เป็นที่ทราบกันดีว่าอาหารญี่ปุ่นได้รับการยอมรับในระดับโลก ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นแนวยาวทำให้อาหารญี่ปุ่นมีลักษณะเด่น นั้นก็คือใช้วัสดุดิบจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และเน้นการปรุงที่รักษารสชาติของวัตถุดิบไว้ให้ได้มากที่สุด อาหารญี่ปุ่นสามารถแบ่งแยกย่อยลงไปได้อีกหลากหลายรูปแบบ ทำให้มีร้านอาหารก็มีหลากหลายประเภทเช่นกัน ในบทความนี้จะมาแนะนำ “เรียวเท” ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม จะพิเศษขนาดไหนมาดูกันเลยค่ะ
“เรียวเท” คืออะไร ?
“เรียวเท” เป็นร้านที่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่น แต่มีความแตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปตรงที่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับในบรรยากาศที่ผ่อนคลายในห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมรับบริการอย่างอบอุ่นจากบริกรและเกอิชาที่เชี่ยวชาญ อาหารญี่ปุ่นมีพื้นฐานมาจากการให้ความบันเทิงแก่แขกในห้องส่วนตัว ดังนั้นการรับประทานอาหารพร้อมรับบริการแบบโอโมเตนาชิ หรือการบริการสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อให้ลูกค้ามีความประทับใจและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ร้านอาหารแบบเรียวเทจึงสะท้อนให้เห็นถึงจุดเด่นของอาหารญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่จะเสิร์ฟเป็นอาหารไคเซกิ หรือชุดอาหารคอร์สสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมโดยจะเสิร์ฟอาหารแต่ละจานตามลำดับ เน้นความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบตามฤดูกาล การปรุงแต่ง และกรรมวิธีที่ใช้ในการปรุงจนกระทั่งการนำเสนออาหาร
3 มารยาทที่ควรระวัง!
การรับประทานอาหารที่เรียวเทไม่ได้มีข้อกำหนดที่ยุ่งยากจนเกินไป แต่จะขอแนะนำมารยาท 3 ข้อที่ควรระวังก่อนเข้าไปใช้บริการ
1.การจับภาชนะใส่อาหาร
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเสิร์ฟอาหารโดยเฉพาะชาม เป็นเครื่องคลือบช่วยเพิ่มความหรูหราน่าทานให้กับอาหาร ถ้าเปรียบอาหารเป็นพระเอก ถ้วยชามก็คงเป็นพระรอง แต่ถึงจะเป็นพระรองแต่ก็ต้องใส่ใจกับภาชนะไม่แพ้วัตถุดิบ เพราะสีบนชามไวต่อแรงกระแทกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฝาชามที่ ไม่ควรสัมผัสกับอาหารโดยตรง ดังนั้นเมื่อรับประทานเสร็จควรคืนฝาชามในสภาพเดิน ไม่ควรพลิกฝาชามขึ้นเพราะจะทำให้สีหลุดหลอกได้ การใส่ใจในการหยิบจับภาชนะ ทำให้การเคลื่อนไหวของเราช้าลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ช่วยให้โฟกัสไปกับมื้ออาหารได้ดีขึ้น
2.รวมก้างปลาไว้ที่มุมจาน
อาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องมีเมนูปลา และถ้ามีปลาก็ต้องมีก้าง ขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป การใช้ตะเกียบเอาก้างปลาออกถือเป็นความท้าทายของคนต่างชาติที่ใช้ช้อนกับซ้อมเป็นหลักอย่างเรา ๆ มีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเอาก้างปลาออก นั่นก็คือ ใช้ตะเกียบกดที่ตัวปลาเบา ๆ เพื่อให้ก้างหลุดจากออกเนื้อปลา จะช่วยให้เอาก้างออกได้ง่ายขึ้น ถ้าเป็นเมนูปลาที่เสิร์ฟมาพร้อมหัวและหาง แนะนำให้เลาะก้างออกแทนการพลิกตัวปลา หรือถ้าพกกระดาษไคชิติดตัวมาด้วย ก็สามารถนำมาห่อก้างปลาที่รับประทานเสร็จแล้วได้ (กระดาษไคชิคือ กระดาษอเนกประสงค์ สมัยก่อนคนญี่ปุ่นจะพกติดตัวไว้กับชุดกิโมโน สามารถใช้ได้หลากหลายสถานการณ์ เช่น ทิชชู่ กระดาษจดบันทึก ทุกวันนี้ก็สามารถหาซื้อได้ทั่วไป)
