เพื่อน ๆ ผู้อ่าน CONOMI พอจะคุ้นชื่อเจงกิสข่านกันไหมคะ หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงชื่อของบุคคลในประวัติศาสตร์ หรือเพลงเจงกิสข่าน? แล้วทราบรึเปล่าว่าเจงกิสข่านเป็นชื่อ เมนูอาหารชื่อดังของฮอกไกโด ด้วย วันนี้ผู้เขียนจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกันเมนูนี้กันค่ะ
เมนูเจงกิสข่านคืออะไร?
ดูหน้าตาแล้วก็ไม่ต่างจากเนื้อย่างเลยใช่ไหมคะ ใช่แล้วค่ะ เมนูเจงกิสข่าน ก็คือเมนูเนื้อย่างเหมือนที่เรากินกันทั่วไปนี่แหละค่ะ เพียงแต่เนื้อนั้นไม่ใช่เนื้อวัวหรือเนื้อหมู แต่เป็น “เนื้อแกะ” !!
เจงกิสข่านเป็นเมนูที่คุ้นเคยกันดีสำหรับชาวฮอกไกโดค่ะ อันที่จริงแล้วที่จังหวัดอื่น ๆ ก็มีการรับประทานเนื้อแกะเหมือนกัน แต่เจงกิสข่านของฮอกไกโดมีชื่อเสียงมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นของดีประจำฮอกไกโดที่คนไปเที่ยวต้องไปลองรับประทานดูสักครั้งค่ะ
ส่วนใหญ่แล้ว เมนูนี้จะย่างบนเตาแบบเฉพาะพิเศษ ซึ่งเตานั้นจะมีลักษณะเหมือนเป็นโดมตรงกลางคล้ายกับเตาสีดำของบาบีคิวพลาซ่าในบ้านเรา บางที่ก็หมักเนื้อกับน้ำจิ้มไว้ก่อน บางที่ก็จิ้มทีหลัง ย่างเนื้อตรงกลาง และใส่ผักรอบ ๆ ส่วนใหญ่จะใส่ถั่วงอก พริกหยวก หอมหัวใหญ่ค่ะ
จุดเริ่มต้นของเจงกิสข่านที่ฮอกไกโด
อันที่จริงแล้วเมนูเนื้อแกะนี้เพิ่งเริ่มเข้ามาในญี่ปุ่นได้ไม่นาน เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของญี่ปุ่น นั่นก็คือ ในช่วงยุคไทโช (ปีค.ศ. 1912 – 1926) เอง ส่วนชาวฮอกไกโดเริ่มรับประทานกันอย่างแพร่หลายในครัวเรือนในยุคถัดมาหรือช่วงต้นยุคโชวะ
ในปี 1918 เริ่มมีการเลี้ยงแกะในฮอกไกโดเพื่อผลิตขนแกะสำหรับชุดทหาร จากที่ก่อนหน้านี้จะเป็นการนำเข้าซะส่วนใหญ่ แต่ช่วงระหว่างสงครามไม่สามารถนำเข้าได้ จึงเริ่มผลิตเองในประเทศแทน โดยมีแหล่งเพาะพันธุ์อยู่ที่สึคิซามุ เมืองซัปโปโร และ เมืองทาคิคาวะ
และหลังจากนั้นก็เริ่มมีการใช้ประโยชน์จากแกะมากขึ้น เอกสารในปี 1931 มีบันทึกว่าเริ่มมีการนำเนื้อแกะมาทำเป็นอาหาร ในปี 1936 ก็มีเอกสารปรากฏว่ามีงานเลี้ยงกินหม้อไฟเจงกิสข่านที่ซัปโปโร และหลังจากนั้น เจงกิสข่านก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
จากที่ตอนแรกถูกมองว่าเป็นอาหารราคาถูกในบรรดาเมนูเนื้อย่าง แต่ด้วยชื่อที่ค่อนข้างมีอิมแพค ทำให้เมนูนี้แพร่หลายภายในฮอกไกโดมากขึ้น ถึงแม้ว่าช่วงหลังสงครามจำนวนแกะเลี้ยงจะลดลง แต่ก็มีการใช้เนื้อแกะนำเข้าแทน จนปัจจุบันเมนูเจงกิสข่ายกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินที่ขาดไม่ได้ของชาวฮอกไกโด
เอ๊ะ! แล้วทำไมถึงชื่อเจงกิสข่านล่ะ?
สงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมเมนูเนื้อแกะย่างนี้ถึงชื่อ เจงกิสข่าน ผู้เขียนก็สงสัยเช่นกันค่ะ หลังจากที่ได้ไปค้นหาคำตอบมา ดูเหมือนจะมีข้อสันนิษฐานหลายแบบเลยค่ะ
1. มาจาก เจงกิสข่านแห่งจักรวรรดิมองโกล
ข้อสันนิษฐานแรกมาจากเจงกิสข่าน จักรพรรดินักรบชาวมองโกล ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิมองโกล ชื่อที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูหรือเคยได้ยินประวัติของเขากันอยู่
ว่ากันว่าในระหว่างการเดินทาง เจงกิสข่านให้เหล่าทหารกินเนื้อแกะเพื่อประทังชีวิต จึงทำให้เป็นที่มาของชื่อนี้ค่ะ แต่ดูเหมือนว่าในบรรดาอาหารมองโกลจะไม่มีอาหารประเภทนี้อยู่ อ่าว..ซะงั้น
2. มาจาก เมนูของจีน
ข้อสันนิษฐานต่อมา ว่ากันว่ามาจากเมนูเนื้อแกะย่างของจีน ที่ต่อมาได้มีการนำมาทำเป็นสไตล์ญี่ปุ่น และตั้งชื่อว่า “เจงกิสข่าน” โดยถ้าพูดถึงเนื้อแกะ ก็ต้องนึกถึง มองโกล และมองโกล = เจงกิสข่าน ฮีโร่แห่งมองโกล
3. มาจาก หมวกเกราะ?
ส่วนข้อนี้มาจากหม้อที่ใช้สำหรับทำเจงกิสข่านนั้นคล้ายกับหมวกเกราะที่กองทัพของเจงกิสข่านใช้ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อนี้ค่ะ
เป็นอย่างไรคะ แต่ละข้อสันนิษฐานนี่ไม่รู้ว่าเชื่ออันไหนดีเลย แต่อย่างไรก็ตามถ้าไปฮอกไกโดแล้วพูดถึงเจงกิสข่าน รับรองว่าไม่มีชาวฮอกไกโดคนไหนไม่รู้จักแน่นอนค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ยังมีวัฒนธรรมย่างเนื้อแกะหรือกินเมนูเจงกิสข่านใต้ต้นซากุระด้วย ชมดอกไม้ใต้ต้นซากุระไป ย่างเนื้อแกะกินไป เป็นธรรมเนียมหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่เลยทีเดียวค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก kai-hokkaido, jpnculture, bellfoods, hokkaidofan