เมื่อพูดถึงคาราอาเกะ คนญี่ปุ่นมักนึกถึงไก่ทอดคาราอาเกะ และแทบจะไม่มีคนนึกถึงเนื้อหมูหรือเนื้อวัวเลย มารู้คำจำกัดความของคาราอาเกะและเหตุผลที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เลือกใช้ไก่เป็นวัตถุดิบในการทอดไก่ทอดคาราอาเกะกันค่ะ
คำจำกัดความของคาราอาเกะ
คาราอาเกะ (唐揚げ) เป็นวิธีการปรุงอาหารที่ใช้การทอดด้วยน้ำมัน โดยนำวัตถุดิบมาปรุงรส โรยด้วยแป้งสาลีหรือแป้งมันฝรั่งเล็กน้อยแล้วนำลงทอดในน้ำมัน คนทั่วไปมักจะคิดว่าคาราอาเกะนั้นมีเพียงวัตถุดิบที่เป็นไก่ แต่จริง ๆ แล้วใช้วัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ปลา กุ้ง ผัก และเนื้อสัตว์อื่นๆ ได้ด้วย
4 เหตุผลที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานไก่คาราอาเกะมากกว่าเนื้อหมูหรือเนื้อวัว
1. เนื้อไก่มีส่วนประกอบของน้ำสูงกว่าเนื้อหมูและเนื้อวัว
เนื้อไก่มีส่วนประกอบของน้ำสูงกว่าเนื้อหมูและวัว ดังนั้นเมื่อนำมาทอดจะได้ไก่ทอดที่นุ่มและฉ่ำ แม้ว่าจะวางไว้จนเย็น แต่เนื้อไก่จะยังคงความนุ่มและรับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย อีกทั้งส่วนประกอบของน้ำที่สูงกว่าทำให้เนื้อไก่สามารถดูดซึมรสชาติความอร่อยจากส่วนผสมของเครื่องปรุงรสได้ดีกว่าเนื้อหมูและเนื้อวัว
2. ปริมาณของโปรตีนคอลลาเจนในเนื้อไก่น้อยกว่า
เนื้อหมูและเนื้อวัวมีปริมาณโปรตีนคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสูงกว่าเนื้อไก่ โดยปกติโปรตีนชนิดนี้จะแข็งตัวเมื่อให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 65 องศาเซลเซียส ดังนั้นหากนำมาทอด เนื้อหมูและเนื้อวัวจะมีรสชาติแข็งกว่าไก่ทอด
3. อุณหภูมิที่ไขมันในเนื้อไก่ละลายต่ำกว่าเนื้อหมูและเนื้อวัว
อุณหภูมิที่ไขมันในเนื้อสัตว์ละลายมีดังนี้ เนื้อไก่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส เนื้อหมูประมาณ 40 องศาเซลเซียส และเนื้อวัวประมาณ 45 องศาเซลเซียส อุณหภูมิร่างกายของคนเราอยู่ที่ประมาณ 36 องศาเซลเซียส ไขมันของไก่จะละลายในปากจึงทำให้รู้สึกว่าไก่ทอดมีรสชาติอร่อยแม้จะวางไว้จนเย็น
4. เนื้อไก่มีราคาถูกกว่าเนื้อหมูและเนื้อวัว
เนื้อไก่มีราคามาตรฐานตั้งแต่ 48-148 เยนต่อ 100 กรัม หมูเนื้อมีราคาตั้งแต่ 108-220 เยนต่อ 100 กรัม และเนื้อวัวมีราคาตั้งแต่ 280-580 เยนต่อ 100 กรัม ดังนั้นเมื่อต้องจำหน่ายตามร้านขายอาหาร เนื้อหมูหรือเนื้อวัวทอดคาราอาเกะจะมีราคาแพงกว่า ทั้งที่รสชาติอาจอร่อยน้อยกว่า
ผู้เขียนเองก็เคยทำหมูทอดคาราอาเกะ แต่ทอดออกมาแล้วเนื้อแข็งและไม่อร่อยเหมือนไก่ทอดคาราอาเกะ แต่หากเป็นหมูทอดกระเทียมกับข้าวเหนียวของเมืองไทยล่ะก็บอกเลยค่ะว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม
สรุปเนื้อหาจาก sazalab