3.หยุดดื่มเมื่อซุปมิโซะถูกเสิร์ฟ
อาหารที่เสิร์ฟในเรียวเทจะเป็นอาหารคอร์ส เราจะรู้ว่าจบคอร์สแล้วก็ต่อเมื่อ “โทเมะวัง” ถูกยกมาเสิร์ฟ “โทเมะวัง (止め椀 / Tomewan) “ หมายถึง ซุปมิโซะหลังมื้ออาหาร ซึ่งเป็นเมนูสุดท้ายโดยจะเสิร์ฟพร้อมข้าวและผักดอง ถ้าเจอถ้วยซุปมิโซะให้หยุดดื่มแอลกอฮอล์และดื่มชาแทน
5 ข้อแนะนำในการเลือกร้าน
วิธีเลือกร้านสำหรับมือใหม่คือ ดูจาก “มิชลินไกด์” ค่ะ เพราะร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินได้รับการการันตีในด้านคุณภาพของอาหาร บรรยากาศและบริการอยู่แล้ว สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ หลังจากดูรายชื่อร้านอาหารในมิชลินไกด์แล้ว มีปัจจัย 5 ที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกร้าน
1. การบริการพนักงาน
แนะนำให้เลือกร้านที่มีพนักงานที่ผ่านได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี เพราะจะเป็นการรับประกันการบริการลูกค้าที่เหมาะสมตั้งแต่รับลูกค้าเข้าร้านจนถึงเวลาที่ลูกค้าเดินออกจากร้านไป
2. ความเข้าใจในวัตถุดิบ
เลือกร้านที่มีความรู้ความเข้าใจในวัตถุดิบของอาหารที่เสิร์ฟ เช่น ปลาชนิดนี้ควรรับประทานช่วงไหน หรือถ้ารับประทานช่วงนี้ ควรเลือกปลาจากแหล่งไหน เป็นต้น ทางร้านควรมีความรู้พื้นฐานของวัตถุดิบเพื่อยืนยันคุณภาพของอาหารให้กับลูกค้า
3. เวลาเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม
เลือกร้านที่สามารถเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มได้ถูกเวลา โดยพื้นฐานแล้วจะไม่กำหนดเวลาเสิร์ฟ อาหารแต่ละจานจึงถูกเสิร์ฟตามการรับประทานอาหารของลูกค้าเป็นหลัก
4. บรรยากาศ
ความอร่อยไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการเลือกร้านอาหาร บรรยากาศภายในร้านก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เช่น ความสะอาด ความกว้างของห้องอาหาร วิวที่มองเห็นได้จากห้องอาหาร เป็นต้น
5. ความน่าเชื่อถือ
คนญี่ปุ่นนิยมเลือกใช้บริการห้องอาหารเรียวเทในโอกาสพิเศษ เช่น รับรองแขก เจรจาธุรกิจ ฉลองวันครบรอบ เป็นต้น การเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพในการรักษาหน้าเจ้าภาพ เพราะสามารถมั่นใจว่าจะไม่ทำให้อีกฝ่ายผิดหวังแน่นอน
เรียวเทคือร้านอาหารที่ให้บริการอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับในห้องสไตล์ญี่ปุ่น และสามารถรับบริการจากเกอิชาได้นั้นเองค่ะ เป็นร้านอาหารที่ไม่ได้ขายเฉพาะอาหาร แต่รวมถึงการบริการที่ยอดเยี่ยมตามสไตล์โอโมเตนาชิ หัวใจของการบริการแบบญี่ปุ่นที่เอาชนะใจคนได้ทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงคำจำกัดความของอาหารญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ถ้ามีโอกาส (และทุนทรัพย์) ก็เป็นอีกร้านที่น่าลองนะคะ
หรือถ้าอยากลองชิมอาหารระดับเรียวเทในจังหวัดนีงาตะที่ขึ้นชื่อว่าปลูกข้าวอร่อยที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมชมวิวทะเลสวย ๆ ไปด้วยล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองตีตั๋วขึ้นรถไฟ KAIRI หนึ่งใน Joyful Train ของ JR EAST สักครั้ง! ส่วนจะอร่อยขนาดไหนนั้น ไปอ่านรีวิวกันต่อในลิ้งก์ได้เลย
สรุปเนื้อหาจาก: nihonryouri, kobayashi-foods
