้วก็ลองมองหาชื่อพันธุ์ตามที่เขียนไว้ข้างต้นมารับประทานดูค่ะ ทั้งนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายที่ดองกิในเมืองไทยโดยไม่จำเป็นต้องมาญี่ปุ่นด้วยค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: magokoro-care-shoku.com