ในญี่ปุ่นมีผลไม้ประจำท้องถิ่นมากมาย ในจำนวนนั้นมีผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าสารอาหารสูงและหารับประทานสดได้เฉพาะในพื้นที่จังหวัดฮอกไกโดเท่านั้น คือ ผลแฮสแคป (Haskap, ハスカップ) หรือ ฮันนี่เบอรี่ (Honeyberry) มารู้จักผลไม้ชนิดนี้และคุณค่าสารอาหารต่อร่างกายกันค่ะ
รู้จักผลแฮสแคป
แฮสแคป เป็นไม้ผลทรงพุ่มที่มีความสูงประมาณ 1- 2 เมตร ออกผลในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ผลมีลักษณะคล้ายบลูเบอร์รี่ แต่แตกต่างกันตรงที่ผลบลูเบอร์รี่มีลักษณะเป็นทรงกลม แต่ผลของแฮสแคปเป็นรูปทรงกลมยาวปลายตัด น้ำหนักประมาณ 1.3 – 2.2 กรัม ผลมีสีม่วงเข้ม มีรสหวานอมเปรี้ยวและฉ่ำ ด้วยว่ามีผิวเปลือกบางกว่าบลูเบอร์รี่ทำให้ยากที่จะขนส่งผลไม้ชนิดนี้ไปจำหน่ายสดในพื้นที่ห่างไกลจากฮอกไกโด แม้แต่คนในพื้นที่ฮอกไกโดเองก็หารับประทานได้ยาก กล่าวกันว่าการได้ไปเจอผลแฮสแคปสดวางจำหน่ายคือความโชคดี
ประโยชน์และคุณค่าสารอาหารต่อร่างกาย
แฮสแคปได้ชื่อว่าเป็นผลไม้อมตะที่ทำให้สุขภาพแข็งแรงและชะลอความแก่ เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีคุณค่าสารอาหารที่สำคัญดังนี้คือ
1. วิตามินอี
วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวันและโรคมะเร็งได้
2. วิตามินซี
วิตามินซีที่มีมากในผลแฮสแคปจะช่วยเสริมการทำงานของวิตามินอีในการต้านอนุมูลอิสระที่เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย จึงช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวันและโรคมะเร็งได้ อีกทั้งวิตามินซียังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงและช่วยให้ผิวพรรณสวยงามด้วย
3. โพลีฟีนอล
แฮสแคปมีปริมาณโพลีฟีนอลสูงกว่าบลูเบอร์รี่ สารชนิดนี้ทำหน้าที่ต้านสารอนุมูลอิสระที่ส่งผลทำลายเนื้อเยื่อในร่างกาย และยังบำรุงสายตา ช่วยให้มองเห็นได้ดี
วิธีการจำหน่ายและนำมารับประทาน
ผลแฮสแคปบอบบางมากจึงเสียสภาพทางกายภาพได้ง่าย เกษตรกรผู้ผลิตจึงใช้วิธีการจำหน่ายผลแฮสแคปโดยการแช่แข็ง และนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เช่น แยม น้ำส้มสายชูจากผลแฮสแคป ไอศกรีม คุกกี้สอดไส้แยมจากผลแฮสแคป เค้กโรล และเครื่องดื่ม เป็นต้น
ยังมีผลไม้อีกหลายชนิดในโลกที่เราไม่เคยรู้จัก ผลแฮสแคปเป็นผลไม้ที่ผู้เขียนเพิ่งรู้จักเหมือนกันค่ะ ไว้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น หากมีโอกาสไปฮอกไกโดก็ลองหาผลไม้ดังกล่าวมาลองชิมดูค่ะ
สรุปเนื้อหาจาก: hokkaido-labo