พูดถึงข้าวเกรียบในไทย ที่เรารู้จักกันดีมักเป็นรสปลาหรือรสกุ้ง บางทีเราก็คิดว่าข้าวเกรียบกุ้งที่อยู่ในซองเป็นแท่งๆ ที่เรากินนับว่าเป็นข้าวเกรียบ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ข้าวเกรียบอย่างที่คนไทยคุ้นชินกัน แต่เป็นขนมจำพวกเซมเบ้ (せんべい เขียนคันจิได้ว่า 煎餅) ของญี่ปุ่น ถึงจะคล้ายคลึงกันตรงที่ทำจากข้าวเหมือนกันแต่มีที่มาต่างกันครับ วันนี้จะขอพูดถึงที่มาของทั้ง “เซมเบ้” แล้วก็ “ข้าวเกรียบ” กันเลยนะครับ
1. เซมเบ้
นิยามของขนม “เซมเบ้” ของญี่ปุ่น คือขนมที่ทำโดยการนวด “แป้งข้าวเจ้า” หรือ “แป้งสาลี” แล้วแผ่เป็นแผ่นบาง ๆ กลม ๆ เอาไป “ปิ้ง” บนแผ่นเหล็ก (แต่ที่ทอดแบบน้ำมันท่วมก็มี)
มีคำกล่าวอ้างว่าขนมที่พอจะเคลมได้ว่าเป็นเซมเบ้ (คือเอาธัญพืชมาบดแหลกแล้วปิ้งกิน) นั้นมีมาแต่ยุคยาโยอิ เนื่องจากขุดพบสิ่งนี้ที่ซากโบราณสถานที่โยชิโนะการิ (吉野ヶ里遺跡) ในจังหวัดซากะ แต่ว่าเซมเบ้อย่างที่กินกันทุกวันนี้ ว่ากันว่ามีที่มาจากหญิงชราคนหนึ่งชื่อ “โอเซ็น” ซึ่งเปิดร้านขายดังโงะที่โซกะจูกุ (ปัจจุบันคือเมืองโซกะ 草加市 จังหวัดไซตามะ) ที่ทำเซมเบ้เพราะมีซามูไรคนหนึ่งไปบอกว่า “ลองเอาดังโงะมาบี้ให้แบน ๆ แล้วปิ้งดูหน่อยเป็นไร” ก็เลยเกิดขนมเซมเบ้ขึ้นมา บ้างก็ว่าเกิดจากชาวนาที่โซกะจูกุบี้ข้าวสวยให้แบน ๆ กลม ๆ เอาไปตากแดด ใส่เกลือ ปิ้ง กินเป็นของว่าง กลายเป็นของกินคนเดินทางเลยแพร่ไปทั่วประเทศ ตอนหลังจึงมีคนคิดทำเซมเบ้รสโชยุ แล้วก็ได้รับความนิยมไปทั่ว กลายเป็นเซมเบ้อย่างที่กินทุกวันนี้
แน่นอนว่าเมื่อแพร่หลายไปทั่ว ต่างที่ก็ต่างประดิษฐ์คิดค้นทำให้ได้หน้าตาและรสชาติแปลกใหม่ต่างกันออกไป เช่น ฮอลันดาเซมเบ้, โอะนิกิริเซมเบ้ (ทำเป็นรูปสามเหลี่ยม), โนริเซมเบ้ (พันสาหร่าย), หรือโทคาราชิเซมเบ้ (ใส่พริกป่น) เอบิเซมเบ้ (ที่คนไทยเรียกข้าวเกรียบกุ้ง) ทาโกะเซมเบ้ อะไรก็ไม่ฮาเท่า “ชิกะเซมเบ้” (เซมเบ้กวาง ไม่ได้ทำจากเนื้อกวางนะ แต่ทำขายเอาป้อนให้กวางกิน พบได้ที่จังหวัดนาราตามริมทางตามวัดแถวนั้น)
2. ข้าวเกรียบ
จริง ๆ อาหารของกินเล่นที่เรียกว่าข้าวเกรียบของไทยนั้นมีหลายอย่างตามท้องถิ่น เช่น ข้าวเกรียบว่าว (ทำจากข้าวเหนียวนึ่ง ตำให้เหนียวแล้วใส่น้ำตาล) ข้าวแคบ (ทำจากแป้งข้าวเหนียวที่เอาเมล็ดข้าวเหนียวมาโม่ ใส่น้ำ งาดำและเกลือ) แต่สองอย่างนี้เป็นของท้องถิ่นซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เห็น แต่ข้าวเกรียบที่คนไทยรู้จักกินในวงกว้างเห็นได้ตามตลาดทั่วไป เช่น ข้าวเกรียบปลา มีที่มาจากอินโดนีเซีย ข้าวเกรียบปลาแบบนี้ทำจากแป้งมัน (สมัยก่อนใช้แป้งสาคู) เอาแป้งผสมส่วนผสมปั้นแผ่เป็นชิ้นกลม ๆ แบน ๆ ตากแดกแล้วเอาไปทอดกินได้ และข้าวเกรียบแป้งมันนี่แหละที่มีสูตรดัดแปลงไปมากมาย เป็นข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบฟักทอง ข้าวเกรียบมันม่วง พบได้ตามร้านที่เขาขายถั่วต่าง ๆ ในตลาด ผู้เขียนชอบข้าวเกรียบปลามาก ๆ ครับ
ขอให้เจริญอาหารนะครับ สวัสดีครับ
สรุปเนื้อหาจาก เส้นทางเศรษฐี, Wikipedia, kamedaseika.co.jp
เขียนโดย: TU KeiZai-man